ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 1,600 ล้านบาท “บ. ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น” ที่ระดับ “A/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 10, 2014 16:38 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 1,600 ล้านบาทของ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A” เช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะผู้นำของบริษัทในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่า ตลอดจนกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากรายได้ค่าเช่าโรงงานและคลังสินค้า อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการลงทุนจำนวนมากการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจคลังสินค้าให้เช่า และความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนทั่วโลกถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่ออันดับเครดิตของบริษัท ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” อยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโรงงานสำเร็จรูป และคลังสินค้าให้เช่าได้ต่อไป แม้บริษัทจะมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนสำหรับการพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าในทำเลใหม่จำนวนมาก แต่การลงทุนดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทลดการพึ่งพิงพื้นที่ให้เช่าที่มีอยู่ในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยาลง

บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่นเป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าในประเทศไทย โดยก่อตั้งในปี 2533 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2545 บริษัทได้ขยายธุรกิจสู่การให้บริการคลังสินค้าให้เช่าตั้งแต่ปี 2548 โดย ณ เดือนธันวาคม 2556 บริษัทมีโรงงานให้เช่าจำนวน 78 แห่งและมีคลังสินค้าให้เช่าจำนวน 33 แห่งซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมสำคัญ ๆ และพื้นที่โลจิสติกส์หลักของประเทศ รวมเป็นพื้นที่ให้เช่าทั้งสิ้น 368,763 ตารางเมตร (ตร.ม.) ในช่วงที่ผ่านมารายได้หลักของบริษัท (มากกว่า 60%) มาจากการขายสินทรัพย์ของบริษัทเข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่ประมาณ 30% ของรายได้มาจากค่าเช่าโรงงานและคลังสินค้า ในระหว่างปี 2550-2553 รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 4,300 ล้านบาทในปี 2555 และ 5,500 ล้านบาทในปี 2556 จากเดิมที่มีรายได้จากการขายสินทรัพย์ปีละประมาณ 2,000 ล้านบาท

ปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทยังคงเป็น บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) (20.6%) กลุ่มซิตี้เรียลตี้ (6.6%) และกลุ่มผู้บริหารของบริษัท (6.5%) ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทมาจากผลงานการให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปที่มีคุณภาพ รวมทั้งความสามารถในการก่อสร้างโรงงานสำเร็จรูปตามมาตรฐานในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งจากการใช้ทีมงานก่อสร้างของบริษัทเอง ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานสำเร็จรูปให้เช่ากระจายตัวอยู่ในทำเลต่าง ๆ 15 ทำเลและมีคลังสินค้าให้เช่าอีก 16 ทำเล รายงานของ CB Richard Ellis (CBRE) ระบุว่าบริษัทยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศไทย ณ เดือนกันยายน 2556 บริษัทและกองทุนอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารของบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดของพื้นที่โรงงานให้เช่ารวม 54% ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งรายอื่นเป็นอย่างมาก โดยคู่แข่งสำคัญประกอบด้วย บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (19%) บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (11%) บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) (9%) บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล 1 (6%) นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้ให้บริการคลังสินค้าให้เช่ารายใหญ่ของประเทศ จากข้อมูลของ CBRE ณ เดือนกันยายน 2556 พื้นที่คลังสินค้าให้เช่าของบริษัทและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ คิดเป็น 37% ของพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าของทั้งประเทศ รองจาก บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (54%)

ในปี 2556 พื้นที่โรงงานให้เช่าของบริษัทเติบโต 27% จาก 518,948 ตร.ม. ณ สิ้นปี 2555 เป็น 659,208 ตร.ม. บริษัทขายพื้นที่ให้เช่าแก่กองทุนอสังหาริมทรัพย์รวม 290,445 ตร.ม. ในปี 2556 การเติบโตของพื้นที่ให้เช่าเป็นผลจากการเติบโตของพื้นที่โรงงานให้เช่าในอัตรา 23% และการเติบโตของพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าในอัตรา 31% การเติบโตของพื้นที่ให้เช่าดังกล่าวได้รับแรงสนับสนุนจากการเติบโตของความต้องการโรงงานให้เช่าในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศไทยและความต้องการคลังสินค้าให้เช่าจากผู้ให้บริการโลจิสติกส์และจากธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค

ถึงแม้ว่าพื้นที่ให้เช่าและรายได้ค่าเช่าในปี 2555 และปี 2556 จะเพิ่มขึ้น แต่อัตราการเช่าไม่รวมพื้นที่เช่าล่วงหน้า (Pre-leased area) ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2556 กลับปรับตัวลดลงเป็น 55% เปรียบเทียบกับ 73% ณ สิ้นปี 2555 และ 94% ณ สิ้นปี 2554 อัตราการเช่าที่ลดลงมีสาเหตุหลักมาจากการขยายตัวของพื้นที่คลังสินค้าและโรงงานให้เช่าในทำเลใหม่ในช่วงปี 2555 ถึงปี 2556 รวมทั้งยังมีพื้นที่ให้เช่าที่ว่างจำนวนมากในเขตที่เคยน้ำท่วม

รายได้ค่าเช่าของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2555 ถึง 9 เดือนแรกของปี 2556 โดยรายได้ค่าเช่าในปี 2555 เพิ่มขึ้น 20% เป็น 1,053 ล้านบาทจาก 880 ล้านบาทในปี 2554 สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 รายได้ค่าเช่าอยู่ที่ระดับ 863 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตรากำไรขั้นต้นของค่าเช่าใน 9 เดือนแรกของปี 2556 เท่ากับ 76% ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดที่ 63% ในปี 2555 หลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ การเพิ่มขึ้นของกำไรขั้นต้นเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของพื้นที่ให้เช่าโดยเฉพาะในส่วนของโรงงานให้เช่า การปรับขึ้นราคาค่าเช่า การลดลงของค่าซ่อมแซมจากเหตุการณ์อุทกภัย และการหยุดคิดค่าเสื่อมราคาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขายในเดือนพฤษภาคม 2556 หากไม่รวมผลกระทบจากการจัดประเภทสินทรัพย์ใหม่ อัตรากำไรขั้นต้นของค่าเช่าใน 9 เดือนแรกของปี 2556 จะเท่ากับ 69%

ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนเพิ่มขึ้นมากเนื่องจากบริษัทลงทุนสร้างโรงงานและคลังสินค้าในทำเลอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในเขตภาคตะวันออกและจังหวัดใหญ่ ๆ บริษัทมีภาระหนี้เงินกู้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 17,023 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2556 เทียบกับ 8,757 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2554 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนอ่อนแอลงเป็น 68.7% ณ เดือนกันยายน 2556 จาก 60.4% ณ สิ้นปี 2554 อัตราส่วนหนี้สินของบริษัทคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างสูง เนื่องจากบริษัทมีแผนจะลงทุนเพิ่มประมาณ 9,500 ล้านบาทในปี 2556 และประมาณปีละ 7,000-8,000 ล้านบาทในปี 2557-2558 เงินลงทุนในปี 2556 ส่วนใหญ่จะนำไปใช้ซื้อที่ดินในจังหวัดสำคัญ ๆ และในเขตพื้นที่โลจิสติกส์หลักของประเทศ ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น สุราษฎร์ธานี และพื้นที่บริเวณถนนบางนา-ตราด เป็นต้น อย่างไรก็ตามทริสเรทติ้งคาดว่าโครงสร้างทุนของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นในระยะต่อไปเนื่องจากเงินลงทุนดังกล่าวส่วนหนึ่งจะมาจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ทั้งนี้ ในเดือนธันวาคม 2556 บริษัทได้ขายโรงงานและคลังสินค้ามูลค่ารวม 5,515 ล้านบาทให้กับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์

บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) (TICON)
อันดับเครดิตองค์กร: A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TICON141A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A
TICON155A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A
TICON158A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A
TICON162A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A
TICON165A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 650 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A
TICON165B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A
TICON169A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A
TICON171A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A
TICON177A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A
TICON178A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A
TICON185A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A
TICON187A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 350 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A
TICON189A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A
TICON19OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 620 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A
TICON205A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A
TICON229A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 1,600 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2567 A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ