ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 8,000 ล้านบาท “บ. บ้านปู” ที่ระดับ “AA-/Negative”

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 19, 2014 13:52 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 8,000 ล้านบาทของ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “AA-” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “AA-” ด้วยเช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Negative” หรือ “ลบ” ทั้งนี้ อันดับเครดิต “AA-” สะท้อนถึงความเป็นผู้นำของบริษัทในอุตสาหกรรมถ่านหินในแถบเอเชียแปซิฟิก ตลอดจนความหลากหลายของแหล่งถ่านหินและฐานลูกค้า รวมถึงรายได้เงินปันผลที่แน่นอนจากธุรกิจไฟฟ้า การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงความสามารถของบริษัทในการปรับแผนการลงทุน และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในช่วงภาวะอุตสาหกรรมถ่านหินชะลอตัวตลอดจนวินัยทางการเงินของบริษัทด้วย ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียและออสเตรเลีย ตลอดจนภาวะอุปทานส่วนเกินในอุตสาหกรรมถ่านหินยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่ออันดับเครดิตของบริษัท ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าราคาถ่านหินมีโอกาสอ่อนแออย่างต่อเนื่องในภาวะที่อุปสงค์และอุปทานของถ่านหินยังไม่มีความแน่นอนในการปรับเข้าสู่สมดุล แนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับเป็น “Stable” หรือ “คงที่” หากราคาถ่านหินฟื้นตัวชัดเจนหรือบริษัทสามารถฟื้นฟูความสามารถในการทำกำไรและความสามารถในการชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากบริษัทต้องใช้เวลายาวนานในการฟื้นฟูความแข็งแกร่งทางการเงินให้กลับสู่ระดับเดิม

บริษัทบ้านปูเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจพลังงานรายใหญ่ในเอเชียซึ่งก่อตั้งในปี 2526 เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตถ่านหินในประเทศไทย บริษัทขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยปัจจุบันมีแหล่งถ่านหินอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย จีน และมองโกเลีย ธุรกิจถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียยังคงเป็นแหล่งสร้างกำไรหลักของบริษัท โดยในปี 2556 กำไรจากธุรกิจถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียมีสัดส่วน 60% ของกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) กำไรจากประเทศออสเตรเลียคิดเป็น 21% ของ EBITDA ในขณะที่กำไรในประเทศไทยคิดเป็นสัดส่วน 15% ของ EBITDA และกำไรจากประเทศจีนคิดเป็นสัดส่วนเพียง 4% ของ EBITDA เมื่อพิจารณาจากประเภทของธุรกิจแล้ว กำไรจากธุรกิจถ่านหินในปี 2556 คิดเป็นสัดส่วน 85% ของ EBITDA ในขณะที่กำไรส่วนที่เหลือในสัดส่วน 15% มาจากธุรกิจไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม กำไรจากธุรกิจถ่านหินคิดเป็นสัดส่วน 82% ของ EBITDA ในขณะที่กำไรจากธุรกิจไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วน 18% ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2557

ในปี 2556 ปริมาณการผลิตถ่านหินของกลุ่มบ้านปู คิดเป็นจำนวน 42.4 ล้านตัน โดยประกอบด้วยถ่านหินที่ผลิตในประเทศอินโดนีเซีย 28.6 ล้านตันและในประเทศออสเตรเลีย 13.8 ล้านตัน ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2557 บริษัทผลิตถ่านหิน 10.9 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 12.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ณ เดือนมีนาคม 2557 ปริมาณสำรองถ่านหินของบริษัทในประเทศอินโดนีเซียและออสเตรเลียมีจำนวนรวม 700 ล้านตัน ในขณะที่บริษัทมีปริมาณสำรองถ่านหินคิดตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทอยู่ที่ 525 ล้านตัน ปริมาณสำรองของเหมืองอินโดนีเซียและออสเตรเลียดังกล่าวเทียบเท่ากับปริมาณการผลิตนานราว 14 ปี

ในปี 2556 ผลการดำเนินงานของบริษัทอ่อนแอลงตามราคาถ่านหินที่ปรับตัวลดลง ราคาขายถ่านหินของเหมืองที่ประเทศอินโดนีเซียลดลง 17% จากราคาขายเฉลี่ยในปี 2555 เป็น 74.8 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตันในปี 2556 บริษัทได้พยายามลดต้นทุนในหลายส่วนรวมถึงการลดค่า Stripping Ratio อย่างไรก็ตาม อัตราการปรับตัวลดลงของราคาถ่านหินมีมากกว่าการลดลงของต้นทุนการผลิต อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทจึงลดลงเป็น 35.7% ในปี 2556 จากระดับ 42.8% ในปี 2555 เหมืองที่ออสเตรเลียได้รับผลกระทบจากการปรับตัวของราคาถ่านหินน้อยกว่าเนื่องจากมีการส่งออกในสัดส่วน 38% ของปริมาณขายถ่านหินรวม ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยของเหมืองออสเตรเลียลดลงจาก 72.78 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อตันในปี 2555 เป็น 69.75 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อตันในปี 2556 อย่างไรก็ตาม CEY (Centennial Coal Co., Ltd.) บริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจเหมืองถ่านหินที่ออสเตรเลียเผชิญกับปัญหาต้นทุนเพิ่มขึ้น โดยต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 2.36 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อตันเนื่องจากบริษัทประสบกับปัญหาในการผลิตเช่น ใช้เวลาในการย้ายเครื่องจักรที่เหมือง Mandalong นานกว่าที่คาด ปัญหาในการขุดที่เหมือง Springvale และบริษัทต้องหยุดการผลิตช่วงหนึ่งจากเหตุไฟไหม้ป่าที่เหมือง Springvale ในปี 2556 ส่งผลทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของ CEY ลดลงเหลือ 23.4% ในปี 2556 เทียบกับ 30.3% ในปี 2555 ในช่วงเดียวกัน EBITDA จากธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปี 2555 ทำให้ EBITDA รวมของบริษัทลดลง 33.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนเป็น 654 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2557 ราคาถ่านหินยังคงอยู่ระดับต่ำ แต่กำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากแผนการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่องและบริษัทมีกำไรจากตราสารอนุพันธ์ อัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจเหมืองในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 37.8% เมื่อเทียบกับ 32.8% ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2556 แม้ว่าราคาขายถ่านหินเฉลี่ยลดลง 12.1% เป็น 71.06 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน การปรับตัวดีขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นมีสาเหตุหลักมาจากอัตรา Stripping Ratio ที่ลดลงและแผนการลดต้นทุนต่าง ๆ นอกจากนี้ การผลิตที่เหมืองออสเตรเลียก็เป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีการย้ายเครื่องจักรในเหมืองหลักในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2557 อัตรากำไรขั้นต้นของเหมืองออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเป็น 30.0% ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2557 เทียบกับ 25.1% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2556 บริษัทยังมีกำไรจากตราสารอนุพันธ์จำนวน 34.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาส 1 ของปี 2557 อีกด้วย ธุรกิจไฟฟ้ายังคงรายงานกำไรสม่ำเสมอตามที่คาดหมาย EBITDA ของธุรกิจไฟฟ้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรวมแล้ว EBITDA ของบริษัทในไตรมาสที่ 1 ของปี 2557 ปรับตัวดีขึ้น 20.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 219 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ความสามารถในการชำระหนี้ปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 1 ของปี 2557 ตามความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่ดีขึ้น อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่าย (EBITDA Interest Coverage Ratio) เพิ่มขึ้นเป็น 7.7 เท่าในไตรมาส 1 ของปี 2557 เทียบกับ 6.7 เท่าในไตรมาส 1 ของปี 2556 อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 5.2% (ยังไม่ได้ปรับเป็นตัวเลขเต็มปี) ในไตรมาส 1 ปี 2557 จาก 3.8% ในไตรมาส 1 ปี 2556 โครงสร้างเงินทุนของบริษัทปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย โดยอัตราส่วนเงินกู้สุทธิต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทดีขึ้นเป็น 50.3% ณ เดือนมีนาคม 2557 จาก 51.7% ณ สิ้นปี 2556 เนื่องจากบริษัทมีการชะลอแผนการลงทุนบางโครงการ สภาพคล่องของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่ดี ณ เดือนมีนาคม 2557 บริษัทมีเงินสดในมือ 567 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีวงเงินกู้คงเหลือจากสถาบันการเงินรวมจำนวนมากกว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

การฟื้นตัวของราคาถ่านหินยังคงไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกตลอดจนการปรับลดการผลิตถ่านหินของผู้ผลิตหลัก ดัชนีราคาถ่านหินอ้างอิง Newcastle Export Index จะยังคงอ่อนแออยู่ในระดับประมาณ 72-75 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตันในไตรมาสที่ 2 ของปี 2557 ในภาวะที่ราคาถ่านหินอยู่ในระดับต่ำ บริษัทได้ดำเนินงานอย่างระมัดระวังเพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินโดยการขยายอายุเงินกู้ ตลอดจนกระจายการชำระคืนเงินต้น เลื่อนแผนการลงทุนบางโครงการ และลดค่าใช้จ่ายในทุกระดับขององค์กร ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมี EBITDA ประมาณ 650-750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ในระหว่างปี 2557-2558 ซึ่งเมื่อรวมกับเงินสดในมืออีก 567 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ น่าจะเพียงพอต่อการลงทุนตามแผนที่ปรับลดเหลือจำนวนประมาณ 300-400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปีและการชำระคืนเงินกู้จำนวน 200-300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี โดยไม่ทำให้ฐานะการเงินของบริษัทอ่อนแอลง

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (BANPU)
อันดับเครดิตองค์กร: AA-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
BP15NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558         	  AA-
BP165A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559       	  AA-
BANPU184A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561	  AA-
BANPU195A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,850 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562	  AA-
BANPU207A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563	  AA-
BANPU214A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564	  AA-
BANPU225A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565  	  AA-
BANPU234A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566	  AA-
BANPU257A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568    	  AA-
BANPU264A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569	  AA-
BANPU234B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไถ่ถอนปี 2566	  AA-
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 8,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2567	  AA-
แนวโน้มอันดับเครดิต:	Negative
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ