ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และแนวโน้ม “บ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์” ที่ “A+/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 15, 2014 13:32 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะผู้นำของบริษัทในธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านในประเทศไทย ตลอดจนความสามารถในการบริหารสินค้าคงคลัง และผลงานในการบริหารศูนย์รวมวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่ครบวงจร ทั้งนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้ค้าปลีกสมัยใหม่ที่จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับบ้านและภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถรักษาผลประกอบการและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้โดยที่ยังคงอัตราการก่อหนี้ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ในขณะที่มีการขยายสาขา ทั้งนี้ ร้านค้ารูปแบบใหม่ของบริษัทคาดว่าจะช่วยขยายฐานลูกค้าและสร้างกำไรให้แก่บริษัทเพิ่มขึ้นในอนาคต

บริษัทโฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ เป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าและบริการเพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 ผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทประกอบด้วย บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (30.23%) และ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (19.77%) ปัจจุบันบริษัทบริษัทมีร้านค้า 2 รูปแบบคือ “โฮมโปร” ซึ่งเป็นร้านค้ารูปแบบเดิมของบริษัทที่จำหน่ายสินค้าและให้บริการเกี่ยวกับบ้านแบบครบวงจร โดยมีพื้นที่ขายประมาณ 3,000-10,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) ต่อสาขา และ “เมกาโฮม” ซึ่งเป็นร้านค้าในรูปแบบคลังสินค้าขนาดใหญ่ที่เน้นตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้รับเหมา ตลอดจนเจ้าของโครงการ ร้านค้ารายย่อย และผู้บริโภค โดยแต่ละสาขาของเมกาโฮมจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับบ้านและสินค้าที่ใช้ในบ้านซึ่งมีพื้นที่ขายประมาณ 12,000-20,000 ตร.ม. ต่อสาขา ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทขยายสาขาเพิ่มขึ้นจำนวนมาก โดยเปิดสาขาใหม่ 8 สาขาในปี 2555 และ 13 สาขาในปี 2556 เทียบกับ 4 สาขาต่อปีในช่วงก่อนหน้า ทั้งนี้ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมานิยมซื้อสินค้าในศูนย์ค้าปลีกสมัยใหม่เป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายสาขาของบริษัท

ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 บริษัทมีสาขารวมทั้งสิ้น 71 สาขา ประกอบด้วยร้านค้าโฮมโปร21 สาขาในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และ 46 สาขาในต่างจังหวัด นอกจากนี้ บริษัทมีร้านค้าภายใต้รูปแบบเมกาโฮม 4 สาขา ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 บริษัทเปิดสาขาใหม่ทั้งหมด 6 แห่งในต่างจังหวัด ประกอบด้วยร้านค้าโฮมโปร 4 สาขา และร้านค้าเมกาโฮม 2 สาขา การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทำให้บริษัทสามารถสร้างฐานธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านที่แข็งแกร่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ บริษัทยังคงมุ่งเน้นการขยายสาขาในต่างจังหวัดเพิ่มเติมในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้น 16% จาก 34,542 ล้านบาทในปี 2555 เป็น 40,112 ล้านบาทในปี 2556 และในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 23,102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นจากสาขาใหม่ ในขณะที่ยอดขายของสาขาเดิมเติบโตในอัตราที่ชะลอตัว โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 อัตราการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิมเท่ากับ 3.8% เปรียบเทียบกับระดับ 6.3%-6.8% ในช่วงปี 2554-2555 เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา รายได้ภาคการเกษตรที่ลดลงตามราคาพืชผลการเกษตร และระดับหนี้สินในครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นได้ส่งผลลบต่อการบริโภคของประชาชนในประเทศ อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิมของบริษัทฟื้นตัวในไตรมาสที่ 2 ของปี 2557 เท่ากับ 6.5% อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 26% ในปี 2555 เป็น 26.8% ในปี 2556 แต่ลดลงเล็กน้อยเป็น 26.2% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 การลดลงของอัตรากำไรขั้นต้นเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงในสัดส่วนของรายได้ของบริษัทและการเพิ่มขึ้นของยอดขายที่มาจากร้านค้าเมกาโฮมซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นน้อยกว่าร้านค้ารูปแบบเดิมของโฮมโปร บริษัทมีเงินทุนจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 3,993 ล้านบาทในปี 2555 เป็น 4,884 ล้านบาทในปี 2556 และเป็น 2,656 ล้านบาทในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 สภาพคล่องของบริษัทอยู่ในเกณฑ์ดีจากการบริหารเงินทุนหมุนเวียนที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ภาระหนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาจำนวนมาก บริษัทมีการลงทุนประมาณ 6,000 ล้านบาทในปี 2555 และ 10,000 ล้านบาทในปี 2556 เปรียบเทียบกับเงินลงทุนประมาณ 3,000 ล้านบาทต่อปีในช่วงก่อนหน้า ส่งผลให้เงินกู้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 5,523 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2555 เป็น 11,030 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 และอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็น 46.7% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 เมื่อเทียบกับระดับ 34%-40% ในช่วงระหว่างปี 2552-2555 แม้ภาระหนี้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นมาก แต่อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมของบริษัทยังคงแข่งแกร่งที่ระดับ 44% ในปี 2556 และ 54.1% (ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 บริษัทมีแผนการขยายสาขา 10 สาขาภายในประเทศและเปิดสาขาแรกในประเทศมาเลเซีย ซึ่งบริษัทจะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 8,000 ล้านบาทในปี 2557 โดยบริษัทจะจัดหาเงินลงทุนดังกล่าวจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานและการกู้ยืม ทั้งนี้แผนการขยายสาขาจำนวนมากอาจส่งผลให้ภาระหนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทยังสามารถรักษาโครงสร้างเงินทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยที่บริษัทจะมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ทั้งจากผลการดำเนินงานที่จะดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และจากจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น รวมถึงประสิทธิภาพการบริหารสินค้าคงคลังที่ดีของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถจัดหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมได้จากการขายพื้นที่เช่าใน “หัวหิน มาร์เก็ต วิลเลจ” และ “โฮมโปร วิลเลจ สุวรรณภูมิ” ให้แก่กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs)

บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (HMPRO)
อันดับเครดิตองค์กร: A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
HMPRO169A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
HMPRO179A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ