สถานะทางธุรกิจของบริษัทอยู่ในระดับปานกลาง บริษัทเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ โดยมีกำลังผลิตที่ 9 ล้านตันต่อปี และมีส่วนแบ่งทางการตลาดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 18% บริษัทมีสายการผลิตปูนซีเมนต์ครบวงจรตั้งแต่การผลิตปูนเม็ด ปูนซีเมนต์ ปูนสำเร็จรูป คอนกรีต กระเบื้องหลังคาคอนกรีต ไฟเบอร์ซีเมนต์ และคอนกรีตมวลเบา โดยความต่อเนื่องในสายการผลิตปูนซีเมนต์ทำให้บริษัทได้รับประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาดและมีโครงสร้างต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ในตลาด อย่างไรก็ตาม ราคาถ่านหินที่ผันผวนถือเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อต้นทุนการผลิตปูนซีเมนต์
บริษัทเป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติก LDPE และ EVA รายใหญ่ของประเทศด้วยกำลังการผลิตที่ 158,000 ตันต่อปี ในปี 2556 บริษัทมีสัดส่วนทางการตลาดในประเทศสำหรับผลิตภัณฑ์ LDPE อยู่ที่ 20% และปัจจุบันเป็นผู้ผลิต EVA รายเดียวในประเทศ บริษัทเน้นการผลิต EVA เพื่อส่งออกเป็นหลัก ธุรกิจเม็ดพลาสติกของบริษัทมีความเสี่ยงจากการที่บริษัทซื้อวัตถุดิบ Ethylene จากผู้จำหน่ายเพียงรายเดียว อีกทั้งยังมีความเสี่ยงจากราคาที่ผันผวนของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ตลอดจนความท้าทายจากสินค้าทดแทน การเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี และการแข่งขันจากผู้ผลิตทั่วโลกด้วยเช่นกัน บริษัทไม่มีข้อจำกัดในการซื้อ Ethylene จากผู้จำหน่ายรายปัจจุบันเพียงรายเดียว แต่ทั้งนี้ ความกังวลเกี่ยวกับการพึ่งพิงผู้จำหน่ายเพียงรายเดียวสะท้อนให้เห็นถึงประวัติการมีแหล่งซื้อ Ethylene ที่น้อยเกินไป อันดับเครดิตของบริษัทสะท้อนถึงประโยชน์จากการประกอบธุรกิจที่หลากหลาย โดยรายได้จากธุรกิจปูนซีเมนต์ที่อาจผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศจะได้รับการถ่วงดุลโดยรายได้จากการส่งออกผลิตภัณฑ์ EVA
อันดับเครดิตของบริษัทมีข้อจำกัดบางส่วนจากประวัติการระดมทุนผ่านตลาดเงินที่ค่อนข้างสั้นหลังจากที่บริษัทออกจากกระบวนการฟื้นฟูกิจการ ทั้งนี้ การผิดนัดชำระหนี้และการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศนั้น เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของบริษัทด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งมองว่าความสัมพันธ์ระหว่างบริษัททั้งกับสถาบันการเงินไทยและต่างประเทศมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
สถานะทางการเงินของบริษัทปรับตัวดีขึ้นในระหว่างปี 2556 ถึงเก้าเดือนแรกของปี 2557 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการปรับขึ้นของราคาปูนซีเมนต์และ LDPE รวมถึงส่วนต่างราคาที่กว้างขึ้นของ LDPE รายได้ของบริษัทในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2557 เท่ากับ 2.29 หมื่นล้านบาท เติบโต 8.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตราส่วนกำไร (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสี่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 อยู่ที่ 11.6% เมื่อเทียบกับอัตรากำไรที่ 11.1% ของช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า ในอีก 3 ปีข้างหน้า ประมาณการของทริสเรทติ้งในกรณีฐานคาดว่ารายได้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2558 โดยมีแหล่งรายได้ใหม่จากโรงงานผลิตปูนซีเมนต์แห่งที่ 4 ธุรกิจโรงไฟฟ้า กระเบื้องหลังคาคอนกรีต ผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ และผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบา ทั้งนี้ คาดว่ารายได้จะเติบโตปีละ 10%-20% ในระหว่างปี 2558-2559 และจะอยู่ที่ประมาณ 3.8-4.0 หมื่นล้านบาทหลังจากทุกโครงการเริ่มดำเนินงานอย่างเต็มที่ อัตราส่วนกำไรคาดว่าจะยังคงอยู่ในช่วง 10%-13% อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งยังคงกังวลว่าอุปทานใหม่ที่เกิดจากโครงการปูนซีเมนต์แห่งที่ 4 อาจนำไปสู่การแข่งขันในด้านราคาสำหรับตลาดภายในประเทศและจะก่อให้เกิดแรงกดดันต่อกำไรของบริษัทได้ บริษัทได้วางแผนจะลงทุนประมาณ 2.2-2.3 หมื่นล้านบาทในระหว่างปี 2556 และ 2558 โดยกว่า 60% จะเป็นการลงทุนในโครงการปูนซีเมนต์แห่งที่ 4 ทั้งนี้ อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 7.2% ณ สิ้นปี 2555 เป็น 31.1% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 โดยคาดว่าหลังจากเสร็จสิ้นการลงทุนในโครงการต่าง ๆ แล้ว อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 35% ซึ่งยังคงสอดคล้องกับอันดับเครดิตที่บริษัทได้รับ
ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะสามารถสร้างเงินทุนจากการดำเนินงานได้ในระดับไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาทต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า สภาพคล่องของบริษัทซึ่งวัดด้วยอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมคาดว่าจะอ่อนตัวลงในช่วงปี 2557 และ 2558 แต่จะดีขึ้นหลังจากบริษัทเริ่มชำระหนี้ในปี 2559 เงินกู้ที่บริษัทจะต้องผ่อนชำระจะมีจำนวนประมาณ 5 พันล้านต่อปีในระหว่างปี 2559 และ 2560 อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 10% ในขณะที่อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายจะอยู่ในระดับเกินกว่า 3 เท่า
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html