บริษัทโกลว์ พลังงานก่อตั้งในปี 2536 เพื่อประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าในโครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก SPP ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด บริษัทได้ขยายสู่ธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (Cogeneration) และธุรกิจ IPP ทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ปัจจุบันกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทยังคงเป็น GDF SUEZ ซึ่งเป็นกลุ่มพลังงานชั้นนำของโลกที่ดำเนินธุรกิจหลักด้านพลังงาน ตั้งแต่การผลิตไฟฟ้า ค้าก๊าซ และให้บริการด้านพลังงานอื่น ๆ ทั่วโลกโดยเฉพาะในทวีปยุโรป
ณ เดือนมิถุนายน 2557 บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 3,188 เมกะวัตต์ ซึ่งประกอบด้วยโรงไฟฟ้า IPP จำนวน 1,525 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้า Cogeneration 1,663 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้า IPP พลังงานก๊าซของบริษัทแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี โรงไฟฟ้า IPP พลังงานน้ำอีกแห่งตั้งอยู่ในประเทศลาว และโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินอีกแห่งตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง ธุรกิจโรงไฟฟ้า Cogeneration ของบริษัทซึ่งตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและอีสเทิร์นซีบอร์ดในจังหวัดระยองส่วนใหญ่ให้บริการแก่ลูกค้าในธุรกิจปิโตรเคมีซึ่งต้องการกระแสไฟฟ้าที่มีความเสถียรสูง อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของลูกค้าเนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและตั้งอยู่ในเขตพื้นที่มาบตาพุด โดยบริษัทขายไฟฟ้าให้แก่กลุ่มลูกค้าในธุรกิจยานยนต์ในอำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง เพียงประมาณ 2% ของกำลังการผลิตรวมเท่านั้น
จากกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมของกลุ่มโกลว์จำนวน 3,188 เมกะวัตต์และกำลังการผลิตไอน้ำจำนวน 1,206 ตันต่อชั่วโมง บริษัททำสัญญา PPA อายุระหว่าง 21-25 ปีเพื่อขายไฟฟ้าจำนวน2,345 เมกะวัตต์ให้แก่ กฟผ. โดยสัญญาจะมีระยะเวลาคงเหลือระหว่าง 3-25 ปี ส่วนปริมาณไฟฟ้าที่เหลือและไอน้ำ รวมถึงน้ำปราศจากแร่ธาตุนั้น บริษัททำสัญญาซื้อขายระยะยาวกับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม ทั้งนี้ การขายไฟฟ้าและไอน้ำตามสัญญาดังกล่าวถือเป็นแหล่งรายได้ที่แน่นอนสำหรับบริษัท ปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากการขายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. ในสัดส่วน 65% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 ส่วนที่เหลือขายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม (35%)
ในปี 2556 ปริมาณการจ่ายไฟฟ้าสุทธิของโรงไฟฟ้า IPP เพิ่มขึ้นอย่างมากเป็น 9,550 กิกะวัตต์ชั่วโมง อันเป็นผลจากโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน “เก็กโค่-วัน” ซึ่งเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนสิงหาคม 2555 อย่างไรก็ตาม อัตราการปิดซ่อมฉุกเฉินอยู่ในระดับค่อนข้างสูงที่ 6.8% เนื่องจากโรงไฟฟ้าเก็กโค่-วันประสบปัญหาหม้อไอน้ำและอุปกรณ์ให้ความร้อนรั่วซึมในช่วงไตรมาสแรกและไตรมาสที่ 3 ในปี 2556 ซึ่งส่งผลให้อัตราความพร้อมจ่ายลดลงมาอยู่ที่ 88.4% อย่างไรก็ตาม โรงไฟฟ้าเก็กโค่-วันมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในครึ่งแรกของปี 2557 โดยมีค่าความพร้อมจ่ายที่ 94.5% ส่งผลให้ค่าความพร้อมจ่ายโดยรวมของโรงไฟฟ้า IPP มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 97.4% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 ในขณะที่โรงไฟฟ้า SPP ดำเนินงานอย่างราบรื่นโดยมีค่าความพร้อมจ่ายอยู่ที่ 97.5% ในปี 2556 และลดลงเล็กน้อยลงมาอยู่ที่ 96.2% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 เนื่องจากปิดดำเนินการเพื่อซ่อมบำรุงตามแผน
บริษัทมีผลประกอบการทางการเงินที่ดีขึ้นในปี 2556 และครึ่งแรกของปี 2557 รายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้นมีสาเหตุหลักมาจากการเริ่มดำเนินการของโรงไฟฟ้าเก็กโค่-วันในเดือนสิงหาคม 2555 และโรงไฟฟ้า SPP ใหม่ในเดือนธันวาคม 2555 ปริมาณไฟฟ้าที่จำหน่ายจากโรงไฟฟ้า IPP เพิ่มขึ้นเป็น 9,550 กิกะวัตต์ชั่วโมง คิดเป็นอัตราการเติบโต 33.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ปริมาณไฟฟ้าที่จำหน่ายของโรงไฟฟ้า SPP เพิ่มขึ้น 7.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนเป็น 10,346 กิกะวัตต์ชั่วโมง แม้ว่าความต้องการจากกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมจะค่อนข้างคงที่ก็ตาม รายได้ของบริษัทปรับตัวสูงขึ้น 21% เป็น 69,207 ล้านบาทในปี 2556 จาก 57,204 ล้านบาทในปี 2555 อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทปรับตัวดีขึ้นเป็น 25.4% ในปี 2556 จาก 21.8% ในปี 2555 โดยสาเหตุหลักเกิดจาก การดำเนินงานของเก็กโค่-วันที่ราบรื่นขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 การเพิ่มขึ้นของค่าไฟฟ้าผันแปร (Fuel Adjustment Charge -- Ft) และราคาถ่านหินที่ลดลง
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 รายได้ของบริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็น 37,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 27.5% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าไฟฟ้าผันแปรในอัตรา 15 สตางค์ต่อหน่วยในช่วงครึ่งปีแรก รวมถึงราคาถ่านหินที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และอัตราค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าเก็กโค่-วันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โครงสร้างเงินทุนของบริษัทปรับตัวดีขึ้น โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนลดลงจาก 58.0% เหลืออยู่ที่ 55.7% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 คาดว่าโครงสร้างทางการเงินจะแข็งแกร่งขึ้นต่อเนื่อง เพราะบริษัทไม่มีแผนการลงทุนขนาดใหญ่ในอนาคตอันใกล้ อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนคาดว่าจะลดลงต่ำกว่า 50% หรือเทียบเท่าอัตราส่วนหนี้สินต่อเงินทุนที่ 1 เท่าภายในปี 2558 อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายเท่ากับ 6.2 เท่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 และอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมเท่ากับ 24.6% (ปรับเป็นอัตราส่วนเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) คาดว่าสภาพคล่องของบริษัทจะแข็งแกร่งขึ้นตามจำนวนเงินกู้ระยะยาวที่ลดลง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html