ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 1,800 ล้านบาท “บ. บางกอก เชน ฮอสปิทอล” ที่ระดับ “A-/Stable”

ข่าวทั่วไป Wednesday September 4, 2013 13:02 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 1,800 ล้านบาทของ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A-” โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปชำระคืนหนี้เงินกู้จากธนาคารพาณิชย์และใช้ในการขยายงานของโรงพยาบาลแห่งใหม่คือ “World Medical Center” (WMC) ทั้งนี้ อันดับเครดิตสะท้อนถึงความเป็นผู้นำของบริษัทในกลุ่มคนไข้รายได้ระดับปานกลางถึงระดับต่ำลงมา ตลอดจนฐานรายได้ที่หลากหลาย และคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์ อย่างไรก็ตาม การประเมินอันดับเครดิตยังคำนึงถึงภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นและอัตรากำไรที่ลดลงในระยะแรกของการเปิดโรงพยาบาล WMC ตลอดจนการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจการรักษาพยาบาล ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านสุขภาพภาครัฐ และความเสี่ยงจากการขยายธุรกิจของบริษัท ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะยังคงรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในกลุ่มลูกค้ารายได้ระดับปานกลางและลูกค้าประกันสังคมเอาไว้ได้ รวมทั้งสามารถลดผลขาดทุนจากโรงพยาบาล WMC ในขณะเดียวกันบริษัทก็ควรดำเนินนโยบายทางการเงินอย่างระมัดระวังสำหรับการลงทุนในอนาคตเพื่อที่จะคงคุณภาพเครดิตของบริษัท รวมทั้งรักษาอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนให้ต่ำกว่า 50%

บริษัทบางกอก เชน ฮอสปิทอลเป็นเจ้าของและบริหารกิจการโรงพยาบาลจำนวน 6 แห่งภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลเกษมราษฎร์” และโรงพยาบาลใหม่ภายใต้แบรนด์ “World Medical Center” โดย 5 แห่งตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนอีก 2 แห่งอยู่ในจังหวัดเชียงราย และสระบุรี หลังจากตัดสินใจออกจากระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าในปี 2553 บริษัทมีรายได้จากลูกค้า 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคนไข้เงินสดและกลุ่มคนไข้โครงการประกันสังคม บริษัทมีสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งจากการเป็นผู้นำในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการสุขภาพภาครัฐ โดยในระยะกว่า 5 ปีที่ผ่านมามีสัดส่วนจำนวนผู้ประกันตนในโครงการประกันสังคมในเขตกรุงเทพฯ ประมาณ 9%-11% การมีฐานจำนวนผู้ประกันตนจำนวนมากช่วยให้บริษัทมีความได้เปรียบจากการประหยัดต่อขนาด ในขณะที่ลักษณะของธุรกิจที่มีรายได้จากกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายช่วยเสริมความมั่นคงให้แก่ผลประกอบการ นอกจากนี้ การเข้าร่วมโครงการสุขภาพภาครัฐยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายจากการมีรายได้ที่สม่ำเสมอ และยังช่วยคงระดับการใช้งานเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีต้นทุนสูงไม่ให้ต่ำเกินไปด้วย โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2556 บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มคนไข้เงินสดอยู่ที่ 65% และกลุ่มคนไข้โครงการประกันสังคม 35% ตามลำดับ

บริษัทได้เปิดโรงพยาบาลแห่งที่ 7 โรงพยาบาล WMC อย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2556 โดยเริ่มเปิดให้บริการ 150 เตียงจากจำนวนเต็ม 320 เตียง WMC เน้นรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูงในพื้นที่แจ้งวัฒนะซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีอัตราการขยายตัวรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริษัทยังมีข้อจำกัดในด้านผลงานและชื่อเสียงที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของกลุ่มเป้าหมาย บริษัทจึงต้องเผชิญกับความท้าทายในการที่จะขยายไปสู่ตลาดลูกค้ารายได้สูง ทั้งนี้ สถานะของบริษัทในตลาดลูกค้ารายได้สูงถือว่ายังไม่มีศักยภาพเท่าเทียมกับธุรกิจในปัจจุบัน สำหรับ 6 เดือนแรกของปี 2556 WMC มีผลขาดทุน 138.7 ล้านบาท ผู้บริหารของบริษัทคาดว่า WMC จะมีจุดคุ้มทุนในปี 2557

ในปี 2555 รายได้ของบริษัทเติบโตขึ้น 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าเป็น 4,466 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเติบโตขึ้นของลูกค้าทั้งกลุ่มลูกค้าเงินสดและกลุ่มลูกค้าประกันสังคม อัตราการทำกำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้นหลังจากบริษัทออกจากระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่มีอัตรากำไรต่ำ และการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ โดยกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 30% ในปี 2553 เป็น 34% ในปี 2555

ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2556 บริษัทมีรายได้จากโรงพยาบาลทั้ง 7 แห่งรวม 2,232 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม บริษัทมีกำไรสุทธิลดลง 36% จาก 444 ล้านบาท ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 เป็น 284 ล้านบาท ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2556 การลดลงดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากผลขาดทุนของโรงพยาบาล WMC นอกจากนี้ ภาระต้นทุนของ WMC ยังส่งผลต่ออัตราการทำกำไรรวมของบริษัท สำหรับ 6 เดือนแรกของปี 2556 บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานลดลงเป็น 25.4% จาก 34.1% ในปี 2555

ในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีภาระหนี้เพิ่มสูงขึ้นมาก โดยมีสาเหตุหลักเพื่อการสนับสนุนโครงการ WMC ภาระหนี้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 1,133 ล้านบาท ในปี 2554 เป็น 2,745 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็น 39.0% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 จาก 23.9% ในปี 2554 อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีสถานะสภาพคล่องที่ยอมรับได้ที่อันดับเครดิตปัจจุบัน ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2556 บริษัทมีสภาพคล่องโดยวัดจากอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายที่ 8.6 เท่า และมีอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมสูงถึง 38.8% (ปรับให้เป็นตัวเลขเต็มปี โดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง 12 เดือน)

ในอนาคต บริษัทมีแผนที่จะเปิดโรงพยาบาลเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าประกันสังคมโดยเฉพาะ รวมทั้งมีแผนจะลงทุนเพิ่มเติมใน WMC ดังนั้น ภาระหนี้ของบริษัทมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทควรรักษาระดับอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนให้ต่ำกว่า 50% นอกจากนี้ ยังคาดหมายว่าบริษัทจะสามารถปรับปรุงผลการดำเนินการให้ดีขึ้น และสามารถชำระหนี้คืนได้อย่างไม่มีปัญหา

บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) (BCH)
อันดับเครดิตองค์กร: A-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
BCH161A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2559 A-
BCH181A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2561 A-
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 1,800 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2560 A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ