ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและแนวโน้ม “บ. ปริญสิริ” ที่ “BBB-/Stable”

ข่าวทั่วไป Monday September 30, 2013 13:02 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงผลงานของบริษัทที่เป็นที่ยอมรับในตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านจัดสรร รวมถึงแบรนด์ที่เริ่มเป็นที่รู้จักในตลาดคอนโดมิเนียม และความเสี่ยงทางธุรกิจที่อยู่ในระดับปานกลาง อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากฐานรายได้ของบริษัทที่ยังมีขนาดเล็ก และระดับอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงลักษณะของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลงและมีการแข่งขันสูง รวมถึงความกังวลในด้านต้นทุนการพัฒนาโครงการที่ปรับตัวสูงขึ้นและภาวะขาดแคลนแรงงานด้วย ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถปรับปรุงผลการดำเนินงานให้ดีขึ้นและสามารถโอนที่อยู่อาศัยให้แก่ลูกค้าได้ตามแผน อัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทไม่ควรต่ำกว่าที่ระดับ 10% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนคาดว่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 55% ทั้งนี้ การลดลงของความสามารถในการทำกำไรหรือการเพิ่มขึ้นของอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนจะส่งผลกระทบอย่างมากต่ออันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัท

บริษัทปริญสิริเป็นผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางซึ่งก่อตั้งในปี 2543 โดยกลุ่มตระกูลโกวิทจินดาชัยและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2548 กลุ่มตระกูลโกวิทจินดาชัยยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทในสัดส่วน 38% ของหุ้นทั้งหมด ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2556 บริษัทเป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่หลากหลายซึ่งรวมถึงบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียมที่เน้นกลุ่มลูกค้ารายได้ระดับปานกลางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ณ เดือนมิถุนายน 2556 บริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัยจำนวน 24 โครงการ ด้วยมูลค่าเหลือขายประมาณ 3,700 ล้านบาท โดยบริษัทมียอดขายที่รอการส่งมอบประมาณ 1,900 ล้านบาท ในช่วงปี 2555 จนถึงครึ่งแรกของปี 2556 รายได้จากทาวน์เฮ้าส์ยังคงเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัทซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 58% ของรายได้รวม

ในปี 2555 บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็น 3,076 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 45% จาก 2,116 ล้านบาทในปี 2554 ทั้งนี้ การเติบโตของยอดขายเป็นผลมาจากยอดขายของทาวน์เฮ้าส์ซึ่งคิดเป็น 60% ของยอดขายทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยอดขายในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 อยู่ที่ 1,177 ล้านบาท โดยลดลง 24% จากช่วงเดียวกันของปี 2555 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมเพียงโครงการเดียวในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 ยอดขายของบริษัทในช่วงครึ่งหลังของปี 2556 คาดว่าจะดีขึ้นเนื่องจากบริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่อีก 5 โครงการด้วยมูลค่ารวมประมาณ 4,800 ล้านบาท

รายได้รวมของบริษัทในปี 2555 เพิ่มขึ้นเป็น 2,803 ล้านบาท จาก 2,238 ล้านบาทในปี 2554 อย่างไรก็ตาม รายได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 ลดลงเป็น 1,109 ล้านบาท โดยลดลง 23% จาก1,434 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2555 ทั้งนี้ การลดลงของรายได้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการโอนที่ลดลงของจำนวนที่อยู่อาศัยแนวราบซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาการก่อสร้าง ทำให้บริษัทต้องเลื่อนการส่งมอบที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ให้แก่ลูกค้าออกไปในบางโครงการประมาณ 6-12 เดือน โดยในขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงขั้นตอนการก่อสร้างให้ดีขึ้น ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทในปี 2556 จะอยู่ที่ระดับ 2,300-2,500 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

ในปี 2554-2555 บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูงที่ 36%-37% ของรายได้ อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 ลดลงเป็น 33% ในขณะที่อัตรากำไรจากการดำเนินงานซึ่งวัดจากอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ลดลงเป็น 10.65% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2556 จาก 15.88% ในปี 2555 อันเนื่องมาจากฐานรายได้ที่ลดลง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 บริษัทมีเงินกู้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 3,661 ล้านบาท จาก 3,058 ล้านบาทในปี 2555 โดยผลการดำเนินงานที่ลดลงและภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นทำให้ความเข้มแข็งของกระแสเงินสดของบริษัทลดลงในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 ส่งผลให้อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมของบริษัทอยู่ที่ระดับ 6.59% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 (ปรับเป็นอัตราส่วนเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) โดยลดลงจาก 11.89% ในปี 2555 ในขณะที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็น 49.45% ณ เดือนมิถุนายน 2556 จาก 44.82% ในปี 2555 ทั้งนี้ ตามการคาดการณ์ของทริสเรทติ้ง อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทไม่ควรเกินกว่าระดับ 55% ในช่วง 3 ปีข้างหน้าเนื่องจากข้อกำหนดทางการเงินบังคับให้บริษัทต้องรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนให้อยู่ที่ระดับไม่เกิน 2 เท่า

บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) (PRIN)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ