ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่มีประกัน และแนวโน้ม “บ. น้ำตาลมิตรผล” ที่ “A+/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 29, 2014 13:02 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด ที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งของบริษัทในอุตสาหกรรมน้ำตาลในภูมิภาค ตลอดจนแบรนด์สินค้าที่มีชื่อเสียง กระบวนการผลิตน้ำตาลที่มีประสิทธิภาพ และการขยายกิจการสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำตาล นอกจากนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงสถานการณ์ราคาน้ำตาลที่อยู่ในระดับต่ำในปัจจุบัน รวมถึงความเสี่ยงด้านกฎระเบียบและการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ และความเสี่ยงจากความผันผวนของปริมาณผลผลิตอ้อยด้วย ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่ากลุ่มมิตรผลจะยังคงดำรงสถานะผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลทั้งในประเทศไทยและจีนได้ต่อไป ระบบการแบ่งปันรายได้ของอุตสาหกรรมน้ำตาลในประเทศ ตลอดจนกระแสเงินสดที่แน่นอนจากธุรกิจไฟฟ้า และความต้องการเอทานอลที่แข็งแกร่งจะช่วยให้บริษัทสามารถประคองตัวอยู่ได้ในช่วงที่ราคาน้ำตาลในตลาดโลกอยู่ในระดับต่ำ

บริษัทน้ำตาลมิตรผลก่อตั้งในปี 2489 โดยตระกูลว่องกุศลกิจ ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้นำในธุรกิจอ้อยและน้ำตาลของไทยซึ่งมีตระกูลว่องกุศลกิจถือหุ้นเต็ม 100% โดยถือหุ้นผ่าน บริษัท น้ำตาลมิตรสยาม จำกัด บริษัทน้ำตาลมิตรผลมีโรงงานน้ำตาลในประเทศไทย จีน ลาว และออสเตรเลีย ในเดือนกรกฎาคม 2556 บริษัทได้ซื้อหุ้นในสัดส่วน 25% ของ บริษัท น้ำตาลสิงห์บุรี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตน้ำตาลทรายที่ถือหุ้นโดยครอบครัวว่องกุศลกิจ โดยบริษัทซื้อหุ้นในราคาตามมูลค่าที่ตราไว้และใช้เงินลงทุนรวม 93.5 ล้านบาท บริษัทรวมผลการดำเนินงานของบริษัทน้ำตาลสิงห์บุรีตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2556 เป็นต้นไป ในปีการผลิต 2555/2556 กลุ่มมิตรผลรวมบริษัทน้ำตาลสิงห์บุรีมีผลผลิตน้ำตาลรวมทั้งสิ้น 3.7 ล้านตัน

บริษัทเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลในประเทศไทยมาอย่างยาวนานโดยเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ทั้งนี้ ในฤดูการผลิต 2555/2556 กลุ่มมิตรผลผลิตน้ำตาลได้ 2.0 ล้านตัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 19.9% ของปริมาณน้ำตาลทั้งประเทศ ส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 19.1% ในปีก่อนหลังจากโรงงานน้ำตาลแห่งใหม่ที่จังหวัดเลยเริ่มดำเนินงาน ผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่รองลงมาคือกลุ่มไทยรุ่งเรือง (16.3%) กลุ่มไทยเอกลักษณ์ (9.3%) กลุ่มน้ำตาลขอนแก่น (7.4%) และกลุ่มวังขนาย (6.6%) ประสิทธิภาพในการผลิตน้ำตาลของบริษัทอยู่ที่ระดับ 105.9 กิโลกรัม (กก.) ต่อตันอ้อยซึ่งนับว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 100.2 กก. ต่อตันอ้อยสำหรับปีการผลิต 2555/2556

บริษัทยังเป็นเจ้าของและบริหารโรงงานน้ำตาล 7 แห่งในประเทศจีนโดยมีผลผลิตน้ำตาล 1.14 ล้านตันในปีการผลิต 2555/2556 ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาด 8.7% ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่อันดับ 2 ในประเทศจีน โดยมีประสิทธิภาพในการผลิตน้ำตาลอยู่ที่ระดับ 123.2 กก. ต่อตันอ้อยในฤดูการผลิต 2555/2556 ส่วนโรงงานน้ำตาลของบริษัทในประเทศลาวผลิตน้ำตาลได้ 0.04 ล้านตัน และในประเทศออสเตรเลีย (MSF) ผลิตได้ 0.53 ล้านตันในฤดูการผลิต 2555/2556

ธุรกิจน้ำตาลเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้และกำไรจากการดำเนินงานในสัดส่วนที่สูงที่สุดของบริษัท ในปี 2555 บริษัทมีรายได้รวม 89,572 ล้านบาทและมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายรวม 15,581 ล้านบาท กำไรจากธุรกิจน้ำตาลมีสัดส่วน 67% ของกำไรจากการดำเนินงานรวมของบริษัท กำไรของธุรกิจน้ำตาลในจีนมีสัดส่วน 37% ของกำไรจากการดำเนินงานรวม ในขณะที่กำไรของธุรกิจน้ำตาลในประเทศไทยคิดเป็นสัดส่วน 28% ธุรกิจน้ำตาลในประเทศลาวและออสเตรเลียยังให้ผลกำไรไม่มาก โดยในประเทศลาวมีกำไรจากการดำเนินงานเพียง 416 ล้านบาทในปี 2555 ส่วน MSF มีกำไรจากการดำเนินงานเพียง 64 ล้านบาทในปี 2555

นอกเหนือจากธุรกิจน้ำตาลแล้ว บริษัทยังขยายการลงทุนไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอ้อยและน้ำตาลเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากอ้อยด้วย อาทิ ธุรกิจผลิตไฟฟ้า ธุรกิจผลิตเอทานอล ธุรกิจวัสดุทดแทนไม้ และธุรกิจผลิตกระดาษ ณ เดือนกันยายน 2556 โรงงานผลิตเอทานอลของบริษัทในประเทศไทยมีกำลังการผลิตที่ 960,000 ลิตรต่อวัน นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 339 เมกะวัตต์ด้วย กำไรจากการดำเนินงานจากธุรกิจเอทานอลและไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 4,833 ล้านบาทในปี 2555 จาก 2,425 ล้านบาทในปี 2551 โดยกำไรจากการดำเนินงานจากธุรกิจเอทานอลและไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วน 31% ของกำไรจากการดำเนินงานรวมของบริษัทในปี 2555

แม้ว่าราคาน้ำตาลในตลาดโลกจะปรับตัวลดลง แต่รายได้รวมของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 ยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยรายได้รวมของบริษัทลดลง 5.1% จากช่วงเดียวกันของปี 2555 เป็น 68,437 ล้านบาท การเพิ่มขึ้นของรายได้ในธุรกิจเอทานอลและไฟฟ้ารวมถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องช่วยลดผลกระทบจากการปรับตัวลงของราคาน้ำตาลได้บางส่วน อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจน้ำตาลอ่อนแอลงเนื่องจากราคาน้ำตาลที่ปรับตัวลง ธุรกิจน้ำตาลในประเทศจีนของบริษัทยังเผชิญกับปัญหาต้นทุนอ้อยสูงจากการกำหนดราคาอ้อยของรัฐบาลจีน อัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทลดลงเป็น 17.9% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 จาก 22.0% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ลดลง 21.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 13,177 ล้านบาทจาก 16,812 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ กำไรจากการดำเนินงานของธุรกิจเอทานอลและไฟฟ้าที่เติบโตถึง 53% ช่วยชดเชยการลดลงของ EBITDA ของธุรกิจน้ำตาลได้บางส่วน อัตราส่วน EBITDA ต่อดอกเบี้ยจ่ายในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 ยังคงอยู่ในระดับดีที่ 7.9 เท่าแม้ว่าราคาน้ำตาลจะลดลง อัตราส่วนการก่อหนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับปานกลาง โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็น 48.7% ณ เดือนกันยายน 2556 จากระดับ 44.0% ณ เดือนธันวาคม 2554 เนื่องจากการขยายกำลังการผลิตและความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้น

คาดว่าราคาน้ำตาลจะยังคงอยู่ในระดับต่ำในปี 2557 เนื่องจากอุปทานที่ยังคงล้นตลาด โดย Foods and Agricultural Organization แห่งองค์การสหประชาชาติประมาณการว่าผลผลิตน้ำตาลทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 180.2 ล้านตันในปีการผลิต 2556/57 โดยผลผลิตน้ำตาลที่ลดลงในกลุ่มประเทศประชาคมยุโรปและประเทศสหรัฐอเมริกาจะสุทธิกับปริมาณน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย อินเดีย และอาฟริกาใต้ ส่วนความต้องการบริโภคน้ำตาลคาดว่าจะเติบโต 1.9% เป็น 175.4 ล้านตันในปี 2556/57 ดังนั้น ปริมาณผลิตน้ำตาลจะเกินความต้องการเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้เอทานอลที่แข็งแกร่งและปริมาณน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทยเนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการผลิตจะช่วยลดผลกระทบจากราคาน้ำตาลได้บางส่วน ในขณะที่ธุรกิจในประเทศจีนยังคงได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำตาลที่ตกต่ำแม้ว่ารัฐบาลจีนได้ปรับลดราคาอ้างอิงของอ้อยสำหรับปี 2556/57 ลงราว 7% จากปีก่อนแล้วก็ตาม สำหรับแผนการลงทุนของบริษัทหลังจากได้ดำเนินโครงการขยายกำลังการผลิตส่วนใหญ่ไปแล้ว งบลงทุนของบริษัทก็ลดลงเป็นปีละ 5,000-6,000 ล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2557-2558 จากระดับ 11,000 ล้านบาทต่อปีที่บริษัทได้ลงทุนไปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะยังคงอ่อนแอในช่วงอุตสาหกรรมน้ำตาลประสบภาวะตกต่ำตามวัฏจักร แต่ภาระการลงทุนที่ลดลงน่าจะช่วยให้บริษัทรักษาระดับหนี้และความสามารถในการชำระหนี้ในระดับที่ยอมรับได้

บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด (MPSC)
อันดับเครดิตองค์กร: A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
MPSC145A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A+
MPSC146A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A+
MPSC14OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A+
MPSC155B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+
MPSC156A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+
MPSC15OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+
MPSC165A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
MPSC16OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
MPSC16OB: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
MPSC175A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A+
MPSC185A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
MPSC18OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,150 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
MPSC20OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A+
MPSC20OB: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,850 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A+
MPSC21OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A+
MPSC22OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+
MPSC233A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A+
MPSC256A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ