ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 1,300 ล้านบาท “บ. ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น” ที่ระดับ “A/Stable”

ข่าวทั่วไป Monday October 7, 2013 09:02 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 1,300 ล้านบาทของ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A” เช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะผู้นำของบริษัทในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่า ตลอดจนกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากรายได้ค่าเช่าโรงงานและคลังสินค้า อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการลงทุนจำนวนมากและความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนทั่วโลกถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่ออันดับเครดิตของบริษัท ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” อยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่าได้ต่อไป แม้บริษัทจะมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนสำหรับการพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าในทำเลใหม่จำนวนมาก แต่การลงทุนดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทลดการพึ่งพิงพื้นที่ให้เช่าที่มีอยู่ในเขตจังหวัดอยุธยาลง

บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่นเป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าในประเทศไทย โดยก่อตั้งในปี 2533 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2545 บริษัทได้ขยายธุรกิจสู่การให้บริการคลังสินค้าให้เช่าตั้งแต่ปี 2548 โดย ณ เดือนกรกฎาคม 2556 บริษัทมีโรงงานให้เช่าจำนวน 109 แห่งและมีคลังสินค้าให้เช่าจำนวน 72 แห่งซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมสำคัญ ๆ และพื้นที่โลจิสติกส์หลักของประเทศ รวมเป็นพื้นที่ให้เช่าทั้งสิ้น 584,708 ตารางเมตร (ตร.ม.) ในช่วงที่ผ่านมารายได้หลักของบริษัท (มากกว่า 60%) มาจากการขายสินทรัพย์ของบริษัทเข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่ประมาณ 30% ของรายได้มาจากค่าเช่าโรงงานและคลังสินค้า ในระหว่างปี 2550-2553 บริษัทมีรายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจีสติคส์ (TLOGIS) ประมาณ 1,500-2,200 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปลายปี 2554 บริษัทได้เลื่อนการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ส่วนหนึ่งไปเป็นปี 2555 เป็นผลทำให้มูลค่าสินทรัพย์ที่ขายให้แก่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในปี 2554 ลดลงเหลือ 944 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 4,333 ล้านบาทในปี 2555

ปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทยังคงเป็น บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) (20.6%) กลุ่มซิตี้เรียลตี้ (6.6%) และกลุ่มผู้บริหารของบริษัท (6.5%) ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทมาจากผลงานการให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปที่มีคุณภาพ รวมทั้งความสามารถในการก่อสร้างโรงงานสำเร็จรูปตามมาตรฐานในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งจากการใช้ทีมงานก่อสร้างของบริษัทเอง ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานสำเร็จรูปให้เช่ากระจายตัวอยู่ในทำเลต่าง ๆ 15 ทำเลและมีคลังสินค้าให้เช่าอีก 16 ทำเล รายงานของ CB Richard Ellis (CBRE) ระบุว่าบริษัทยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศไทย ณ เดือนมีนาคม 2556 บริษัทและ TFUND มีส่วนแบ่งทางการตลาดของพื้นที่โรงงานให้เช่ารวม 56% ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งรายอื่นเป็นอย่างมาก โดยคู่แข่งสำคัญประกอบด้วย บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (17%) บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (10%) บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) (10%) บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล 1 (7%) นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้ให้บริการคลังสินค้าให้เช่ารายใหญ่ที่สุดของประเทศ จากข้อมูลของ CBRE และข้อมูลที่ทริสเรทติ้งรวบรวมไว้ พื้นที่คลังสินค้าให้เช่าของบริษัทและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ คิดเป็น 40% ของพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าของทั้งประเทศ รองลงมาเป็นของ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (32%)

ในปี 2555 ผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงงานให้เช่าของบริษัทอ่อนตัวลงเล็กน้อยจากเหตุอุทกภัยเมื่อช่วงปลายปี 2554 หากไม่นับรวมผลกระทบจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมแล้ว พื้นที่โรงงานให้เช่าของบริษัทลดลง 5% ในปี 2555 ในขณะที่พื้นที่คลังสินค้าให้เช่าของบริษัทเติบโต 44% ในช่วงเวลาเดียวกัน ส่งผลให้พื้นที่ให้เช่ารวมเพิ่มขึ้น 15% ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจคลังสินค้าช่วยลดผลกระทบจากธุรกิจโรงงานให้เช่าที่อ่อนตัวลงในปี 2555 ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2556 พื้นที่ให้เช่ารวมเพิ่มขึ้น 13% จาก 518,948 ตร.ม. ณ สิ้นปี 2555 เป็น 584,708 ตร.ม. ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2556 ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2556 พื้นที่โรงงานให้เช่าเพิ่มขึ้น 15% โดยเพิ่มขึ้นอย่างมากในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก ส่วนการเติบโตของพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าชะลอตัวลง โดยเพิ่มขึ้น 10%

ถึงแม้ว่าพื้นที่ให้เช่าและรายได้ค่าเช่าในปี 2555 และครึ่งแรกของปี 2556 จะเพิ่มขึ้น แต่อัตราการเช่า ยกเว้นพื้นที่เช่าล่วงหน้า (Pre-leased area) ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2556 กลับปรับตัวลดลงเป็น 67% เปรียบเทียบกับ 73% ณ สิ้นปี 2555 และ 94% ณ สิ้นปี 2554 อัตราการเช่าที่ลดลงมีสาเหตุหลักมาจากการขยายตัวของพื้นที่คลังสินค้าและโรงงานให้เช่าในทำเลใหม่ในช่วงปี 2555 ถึงปี 2556 รวมทั้งยังมีพื้นที่ให้เช่าที่ว่างจำนวนมากในเขตที่เคยน้ำท่วม

รายได้ค่าเช่าของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2555 ถึงครึ่งแรกของปี 2556 โดยรายได้ค่าเช่าในปี 2555 เพิ่มขึ้น 20% เป็น 1,053 ล้านบาทจาก 880 ล้านบาทในปี 2554 สำหรับช่วง 6 เดือนแรกของปี 2556 รายได้ค่าเช่าอยู่ที่ระดับ 558 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตรากำไรขั้นต้นของค่าเช่าในครึ่งแรกของปี 2556 เท่ากับ 73% ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดที่ 63% ในปี 2555 หลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ การเพิ่มขึ้นของกำไรขั้นต้นเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของพื้นที่เช่าโดยเฉพาะในส่วนของโรงงานให้เช่า การปรับขึ้นราคาค่าเช่า การลดลงของค่าซ่อมแซมจากเหตุการณ์อุทกภัย และการหยุดคิดค่าเสื่อมราคาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขายในเดือนพฤษภาคม 2556 หากไม่รวมผลกระทบจากการจัดประเภทสินทรัพย์ใหม่ อัตรากำไรขั้นต้นของค่าเช่าในครึ่งแรกของปี 2556 จะเท่ากับ 69% ถึงแม้อัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังคงน้อยกว่าระดับ 72%-77% ที่บริษัทสามารถทำได้ในช่วงปี 2551-2554 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาภายหลังจากเหตุอุทกภัย

ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนเพิ่มขึ้นมากเนื่องจากบริษัทลงทุนสร้างโรงงานและคลังสินค้าในทำเลอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในเขตภาคตะวันออกและจังหวัดใหญ่ ๆ บริษัทมีภาระหนี้เงินกู้รวมเพิ่มขึ้นเท่ากับ 15,257 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 เทียบกับ 8,757 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2554 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็น 66.5% ณ เดือนมิถุนายน 2556 จาก 60.4% ในปี 2554 อัตราส่วนหนี้สินของบริษัทในระยะสั้นคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงและค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากบริษัทมีแผนจะลงทุนเพิ่มประมาณ 12,000 ล้านบาทในปี 2556 และประมาณปีละ 8,000-9,000 ล้านบาทในปี 2557-2558 เงินลงทุนในปี 2556 ส่วนใหญ่จะนำไปใช้ซื้อที่ดินในจังหวัดสำคัญ ๆ และในเขตพื้นที่โลจิสติกส์หลักของประเทศ ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น สุราษฎร์ธานี และพื้นที่บริเวณถนนบางนา-ตราด เป็นต้น ทั้งนี้ เงินลงทุนดังกล่าวส่วนหนึ่งจะมาจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) โดยบริษัทมีแผนจะขายโรงงานและคลังสินค้ามูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาทในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2556

ภายหลังจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2555 หลังจากเหตุอุทกภัย ประเทศไทยต้องเผชิญกับปัจจัยท้าทายหลายประการในปี 2556 อาทิ ภาวะการส่งออกที่อ่อนตัวลงเนื่องจากความต้องการที่ลดลงทั่วโลก รวมทั้งการชะลอตัวของการบริโภคภาคเอกชนในประเทศซึ่งส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ลง ถึงแม้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจะลดลง แต่ประเทศไทยก็ยังคงเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างประเทศที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมหลายประเภทโดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 มีโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมส่งเสริมการลงทุนมีมูลค่ารวมสูงถึง 632 พันล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นถึง 47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การที่ประเทศไทยเป็นที่นิยมของนักลงทุนต่างประเทศก็เนื่องด้วยปัจจัยหลายประการ เช่น การมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนระหว่างประเทศและมีสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ดี อีกทั้งยังอยู่ในทำเลที่มีความได้เปรียบในการแข่งขันโดยเฉพาะในขณะที่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนกำลังจะเกิดขึ้นด้วย

บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) (TICON)
อันดับเครดิตองค์กร: A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TICON141A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A
TICON155A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A
TICON158A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A
TICON162A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A
TICON165A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 650 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A
TICON165B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A
TICON169A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A
TICON171A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A
TICON177A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A
TICON178A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A
TICON185A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A
TICON187A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 350 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A
TICON189A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A
TICON205A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A
TICON229A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 1,300 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2566 A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ