ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “AA-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตดังกล่าวได้รับการปรับเพิ่มขึ้นจากสถานะอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทในฐานะเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทสะท้อนถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และวาณิชธนกิจ ตลอดจนแนวทางการบริหารงานที่ระมัดระวังของคณะผู้บริหาร ความยืดหยุ่นทางการเงินจากการเป็นบริษัทลูกของธนาคารกรุงเทพ รวมถึงศักยภาพในการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายและความสัมพันธ์กับกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ที่กลุ่มธนาคารกรุงเทพมีอยู่อย่างกว้างขวางทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของธุรกิจหลักทรัพย์และแรงกดดันด้านอัตราค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ภายหลังการเปิดเสรีอย่างเต็มรูปแบบเมื่อปี 2555 ที่ผ่านมายังคงเป็นข้อจำกัดที่สะท้อนอยู่ในการจัดอันดับเครดิตของบริษัทในครั้งนี้ด้วย ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่า บล. บัวหลวง จะสามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งทางธุรกิจของบริษัทและการสนับสนุนจากกลุ่มธนาคารกรุงเทพในการรักษาความมั่นคงของธุรกิจและฐานะทางการเงินไว้ได้ท่ามกลางแรงกดดันในการตั้งราคาและการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นภายหลังการเปิดเสรีค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ นอกจากนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตดังกล่าวยังคำนึงถึงนโยบายที่ระมัดระวังของบริษัทในการลงทุนและการให้สินเชื่อเพื่อการซื้อหลักทรัพย์ ตลอดจนความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะกระจายแหล่งที่มาของรายได้และขยายฐานลูกค้ารายย่อยของบริษัทด้วย
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวงมีสถานะทางการตลาดที่เข้มแข็งในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดในแง่ปริมาณการซื้อขายอยู่ในระดับ 4%-5% ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและมีอัตราค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ส่วนแบ่งรายได้ของบริษัทในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เทียบกับอุตสาหกรรมเติบโตอย่างต่อเนื่องจาก 3.5% ในปี 2550 มาเป็น 5.4% ในครึ่งแรกของปี 2556 นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้นำในธุรกิจวาณิชธนกิจด้วย โดยมีรายได้จากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์รวมกับรายได้จากการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยปีละกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งจัดว่ามากเป็นอันดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม
บริษัทมีความเสี่ยงไม่มากจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์เนื่องจากบริษัทมีนโยบายการลงทุนที่จำกัดอยู่เพียงการหาผลตอบแทนแบบ Arbitrage และการป้องกันความเสี่ยงจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์เท่านั้น บริษัทได้ออกจำหน่ายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์เป็นครั้งแรกในปี 2553 และจัดได้ว่าเป็นผู้นำตลาดในผลิตภัณฑ์นี้ ในการบริหารความเสี่ยงด้านราคา บริษัทใช้กลยุทธ์ Dynamic Delta Hedging เพื่อลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าอ้างอิง ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าระบบบริหารจัดการความเสี่ยงของบริษัทจะยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันไม่ให้บริษัทต้องขาดทุนจากการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในระดับที่สูงเกินไป ในด้านความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์นั้น บริษัทมียอดการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์คงค้างจำนวน 975 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 ซึ่งคิดเป็น 30% ของส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทและเป็น 2.1% ของการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ของทั้งอุตสาหกรรม ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานการให้สินเชื่อที่ระมัดระวังถึงแม้ว่าบริษัทมีแผนจะขยายขนาดการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ก็ตาม
การเป็นบริษัทในกลุ่มธนาคารกรุงเทพให้ประโยชน์แก่บริษัทหลายประการ บริษัทได้ใช้สาขาของธนาคารกรุงเทพเป็นช่องทางสำคัญช่องทางหนึ่งในการขยายฐานลูกค้ารายย่อยของบริษัท โดยบัญชีลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์ราว 1 ใน 3 ที่บริษัทได้เพิ่มมาในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 เป็นลูกค้าที่ผ่านการแนะนำจากธนาคารกรุงเทพ ความสัมพันธ์ที่ธนาคารกรุงเทพมีกับกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่มากมายช่วยให้บริษัทมีความได้เปรียบในการให้บริการลูกค้ากลุ่มสถาบันในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ เช่น การจัดกิจกรรมให้ลูกค้ามีโอกาสเข้าพบผู้บริหารของบริษัทใหญ่ ๆ ในตลาดหลักทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มธนาคารกรุงเทพเป็นกรณีพิเศษ เป็นต้น และในบางกรณี ความสัมพันธ์ดังกล่าวยังช่วยให้บริษัทได้ลูกค้าด้านวาณิชธนกิจเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากธนาคารกรุงเทพด้วย โดยบริษัทได้รับวงเงินสินเชื่อจากทางธนาคารเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ วงเงินสินเชี่อดังกล่าวน่าจะเพียงพอต่อความต้องการด้านสภาพคล่องของบริษัท
ธนาคารกรุงเทพได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทจาก 56.34% เป็น 99.75% ตามแนวกลยุทธ์ที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มในการให้บริการทางการเงินแบบครบวงจร ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพมุ่งหวังจะใช้ศักยภาพในตลาดทุนของบริษัทเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการลงทุนและหาแหล่งเงินทุนของลูกค้าในกลุ่มได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การที่ธนาคารกรุงเทพถือหุ้นเพิ่มขึ้นยังช่วยให้การจัดการเงินทุนภายในกลุ่มกระทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและช่วยให้ธนาคารสนับสนุนเงินทุนแก่บริษัทได้ในจำนวนที่มากขึ้นด้วย
บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีเมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้สุทธิอยู่ที่ระดับ 54% ในปี 2554 และ 49% ในปี 2555 เทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ระดับ 60% ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 อยู่ที่ประมาณ 3.2 พันล้านบาท บริษัทไม่ได้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นจากผลประกอบการในปี 2554 และ 2555 นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเพิ่มทุนอีก 1.6 พันล้านบาทจากผู้ถือหุ้นเดิมในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 ด้วย บริษัทตั้งใจจะใช้เงินทุนที่เพิ่มขึ้นในการขยายขีดความสามารถในการรับประกันการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ รวมทั้งขยายสินเชื่อเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ และขยายธุรกิจใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ บริษัทมีอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิต่อหนี้สินทั่วไป ณ สิ้นปี 2555 อยู่ที่ 52% เทียบกับเกณฑ์ที่ทางการกำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์ต้องดำรงไว้ที่ระดับ 7%
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html