ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่มีประกัน และแนวโน้ม “บ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์” ที่ “A+/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 16, 2013 13:02 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะผู้นำของบริษัทในธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านในประเทศไทย ตลอดจนผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง และผลงานในการบริหารศูนย์รวมวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่ครบวงจร ทั้งนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในหมู่ผู้ค้าปลีกสมัยใหม่ที่จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับบ้านและการชะลอตัวของการบริโภคในประเทศด้วย ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถรักษาผลประกอบการและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้โดยที่ยังคงอัตราการก่อหนี้ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ในขณะที่มีการขยายสาขา ทั้งนี้ ร้านค้ารูปแบบใหม่ของบริษัทคาดว่าจะช่วยขยายฐานลูกค้าและสร้างกำไรให้แก่บริษัทเพิ่มขึ้นในอนาคต

บริษัทโฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ เป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าและบริการเพื่อที่อยู่อาศัยแบบครบวงจรภายใต้ชื่อ “โฮมโปร” ปัจจุบันผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทประกอบด้วย บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (30.23%) และ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (19.77%) บริษัทจำหน่ายสินค้าและให้บริการที่เกี่ยวกับบ้านแบบครบวงจร อาทิ อุปกรณ์ปรับปรุงและซ่อมแซมบ้าน อุปกรณ์ห้องน้ำและเครื่องสุขภัณฑ์ เครื่องใช้ในครัว และเครื่องตกแต่งบ้าน ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา บริษัทประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจด้วยการเปิดสาขาใหม่โดยเฉลี่ย 7 สาขาต่อปี เปรียบเทียบกับในช่วงก่อนหน้าที่จำนวนเพียง 3 สาขาต่อปี โดยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมานิยมศูนย์ค้าปลีกสมัยใหม่เป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายสาขาของบริษัท

ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2556 บริษัทมีสาขารวมทั้งสิ้น 63 สาขา โดย 21 สาขาอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีก 42 สาขาอยู่ในต่างจังหวัด โดยสาขาที่เปิดใหม่ในปี 2556 มีทั้งหมด 11 แห่ง เมื่อรวมทุกสาขาแล้ว บริษัทมีพื้นที่ขายทั้งหมดประมาณ 445,700 ตารางเมตร (ตร.ม.) การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทำให้บริษัทสามารถสร้างฐานธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านที่แข็งแกร่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการขยายสาขาในต่างจังหวัดในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าเพิ่มเติมอีก

ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 28,363 ล้านบาทในปี 2554 เป็น 34,542 ล้านบาทในปี 2555และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 29,129 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 17.3% จากช่วงเดียวกันของปี 2555 อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทที่เพิ่มขึ้นจาก 26.0% ในปี 2555 เป็น 26.8% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นจากสินค้าที่เป็นตราสัญลักษณ์เฉพาะของบริษัทและการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน รวมถึงการปรับปรุงรายการสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

บริษัทมีเงินทุนจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 2,644 ล้านบาทในปี 2553 เป็น 3,993 ล้านบาทในปี 2555 และเป็น 3,430 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 สภาพคล่องของบริษัทอยู่ในเกณฑ์ดีจากการบริหารเงินสดที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ภาระหนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมากจากการขยายสาขาจำนวนมากและการสำรองสินค้าคงคลังสำหรับสาขาที่เปิดใหม่ โดยเงินกู้รวมเพิ่มขึ้นจาก 5,523 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2555 เป็น 10,168 ล้านบาท ณ เดือนกันยายน 2556 และอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็น 49.1% ในช่วงเวลาเดียวกัน เมื่อเทียบกับ 30%-40% ในช่วงระหว่างปี 2552- 2555 อย่างไรก็ตาม ภาระหนี้รวมของบริษัทคาดว่าจะดีขึ้นเนื่องจากบริษัทมีแผนการขายสิทธิในการเช่า “มาร์เก็ต วิลเลจ หัวหิน” มูลค่ารวมประมาณ 4,000 ล้านบาทให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2557

บริษัทได้เปิดร้านค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านรูปแบบใหม่ ดำเนินการโดยบริษัทย่อย คือ บริษัท เมกาโฮม เซ็นเตอร์ จำกัด “เมกาโฮม” เป็นร้านค้าในรูปแบบคลังสินค้าขนาดใหญ่ที่เน้นตอบสองความต้องการของกลุ่มผู้รับเหมา ตลอดจนเจ้าของโครงการ ร้านค้ารายย่อย และผู้บริโภค โดยแต่ละสาขาของเมกาโฮมจะจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับบ้านและสินค้าที่ใช้ในบ้าน โดยมีพื้นที่ขายประมาณ 12,000-20,000 ตร.ม. ต่อสาขา

เมกาโฮมสาขาแรกที่รังสิต จังหวัดปทุมธานี เปิดดำเนินการในเดือนตุลาคม 2556 และสาขาที่ 2 ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตากเปิดกิจการในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดสาขาใหม่อีก 2 สาขาในช่วงต้นปี 2557

เพื่อบรรลุแผนการขยายธุรกิจภายใต้ร้าน “โฮมโปร” และ “เมกาโฮม” บริษัทจะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาทต่อปีในช่วงระหว่างปี 2557-2559 ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายในการรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนให้ต่ำกว่า 1.75 เท่าและจะจัดหาเงินลงทุนดังกล่าวจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน การกู้ยืม และการขายสินทรัพย์ให้แก่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์

บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (HMPRO)
อันดับเครดิตองค์กร: A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
HMPRO169A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ