บริษัทซินเท็ค คอนสตรัคชั่นก่อตั้งในปี 2531 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2536 บริษัทเป็นผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างที่เน้นรับงานโครงการก่อสร้างอาคารสูงภาคเอกชน บริษัทมีรายได้ในปี 2556 อยู่ที่ 6.2 พันล้านบาท และรายได้ในปี 2557 คาดว่าจะอยู่ที่ 6.6 พันล้านบาท
บริษัทดำเนินกลยุทธ์กระจายความเสี่ยงทางธุรกิจไปยังธุรกิจให้เช่าด้วยการซื้อสิทธิการเช่า Natural Ville Residence ซึ่งเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ตั้งอยู่บนถนนหลังสวน โดยสิทธิการเช่าดังกล่าวมีอายุคงเหลือ 20 ปี อย่างไรก็ดี รายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างยังคงเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัทซึ่งกว่า 80% มาจากโครงการคอนโดมิเนียม
สถานะทางธุรกิจในระดับปานกลางของบริษัทสะท้อนถึงผลงานก่อสร้างโครงการอาคารสูงเพื่อพักอาศัยและเพื่อการพาณิชย์ที่ผ่านมาในเขตกรุงเทพฯ โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและมีความน่าเชื่อถือในระดับที่ยอมรับได้ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทรับรู้รายได้จากโครงการของ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นลูกค้าหลักคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1 ใน 3 ของรายได้รวม ขณะเดียวกัน โครงการที่รับรู้รายได้สูงสุดของบริษัทในแต่ละปีคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15% ของรายได้รวม บริษัทมีความเสี่ยงจากการจ่ายเงินล่าช้าและการมีข้อพิพาททางกฎหมายกับเจ้าของโครงการ
ณ เดือนสิงหาคม 2557 บริษัทมีงานที่ยังไม่ได้ส่งมอบมูลค่า 10.3 พันล้านบาท ซึ่งจะช่วยรองรับรายได้กว่า 70% ของคาดการณ์รายได้ในปี 2558 และ 30% ในปี 2559
บริษัทมีผลประกอบการทางการเงินที่ดีขึ้นในปี 2556 ต่อเนื่องมาจนถึงช่วงครึ่งแรกของปี 2557 ด้วยปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของอัตราส่วนกำไร (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) โดยผลประกอบการดังกล่าวอยู่ในระดับใกล้เคียงกับประมาณการของทริสเรทติ้ง ทั้งนี้ การฟื้นตัวดังกล่าวสะท้อนการทยอยจบโครงการที่บริษัทลงนามในสัญญาก่อนปี 2555 ซึ่งส่วนหนึ่งประสบปัญหาค่าก่อสร้างเพิ่มมากขึ้นกว่าที่คาดไว้อันเนื่องมาจากปัญหาอุทกภัยในปี 2554 และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตั้งแต่เดือนเมษายน 2555
อัตราส่วนกำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 9.2% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 เปรียบเทียบกับ 5.5% ในปี 2556 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 อยู่ที่ 26.1% ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับเมื่อช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมและอัตราส่วนกำไร (ก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย) ต่อดอกเบี้ยจ่ายก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นเดียวกัน โดยอัตราส่วนแรกเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 57.7% (ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี) และอัตราส่วนหลังเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 11.4 เท่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 เปรียบเทียบกับ 30.2% และ 7.3 เท่า ตามลำดับในปี 2556
ในช่วงปี 2557-2560 ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีรายได้ประมาณ 6-7 พันล้านบาทต่อปี ซึ่งรวมรายได้ค่าเช่าจากโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ที่คาดว่าจะรับรู้เข้ามาราว 100 ล้านบาทในปี 2557 จากหนึ่งโครงการ และเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 300-400 ล้านบาทในปี 2561 หลังจาก 3 โครงการที่เหลือเปิดดำเนินงานทั้งหมด ทั้งนี้ โอกาสที่รายได้จากการก่อสร้างของบริษัทจะเติบโตสูงกว่าประมาณการมีค่อนข้างจำกัดเนื่องจากตลาดคอนโดมิเนียมในเมืองคาดว่าจะเติบโตในอัตราค่อนข้างคงที่
ในช่วงปี 2557-2560 จากการประมาณการกรณีเลวร้าย ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนกำไรของบริษัทจะยังสามารถทรงตัวได้ไม่น้อยกว่า 7% โดยเฉลี่ย ซึ่งจะส่งผลให้เงินทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ระดับประมาณ 300-400 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเมื่อเทียบกับแผนการลงทุนที่ราว 600 ล้านบาทต่อปีที่ส่วนใหญ่มาจากการลงทุนในโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ คาดว่าจะทำให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่น่าจะยังอยู่ในระดับไม่เกิน 40%
อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมและอัตราส่วนกำไร (ก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย) ต่อดอกเบี้ยจ่ายคาดว่าจะอ่อนแอลงเล็กน้อยจากภาระหนี้ที่สูงขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบัน โดยในช่วง 3 ปีข้างหน้า อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมคาดว่าจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 20% ในขณะที่อัตราส่วนกำไร (ก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย) ต่อดอกเบี้ยจ่ายจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 5 เท่า
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html