ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และแนวโน้ม “บ. ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น” ที่ “A/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 10, 2014 13:12 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะผู้นำของบริษัทในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่า ตลอดจนกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากรายได้ค่าเช่าโรงงานและคลังสินค้า อย่างไรก็ตาม ภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นจากค่าใช้จ่ายในการลงทุนจำนวนมากในช่วงระหว่างปี 2556-2558 ความไม่สงบทางการเมืองที่ส่งผลต่อการบริโภคและการลงทุนในประเทศ ถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่ออันดับเครดิตของบริษัท ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” อยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโรงงานสำเร็จรูป และคลังสินค้าให้เช่าได้ต่อไป ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะสามารถเพิ่มอัตราการเช่าและสามารถบริหารระดับหนี้สินให้เหมาะสมแม้ในช่วงที่มีการขยายการลงทุน

บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่นเป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าในประเทศไทย โดยก่อตั้งในปี 2533 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2545 บริษัทได้ขยายธุรกิจสู่การให้บริการคลังสินค้าให้เช่าตั้งแต่ปี 2548 โดย ณ เดือนมีนาคม 2557 บริษัทมีโรงงานให้เช่าจำนวน 78 แห่งและมีคลังสินค้าให้เช่าจำนวน 38 แห่งซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม และพื้นที่โลจิสติกส์หลักของประเทศ รวมเป็นพื้นที่ให้เช่าทั้งสิ้น 391,796 ตารางเมตร (ตร.ม.)

ณ เดือนมีนาคม 2557 ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทยังคงเป็น บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) (20.5%) กลุ่มซิตี้เรียลตี้ (7.1%) และกลุ่มผู้บริหารของบริษัท (6.7%) ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทมาจากผลงานการให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปที่มีคุณภาพ รวมทั้งความสามารถในการก่อสร้างโรงงานสำเร็จรูปตามมาตรฐานในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งจากการใช้ทีมงานก่อสร้างของบริษัทเอง ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานสำเร็จรูปให้เช่ากระจายตัวอยู่ในทำเลต่าง ๆ 15 ทำเลและมีคลังสินค้าให้เช่าอีก 29 ทำเล รายงานของ CB Richard Ellis (CBRE) ระบุว่าบริษัทยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศไทย ณ เดือนธันวาคม 2556 บริษัทและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในเครือมีส่วนแบ่งทางการตลาดของพื้นที่โรงงานให้เช่ารวม 52% ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งรายอื่นเป็นอย่างมาก โดยคู่แข่งสำคัญประกอบด้วย บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (25%) บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (9%) นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นหนึ่งในสองของผู้ให้บริการคลังสินค้าให้เช่ารายใหญ่ของประเทศไทย พื้นที่คลังสินค้าให้เช่าของบริษัทและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ คิดเป็น 51% ของพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าของทั้งประเทศ

ในปี 2556 และไตรมาสแรกของปี 2557 พิ้นที่ให้เช่าของบริษัทเพิ่มขึ้นเล็กน้อย พื้นที่ให้เช่าของบริษัท (ไม่นับรวมผลกระทบจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวม) เพิ่มขึ้น 134,860 ตร.ม. ในปี 2556 และ 43,283 ตร.ม. ในไตรมาสแรกของปี 2557 เทียบกับการเพิ่มขึ้น 60,000 ตร.ม. - 100,000 ตร.ม. ในปี 2553-2554 พื้นที่โรงงานให้เช่าที่เพิ่มขึ้นมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในเขตภาคตะวันออก ในขณะที่ความต้องการในเขตที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม (จังหวัดอยุธยาและปทุมธานี) ยังไม่ฟื้นตัว สำหรับธุรกิจคลังสินค้าให้เช่า พื้นที่คลังสินค้าให้เช่าของบริษัทเพิ่มขึ้น 78,860 ตร.ม. ในปี 2556 และ 20,743 ตร.ม. ในไตรมาสแรกของปี 2557 เทียบกับการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 160,000 ตร.ม. ในปี 2554-2555 ทั้งนี้ในปี 2556 และไตรมาสแรกของปี 2557 บริษัทประสบความสำเร็จในการขายโรงงานและคลังสินค้าเข้ากองทุน โดยมีพื้นที่ให้เช่ารวม 310,695 ตร.ม. มูลค่า 6,159 ล้านบาท

รายได้ค่าเช่าของบริษัทในปี 2556 เพิ่มขึ้น 5% เป็น 1,110 ล้านบาทจาก 1,053 ล้านบาทในปี 2555 สำหรับไตรมาสแรกของปี 2557 รายได้ค่าเช่าอยู่ที่ระดับ 202 ล้านบาท ลดลง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้ค่าเช่าที่ลดลง เนื่องจากบริษัทขายสินทรัพย์เข้ากองทุนจำนวนมากในช่วงเดือนธันวาคม 2556 ทั้งนี้ รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมยังคงเป็นรายได้หลักของบริษัท รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมเท่ากับ 4,663 ล้านบาทในปี 2556 และ 498 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2557

อัตรากำไรขั้นต้นของค่าเช่าปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 76% ในปี 2556 และ 75% ในไตรมาสแรกของปี 2557 หากไม่รวมผลกระทบจากการเปลี่ยนนโยบายบัญชีเรื่องค่าเสื่อมราคา อัตรากำไรขั้นต้นของค่าเช่าเท่ากับ 68% ในปี 2556 และปรับตัวเพิ่มขึ้นเท่ากับ 72% ในไตรมาสแรกของปี 2557 ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงก่อนน้ำท่วมในปี 2553-2554

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนเพิ่มขึ้นมากเนื่องจากบริษัทมีการลงทุนสร้างโรงงานและคลังสินค้าในทำเลอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในเขตภาคตะวันออกและจังหวัดใหญ่ ๆ การขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างมากทำให้อัตราการเช่าไม่รวมพื้นที่เช่าล่วงหน้า (Pre-leased area) ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 ปรับตัวลดลงเป็น 52% เปรียบเทียบกับ 73% ณ สิ้นปี 2555 อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราการเช่าจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น จากความต้องการพื้นที่เช่าคลังสินค้าที่เพิ่มขึ้น ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 บริษัทมีพื้นที่เช่าล่วงหน้า (Pre-leased area) เท่ากับ 181,212 ตร.ม. ซึ่งจะทยอยเข้ามาใช้พื้นที่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2557

อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็น 65.5% ณ เดือนมีนาคม 2557 จาก 57.3% ในปี 2555 จากการลงทุนในทำเลใหม่ บริษัทมีแผนลงทุนประมาณ 8,000 ล้านบาทในปี 2557-2558 อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความสามารถจัดหาเงินลงทุนได้จากหลายแหล่ง ทั้งจากการเพิ่มทุนและการขายสินทรัพย์ให้แก่กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ในปี 2557 บริษัทคาดว่าจะขายสินทรัพย์มูลค่าประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาทเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) รวมทั้งการเพิ่มทุนโดยการออกใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (TSRs) ประมาณ 2,700 ล้านบาทในช่วงกลางปีนี้

สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่ยืดเยื้อมานานได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการบริโภคและการลงทุนในประเทศ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ทำการรัฐประหารภายหลังจากประกาศบังคับใช้กฎอัยการศึกใน 2 วันก่อนหน้า ในมุมมองของทริสเรทติ้งคาดว่าการประกาศกฎอัยการศึกและรัฐประหารจะส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและธุรกิจท่องเที่ยวอย่างน้อยในระยะสั้น อย่างไรก็ตามในระยะยาวผลจากการรัฐประหารต่อเศรษฐกิจไทยขึ้นอยู่กับนโยบายที่ดำเนินการโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และความสำเร็จในการปฏิรูปการเมืองและสังคมโดย คสช. หากนโยบายดังกล่าวสามารถยุติความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมายาวนานได้ เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจะปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ คสช. ได้ประกาศแผนปฏิรูปทางการเมืองเพื่อให้เข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย และแผนปฏิรูปทางเศรษฐกิจที่จะช่วยกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนในประเทศ และแผนดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนและประชาชนทั่วไป

บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) (TICON)
อันดับเครดิตองค์กร: A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TICON155A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A
TICON158A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A
TICON162A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A
TICON165A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 650 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A
TICON165B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A
TICON169A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A
TICON171A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A
TICON171B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A
TICON177A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A
TICON178A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A
TICON185A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A
TICON187A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 350 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A
TICON189A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A
TICON19OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 620 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A
TICON191A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A
TICON205A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A
TICON229A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ