ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และแนวโน้ม “บ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี” ที่ “A-/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 22, 2014 13:02 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะที่แข็งแกร่งของบริษัทในธุรกิจยางธรรมชาติ ตลอดจนการมีฐานลูกค้าที่กระจายตัว งบดุลที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง และผลงานของผู้บริหารที่เป็นที่ยอมรับ ทว่าความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากความผันผวนของราคายางธรรมชาติและอัตราการทำกำไรในระดับต่ำของกลุ่มผู้ผลิตยางธรรมชาติในธุรกิจกลางน้ำ (Midstream Producer) โดยที่ภาวะอุปทานส่วนเกินในอุตสาหกรรมยางธรรมชาติที่ดำรงอยู่อย่างยาวนานยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่ออันดับเครดิต ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะรักษาความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมยางธรรมชาติได้ต่อไป นอกจากนี้ ยังคาดว่าบริษัทจะสามารถจัดการสภาพคล่องและรักษาความแข็งแกร่งของงบดุลเพื่อรองรับวงจรธุรกิจขาลงของอุตสาหกรรมยางธรรมชาติได้เช่นกัน

บริษัทศรีตรังแอโกรอินดัสทรีเป็นหนึ่งในผู้นำในการแปรรูปและจำหน่ายยางธรรมชาติในตลาดโลก ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานแปรรูป 23 แห่งในประเทศไทยและอีก 2 แห่งในประเทศอินโดนีเซีย ณ วันที่ 30 กันยายน 2557 บริษัทมีกำลังการผลิตยางแปรรูปทั้งสิ้น 1,353,904 ตันต่อปี

บริษัทมีความเสี่ยงจากความผันผวนของอุตสาหกรรมยางธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารสามารถบริหารกิจการของบริษัทให้ผ่านวงจรธุรกิจทั้งในช่วงขาขึ้นและขาลงมาได้หลายครั้งโดยที่ยังคงสามารถรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 บริษัทมียอดจำหน่ายยางแปรรูปทั้งสิ้น 881,867 ตัน เพิ่มขึ้น 8.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดของยางธรรมชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดยางธรรมชาติทั่วโลกเท่ากับ 10.2% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 7.8% ในปี 2553 บริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางประมาณ 80% ให้แก่ผู้ประกอบการโดยตรงซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตยางรถยนต์ แม้ว่ายอดขายของบริษัทจะกระจุกตัวอยู่ในอุตสาหกรรมเพียงประเภทเดียว แต่บริษัทก็มีฐานลูกค้าที่ค่อนข้างหลากหลายและกระจายตัวอยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก บริษัทมียอดส่งออกคิดเป็น 82% ของปริมาณขายในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 โดยมีลูกค้าหลักคือประเทศจีนซึ่งคิดเป็น 57% ของปริมาณยอดส่งออกทั้งหมด เป็นระดับที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ปัจจุบันผู้ผลิตยางธรรมชาติรายใหญ่ของโลกประกอบด้วยประเทศไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ผลผลิตโดยรวมจากทั้ง 3 ประเทศคิดเป็น 70% ของผลผลิตทั่วโลกที่มีปริมาณ 5.3 ล้านตันในช่วง 6 เดือนแรกปี 2557 โดยประเทศไทยเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดด้วยผลผลิตรวมทั้งสิ้น 1.70 ล้านตัน รองลงมาได้แก่ประเทศอินโดนีเซีย (1.61 ล้านตัน) และประเทศมาเลเซีย (0.39 ล้านตัน) ส่วนในด้านของการบริโภคนั้น ความต้องการยางธรรมชาติปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาจาก 7.91 ล้านตันในปี 2546 มาอยู่ที่ 11.36 ล้านตันในปี 2556 โดยประเทศจีนเป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดคิดเป็น 36% ของปริมาณผลผลิตยางธรรมชาติทั่วโลก แม้ว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2556 ถึงช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 จะอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่การบริโภคยางธรรมชาติทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 5.80 ล้านตันในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 โดยเพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอันเนื่องมาจากปริมาณความต้องการยางล้อของผู้ผลิตยางล้อในประเทศจีน อินเดีย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศผู้ใช้ยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก

อุตสาหกรรมยางแปรรูปเป็นอุตสาหกรรมที่มีต้นทุนวัตถุดิบคิดเป็น 96%-98% ของต้นทุนการผลิตของผู้ผลิตยางแปรรูปแต่ละราย ผู้ประกอบการจึงมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคายางธรรมชาติ ดังนั้น กำไรและกระแสเงินสดของผู้ประกอบการจึงมีความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ บริษัทมีอัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคา (ไม่รวมการกลับรายการของการด้อยค่าของสินค้าคงเหลือ) เคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 0.72%-3.79% ในระหว่างปี 2551-2556 และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 การลดลงของราคายางธรรมชาติกดดันให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทลดลงอยู่ที่ระดับ 0.64% เมื่อเทียบกับ 2.49% ในช่วงเดียวกันของปี 2556 ซึ่งการลดลงของราคายางธรรมชาติในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 เกิดจากปริมาณความต้องการยางธรรมชาติที่เติบโตในอัตราช้าลงเพียง 4.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ในขณะที่ปริมาณผลผลิตยางธรรมชาติจากประเทศผู้ผลิตหลักเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าบริษัทจะมีปริมาณขายเพิ่มขึ้น 8.2% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 มาอยู่ที่ 881,867 ตัน แต่รายได้รวมของบริษัทกลับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 57,987 ล้านบาท หรือลดลง 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 อันเป็นผลมาจากราคาขายเฉลี่ยของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 ที่ลดลง 20% รายได้และอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่ลดลงส่งผลทำให้กำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทลดลงอยู่ที่ 1,839 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 ซึ่งลดลง 35.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

งบดุลของบริษัทค่อนข้างแข็งแรง หนี้เงินกู้รวมของบริษัทลดลงเป็น 12,694 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 จากเดิมที่ 19,547 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2556 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 38.54% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 จาก 49.34% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2556 เนื่องมาจากความต้องการเงินทุนหมุนเวียนที่ลดลงและการลงทุนของบริษัทที่มีจำนวนไม่มาก ความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ในช่วงธุรกิจขาลงของอุตสาหกรรมยางธรรมชาติ โดยอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 เท่ากับ 3.75 เท่า ใกล้เคียงกับ ณ สิ้นปี 2556 ที่ระดับ 3.71 เท่า อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมยังคงอยู่ในระดับปานกลางที่ 18.05% (ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปีโดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง 12 เดือน) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 เมื่อเปรียบเทียบกับ 16.46% ในปี 2556

ในช่วงปี 2558-2560 บริษัทวางแผนจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,500-4,000 ล้านบาทต่อปีเพื่อใช้ในการสร้างโรงงานแปรรูปยางพาราทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้สมมติฐานกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายระดับ 3,000-3,500 ล้านบาทต่อปีแล้ว ทริสเรทติ้งคาดว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทจะมีเพียงพอที่จะรองรับแผนการลงทุนของบริษัท

บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (STA)
อันดับเครดิตองค์กร: A-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
STA16DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 550 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A-
STA162A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A-
STA182A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ