ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 3,200 ล้านบาท “บ. การบินไทย” ที่ระดับ “A+/Negative”

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 6, 2014 17:22 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 3,200 ล้านบาทของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” ในขณะเดียวกันยังคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A+” เช่นกัน ทั้งนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตยังคงเป็น “ลบ” โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระคืนหนี้ที่ใกล้ครบกำหนดไถ่ถอนและใช้เป็นทุนสำหรับการดำเนินงาน โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจการบินระหว่างประเทศในเส้นทางการบินของประเทศไทยและประโยชน์จากการเป็นสมาชิก Star Alliance ซึ่งเป็นเครือข่ายพันธมิตรสายการบินที่ใหญ่ที่สุด อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากการมีภาระหนี้ที่ค่อนข้างสูง ตลอดจนความเสี่ยงจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผันผวน ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ความเสี่ยงจากเหตุการณ์ต่าง ๆ และการแข่งขันที่รุนแรง โดยอันดับเครดิตยังได้รับการปรับเพิ่มขึ้นจากอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทซึ่งสะท้อนถึงการสนับสนุนจากภาครัฐในฐานะที่บริษัทเป็นรัฐวิสาหกิจและสายการบินแห่งชาติ ปัจจุบันกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในสัดส่วน 51% ณ เดือนกันยายน 2556 โดยสถานะการเป็นรัฐวิสาหกิจยังรวมถึงการถือหุ้นในสัดส่วน 2.1% ของธนาคารออมสินด้วย ในขณะที่หุ้นของบริษัทในสัดส่วน 15.4% ที่ถือโดยกองทุนวายุภักษ์นั้นจัดเป็นการถือหุ้นโดยผู้ลงทุนภาคเอกชนแม้กองทุนวายุภักษ์จะได้รับการจัดตั้งโดยกระทรวงการคลังเพื่อลงทุนในรัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็ตาม

แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” สะท้อนถึงอัตรากำไรของบริษัทที่ปรับลดลงเนื่องจากต้นทุนที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับต้นทุนเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากอัตรากำไรของบริษัทยังคงอยู่ในระดับต่ำและ/หรืออัตราความสามารถในการชำระหนี้ อยู่ในระดับต่ำกว่า 1 เท่า ทั้งนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวยังอยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาสถานะผู้นำในธุรกิจการบินระหว่างประเทศของไทยเอาไว้ได้ และบริษัทจะยังคงได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ต่อไปโดยเฉพาะในช่วงที่บริษัทเผชิญกับสถานการณ์วิกฤติต่าง ๆ

บริษัทการบินไทยเป็นหนึ่งในสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเซียซึ่งให้บริการการบินคุณภาพสูง บริษัทพยายามเพิ่มสัดส่วนทางการตลาดในกลุ่มลูกค้าระดับกลางทั้งในเส้นทางการบินภายในประเทศและในภูมิภาคเอเชีย บริษัทจึงได้เปิดให้บริการสายการบินระดับกลางภายใต้ชื่อ “ไทยสมายล์” ในช่วงกลางปี 2555 ซึ่งเป็นสายการบินอีกทางเลือกหนึ่งที่เน้นการให้บริการในเส้นทางบินพิสัยใกล้ โดย ณ เดือนกันยายน 2556 บริษัทให้บริการเส้นทางการบินระหว่างประเทศ ณ สนามบินปลายทาง 68 แห่งทั่วโลก ด้วยเที่ยวบินจำนวน 655 เที่ยวต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ บริษัทยังถือหุ้นในสัดส่วน 39.2% ใน บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำรายสำคัญในประเทศไทยด้วย

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น 22.0% เป็น 19.49 ล้านคน อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารของบริษัทลดลงจากระดับ 76.7% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 เป็น 75.2% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 เนื่องจากความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 8.5% สู่ระดับ 63,415 ล้านที่นั่ง-กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ในด้านการขายนั้น ปริมาณการขนส่งผู้โดยสารของบริษัทเพิ่มขึ้น 6.4% สู่ระดับ 47,683 ล้านคน-กิโลเมตร แม้จะมีการเดินประท้วงรัฐบาลซึ่งเริ่มในเดือนพฤศจิกายน 2556 แต่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเพิ่มขึ้น 11.6% ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2556 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารของบริษัทกลับปรับตัวลดลง 5.2% สู่ระดับ 71.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่อัตราส่วนการขนส่งพัสดุภัณฑ์ลดลงจากระดับ 54.1% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 เป็น 50.3% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 ซึ่งเป็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทยเติบโตอย่างเข้มแข็ง โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศเติบโตในระดับตัวเลข 2 หลักตั้งแต่ปี 2553 แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อัตรากำไรของบริษัทกลับผันผวนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานปรับตัวลดลงอย่างมากในปี 2554 และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 โดยในปี 2554 อัตราส่วนกำไรปรับลดลงเนื่องจากต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้นและผลกระทบของมหาอุทกภัยในไตรมาสสุดท้ายของปี ส่วนการปรับตัวลดลงของอัตรากำไรของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 มาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันเป็นปัจจัยหลักโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขายและโฆษณา ทั้งนี้ ราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับสูงแม้ว่าปรับราคาลงเล็กน้อยในปี 2556 นอกจากนี้ การต่อสู้ทางการเมืองที่รุนแรงขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 และออกประกาศเตือนประชาชนของตนในหลาย ๆ ประเทศที่จะเดินทางมาประเทศไทย หากยืดเยื่อเป็นระยะเวลายาวนานจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทในปี 2557 นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังมีความกังวลอย่างมากต่อต้นทุนที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอันดับเครดิตจะได้รับผลกระทบทางลบอย่างมากหากในปี 2556 อัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ในระดับต่ำกว่าตัวเลข 1 หลักมาก ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายและปรับปรุงผลการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนคุณภาพความน่าเชื่อถือของบริษัท ทั้งนี้ จากสถิติในอดีตพบว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วหลังจากวิกฤตการณ์ในแต่ละครั้งได้รับการแก้ไข ดังนั้น หากความตึงเครียดทางการเมืองจบลงภายในครึ่งแรกของปี 2557 ผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจะอยู่ในวงจำกัด

สภาพคล่องของบริษัทอ่อนแอลง โดยอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายก็ปรับตัวลดลง 4.3 เท่าในปี 2555 เป็น 2.9 เท่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 ส่วนอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมปรับตัวลดลงจากระดับ 15.5% ในปี 2555 สู่ระดับ 11.4% (ปรับเป็นอัตราส่วนเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) ณ สิ้นเดือนกันยายน 2556

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาบริษัทเข้าสู่ช่วงลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของฝูงบิน ดังนั้น อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจึงเพิ่มขึ้นจาก 70.5% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 เป็น 76.6% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2556 โดยในช่วง 5 ปีข้างหน้า บริษัทจะรับมอบเครื่องบินจำนวน 36 ลำ โดยเครื่องบินจำนวน 21 ลำเป็นการเช่าดำเนินงาน และอีก 15 ลำเป็นการเช่าทางการเงิน ผลการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นหลังจากได้รับมอบเครื่องบินใหม่เนื่องจากการใช้งานเครื่องบินใหม่จะเกิดผลประโยชน์หลายประการ เช่น ปริมาณการใช้น้ำมันและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงที่ลดลง ทั้งนี้ คาดว่าภาระหนี้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุดในปี 2557 โดยทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะมีแผนลดภาระหนี้ในระยะปานกลาง

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI)
อันดับเครดิตองค์กร: A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
THAI14OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A+
THAI155A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+
THAI165A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
THAI16DA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
THAI17OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A+
THAI185A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,555 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
THAI185B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,445 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
THAI185C: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
THAI188A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,250 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
THAI192A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A+
THAI19OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A+
THAI208A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,250 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A+
THAI215A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 833 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A+
THAI215B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,167 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A+
THAI222A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+
THAI22OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+
THAI238A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A+
THAI243A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A+
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 3,200 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2567 A+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ