ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 3,700 ล้านบาท “บ. อินโดรามา เวนเจอร์ส”ที่ระดับ “A+/Stable” แทนที่หุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาทชุดเดิม

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 11, 2014 18:25 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 3,700 ล้านบาทของ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” โดยอันดับเครดิตหุ้นกู้ชุดใหม่จะใช้ทดแทนอันดับเครดิตหุ้นกู้มูลค่าไม่เกิน 3,000 ล้านบาทที่ประกาศไปเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2557 เนื่องจากบริษัทตัดสินใจปรับเพิ่มมูลค่าของหุ้นกู้ที่ออกจำหน่าย ในขณะเดียวกัน

ทริสเรทติ้งยังคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A+” ด้วย โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ การเพิ่มมูลค่าของหุ้นกู้ไม่ส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตเนื่องจากบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระหนี้เดิมซึ่งได้พิจารณาอยู่ในอันดับเครดิตแล้ว อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงสถานะที่แข็งแกร่งของบริษัทในการเป็นผู้ผลิตในธุรกิจห่วงโซ่โพลีเอสเตอร์ชั้นนำระดับโลก ตลอดจนความได้เปรียบด้านต้นทุนการผลิตและการผลิตที่มีประสิทธิภาพจากการมีระบบการผลิตที่ครบวงจร (Vertical Integration) รวมถึงการมีฐานลูกค้าที่กระจายตัวทั่วโลก ในการพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงความสามารถและประสบการณ์ของคณะผู้บริหารรวมทั้งการเข้าถึงเทคโนโลยีสำคัญของอุตสาหกรรมด้วย อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตดังกล่าวมีข้อจำกัดจากลักษณะที่ผันผวนของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ตลอดจนอุปทานส่วนเกินจากกำลังการผลิตใหม่ของกรดเทอเรฟธาลลิกบริสุทธิ์ (Purified Terephthalic Acid -- PTA) และโพลีเอธิลีน เทอเรฟธาลเลท (Polyethylene Terephthalate -- PET) และความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงการลงทุนขนาดใหญ่เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตของบริษัท ซึ่งการก่อหนี้เพื่อการลงทุนอาจลดทอนฐานะการเงินของบริษัท ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าอัตรากำไรของอุตสาหกรรมจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นจากระดับปัจจุบัน และบริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการสร้างกระแสเงินสด รวมถึงรักษาสภาพคล่องที่เพียงพอเอาไว้ให้ได้เพื่อจะช่วยบรรเทาความผันผวนที่เกิดจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี

บริษัทอินโดรามา เวนเจอร์สก่อตั้งเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2546 โดยกลุ่มตระกูลโลเฮีย (Lohia) ในฐานะเป็นบริษัทเพื่อการลงทุน บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553 และปัจจุบันกลุ่มตระกูลโลเฮียมีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท 66.4% บริษัทลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจห่วงโซ่โพลีเอสเตอร์เป็นหลัก โดย ณ 31 ธันวาคม 2556 บริษัทมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 6.94 ล้านตันต่อปี ซึ่งประกอบด้วยกำลังการผลิตเทียบเท่าโมโนเอธิลลีนไกลคอล (Monoethylene Glycol – MEG) ขนาด 0.55 ล้านตันต่อปี กำลังการผลิต PTA ขนาด 1.76 ล้านตันต่อปี กำลังการผลิต PET ขนาด 3.57 ล้านตันต่อปี และกำลังการผลิตเทียบเท่าเส้นใยโพลีเอสเตอร์ที่ 1.06 ล้านตันต่อปี ในสายการผลิตโพลีเอสเตอร์นั้น PTA และ MEG จะถูกใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในกระบวนการผลิต PET และเส้นใยโพลีเอสเตอร์

ปัจจุบันบริษัทมีฐานการผลิตกระจายอยู่ใน 15 ประเทศ ครอบคลุม 4 ทวีป (เอเซีย ยุโรป อเมริกาเหนือ และอาฟริกา) รูปแบบธุรกิจของบริษัทที่มีการผลิตครบวงจร ตลอดจนการมีฐานการผลิตที่กระจายตัวอยู่ทั่วโลกน่าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและบรรเทาความเสี่ยงของภาวะอุตสาหกรรม ปิโตรเคมีได้ อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตใหม่จากประเทศจีนและความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลกนั้นสร้างความกังวลต่อภาวะการแข่งขันที่รุนแรงซึ่งส่งผลต่ออัตรากำไรของบริษัท

สถานะทางการเงินของบริษัทยังคงได้รับแรงกดดันจากภาวะขาลงของอุตสาหกรรมห่วงโซ่โพลีเอสเตอร์ แต่แนวโน้มคาดว่าจะดีขึ้นในระยะปานกลางเนื่องจากโรงงานที่มีต้นทุนสูงจะปิดตัวลงซึ่งจะช่วยให้อุปสงค์และอุปทานกลับสู่ภาวะสมดุลอีกครั้ง ในปี 2556 บริษัทมีรายได้ 229,120 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ลดลงจาก 5.7% ในปี 2555 เหลือ 5.0% ในปี 2556 เนื่องจากอัตรากำไรในทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทอ่อนตัวลง โดยเฉพาะธุรกิจ PTA ในภูมิภาคเอเชียที่ยังคงได้รับแรงกดดันจากภาวะอุปทานส่วนเกิน นอกจากนี้ โรงงานผลิต MEG ของบริษัทก็หยุดเพื่อทำการซ่อมบำรุงเกือบ 2 เดือน ส่งผลให้กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ต่อตันของการผลิตลดลงจาก 86 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันในปี 2555 เหลือ 79 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันในปี 2556 อย่างไรก็ตาม บริษัทมีเงินทุนจากการดำเนินงาน 10,389 ล้านบาทในปี 2556 ซึ่งมากกว่าที่ทริสเรทติ้งประมาณการไว้เนื่องจากบริษัทมีการบันทึกค่าสินไหมทดแทนจากการประกันภัยประมาณ 1,800 ล้านบาท ในขณะที่อัตราส่วน EBITDA ต่อดอกเบี้ยจ่ายอยู่ที่ 3.1 เท่าในปี 2556

เงินกู้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 80,630 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2555 เป็นจำนวน 85,266 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2556 ในขณะที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนลดลงจาก 58.8% ณ สิ้นปี 2555 เป็น 58.1% ณ สิ้นปี 2556 อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงขยายกำลังการผลิตสำหรับโครงการเดิมตามแผนซึ่งรวมถึงการเพิ่มกำลังการผลิต PTA ที่ Rotterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยบริษัทวางงบประมาณสำหรับการลงทุนเหล่านี้ประมาณ 18,000 ล้านบาทในช่วงปี 2556-2559 ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 8 ล้านตัน ณ สิ้นปี 2559 อย่างไรก็ตาม ประมาณการของทริสเรทติ้งได้เพิ่มงบประมาณสำหรับการซื้อกิจการของบริษัทอีกประมาณ 16,000 ล้านบาทในปี 2557 โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2557 บริษัทได้ประกาศซื้อ PHP Fibers GmbH (PHP) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเส้นใยเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์สังเคราะห์ที่มีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งจัดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง (High Value Added, HVA) โดย IVL จะซื้อสัดส่วนการถือหุ้น 80% ใน PHP ซึ่งการซื้อกิจการในครั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทที่จะเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ HVA เข้ามาในกลุ่มบริษัท ในอนาคตคาดว่าบริษัทจะมีภาระเงินกู้เพิ่มมากขึ้นจากการซื้อกิจการ อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีแผนการลดภาระหนี้เพื่อรักษาอัตราส่วนเงินกู้สุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นในระดับที่ต่ำกว่า 0.8 เท่าให้เป็นไปตามนโยบายของบริษัท ส่วนสภาพคล่องนั้นคาดว่าบริษัทจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานมากกว่า 11,000 ล้านบาทในปี 2557 หลังจากที่กำลังการผลิตส่วนขยายใหม่ ๆ เปิดดำเนินงาน ซึ่งเงินทุนจากการดำเนินงานในระดับดังกล่าวยังคงเพียงพอสำหรับการชำระหนี้ โดยบริษัทมีภาระหนี้ครบกำหนดในปี 2557 จำนวน 3,975 ล้านบาท และในปี 2558 อีกจำนวน 7,966 ล้านบาท โดยที่บริษัทมีวงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีกประมาณ 20,000 ล้านบาทเพื่อเสริมสภาพคล่องและเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) (IVL)
อันดับเครดิตองค์กร: A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
IVL16OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 210 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
IVL16OB: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,690 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
IVL174A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A+
IVL174B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A+
IVL186A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 550 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
IVL18OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 98 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
IVL18OB: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,302 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
IVL18DA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 780 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
IVL194A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A+
IVL206A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 520 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A+
IVL20DA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 880 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A+
IVL21OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 37 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A+
IVL21OB: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,163 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A+
IVL224A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,250.5 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+
IVL224B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,649.5 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+
IVL22DA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,645 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+
IVL236A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A+
IVL24DA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,475 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A+
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 3,700 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2567 A+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html





เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ