ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนของไทย ตลอดจนตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และกระแสเงินสดที่มีความแน่นอน อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากการแข่งขันทั้งในตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงข้อจำกัดจากการมีโรงพยาบาลหลักเพียงแห่งเดียว และความเสี่ยงที่อาจเกิดจากโครงการลงทุนในอนาคต ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายที่บริษัทจะสามารถรักษาสถานะผู้นำในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในประเทศเอาไว้ได้และคงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งต่อไป โดยปริมาณเงินสดคงเหลือที่ค่อนข้างมากและกระแสเงินสดที่มีเสถียรภาพจะช่วยให้บริษัทมีสภาพคล่องที่เพียงพอในช่วงที่มีการลงทุนและขยายธุรกิจในอนาคต เมื่อพิจารณาแผนการลงทุนของบริษัทแล้วทริสเรทติ้งเห็นว่าบริษัทจะยังสามารถดำรงอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนไม่ให้สูงเกินกว่า 50% ได้ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
บริษัทโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ดำเนินกิจการโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล” บริษัทเป็นผู้นำในการให้บริการด้านสุขภาพภาคเอกชนของประเทศและภูมิภาคเอเชีย โดยโรงพยาบาลของบริษัทมีความสามารถในการให้บริการผู้ป่วยนอกจำนวน 5,500 คนต่อวัน และมีเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยในทั้งหมด 580 เตียง บริษัทมีรายได้จากผู้ป่วยชาวต่างประเทศประมาณ 60% ของรายได้รวม นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยที่ชำระเงินเองคิดเป็นประมาณ 70% ของรายได้รวมด้วย ในเดือนมีนาคม 2557 บริษัทได้ตั้งบริษัทย่อย คือ Health Horizon Enterprise Pte. Ltd. (HHE) ซึ่งจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ เพื่อซื้อกิจการ Bumrungrad Mongolia LLC (BML) โดย BML ได้ซื้อหุ้นในสัดส่วน 51% ใน Seoul Seniors Tower LLC (SST) ซึ่งเป็นเจ้าของและดำเนินกิจการโรงพยาบาล Ulaanbaatar Songdo (UBSD) ในประเทศมองโกเลีย โดยบริษัทมีต้นทุนค่าซื้อกิจการเท่ากับ 395 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม สัดส่วนของรายได้ที่มาจากกิจการโรงพยาบาลใหม่ในประเทศมองโกเลียคิดเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรายได้รวมทั้งหมด
สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทสะท้อนถึงชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักและผลงานทางการแพทย์ที่เป็นที่ยอมรับมานานกว่า 30 ปี บริษัทเน้นกลุ่มลูกค้าผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างประเทศที่มีรายได้สูงโดยใช้กลยุทธ์สร้างความแตกต่างด้านบริการและคุณภาพ บริษัทมีสัดส่วนผู้ป่วยที่มาจากตะวันออกกลางสูงสุดจากจำนวนผู้ป่วยชาวต่างชาติทั้งหมด ทั้งนี้ การรับผู้ป่วยชาวต่างชาติช่วยให้บริษัทมีแหล่งรายได้ที่หลากหลาย รวมทั้งช่วยลดการพึ่งพาผู้ป่วยในประเทศ และลดแรงกดดันจากการแข่งขันในตลาดบริการสุขภาพภายในประเทศ
ในปี 2556 แม้ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำภายในประเทศและสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมือง แต่ผลประกอบการของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง โดยบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 14,346 ล้านบาทในปี 2556 เพิ่มขึ้น 10.5% จาก 12,983 ล้านบาทในปี 2555 สาเหตุหลักมาจากการขึ้นราคาค่าบริการและการเติบโตของรายได้อันเนื่องมาจากความรุนแรงของโรค อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 36.5% ในปี 2555 มาอยู่ที่ระดับ 38.4% ในปี 2556 ส่งผลทำให้กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายแข็งแกร่งโดยอยู่ที่ระดับ 4,122 ล้านบาทในปี 2556 เพิ่มขึ้นจากระดับ 2,200-3,500 ล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2551-2555 สำหรับในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 บริษัทยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศที่ยืดเยื้อซึ่งส่งผลทำให้จำนวนผู้ป่วยชาวต่างประเทศลดลง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยชาวต่างประเทศจะลดลง แต่ความรุนแรงของโรคที่เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มผู้ป่วยดังกล่าวยังคงทำให้รายได้รวมของผู้ป่วยชาวต่างประเทศในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2557 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ระดับ 4,420 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้จากผู้ป่วยชาวไทยนั้นยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2557 รายได้จากผู้ป่วยชาวไทยเติบโตขึ้น 10.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 จึงส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทเติบโตขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 39.2% ในปี 2557 จากที่ระดับ 37.9% ในปี 2556
ทริสเรทติ้งคาดหมายว่าบริษัทจะมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้ของบริษัทจะเติบโตอย่างน้อย 6% ต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า และอัตราส่วนกำไรน่าจะยังคงอยู่ในระดับที่แน่นอนเฉลี่ยประมาณหรือมากกว่า 25% ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว
บริษัทอยู่ในช่วงของการขยายธุรกิจโดยยังคงเน้นตลาดบริการสุขภาพระดับบน ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ซื้อที่ดิน 2 แปลงบนถนนเพชรบุรีและถนนสุขุมวิท ซอย 1 โดยมีแผนจะก่อสร้างโรงพยาบาลขนาด 200 เตียงบนที่ดินที่ถนนเพชรบุรี มูลค่าการลงทุนรวมสำหรับโครงการบนที่ดินทั้ง 2 แปลงอยู่ที่ 9,800 ล้านบาทซึ่งไม่รวมราคาที่ดิน ปัจจุบันโครงการบนถนนเพชรบุรีมีความล่าช้าจนต้องเลื่อนไปจนถึงปี 2558 เนื่องจากอยู่ในระหว่างการออกแบบใหม่เพื่อยื่นขอประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอีกครั้ง โดยการก่อสร้างของโครงการนี้จะเริ่มในเดือนมิถุนายน 2558 และแล้วเสร็จในปี 2560 ที่ดินแปลงที่อยู่บนถนนสุขุมวิท ซอย 1 จะใช้เป็นที่จอดรถในอนาคต ในช่วงปี 2557-2560 บริษัทมีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ประมาณ 600-4,000 ล้านบาทต่อปี ด้วยปริมาณเงินสดคงเหลือจำนวน 3,000-6,000 ล้านบาทต่อปีและความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดอยู่ที่ 3,300-3,900 ล้านบาทต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า ทริสเรทติ้งเชื่อว่าการลงทุนดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานะการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท ทั้งนี้ ในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน 2557 ภาระหนี้รวมของบริษัทมีเพียงหุ้นกู้ระยะยาวจำนวน 5,000 ล้านบาทเท่านั้น โดยบริษัทมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนอยู่ที่ระดับ 33.22%
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html