ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กร “บ. พีทีจี เอ็นเนอยี” ที่ “BBB” ด้วยแนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 12, 2015 09:32 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงประวัติการดำเนินงานของบริษัทในธุรกิจจำหน่ายน้ำมันสำเร็จรูป ตลอดจนความมีประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จ่าย และการมีเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันสำเร็จรูปทั่วประเทศ นอกจากนี้ การประเมินอันดับเครดิตยังพิจารณาถึงอุปทานส่วนเกินของน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศไทย และความผันผวนของราคาน้ำมันที่มีผลกระทบต่อบริษัทในวงจำกัดด้วย อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากลักษณะของธุรกิจที่มีอัตรากำไรต่ำ ตลอดจนความเสี่ยงจากการพึ่งพิงผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ (Supplier) และการแทรกแซงจากภาครัฐในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถดำรงสถานะทางการตลาดในปัจจุบันในธุรกิจจำหน่ายน้ำมันสำเร็จรูปเอาไว้ได้ และคาดว่าบริษัทยังคงสามารถบริหารและควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในช่วงการขยายธุรกิจได้

ปัจจัยที่มีผลในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของบริษัทได้แก่ กรณีที่ค่าการตลาดของบริษัทลดลงเป็นระยะเวลานาน หรือ กรณีที่บริษัทไม่สามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงการขยายธุรกิจ นอกจากนี้ การลงทุนขนาดใหญ่ที่ทำให้อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Total liabilities to total equity) สูงเกินกว่า 2 เท่า ยังเป็นปัจจัยเชิงลบต่ออันดับเครดิตของบริษัทอีกด้วย

ในขณะที่ปัจจัยเชิงบวกต่ออันดับเครดิตของบริษัทได้แก่ กรณีที่สถานะทางการเงินของบริษัทดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หรือ กรณีที่บริษัทประสบความสำเร็จในการกระจายแหล่งรายได้

บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด ก่อตั้งในปี 2531 ภายใต้ชื่อ บริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำกัด โดยประกอบกิจการศูนย์จำหน่ายน้ำมันสำเร็จรูป ในปี 2535 บริษัทได้เริ่มเข้าสู่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันสำเร็จรูปโดยการเปิดสถานีบริการน้ำมันภายใต้เครื่องหมายการค้า “PT” บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2556 โดย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2557 กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประกอบด้วยกลุ่มครอบครัวรัชกิจประการ (33%) นายศักดิ์อนันต์ วิจิตรธนารักษ์ (18.5%) และกลุ่มครอบครัววชิรศักดิ์พานิช (9.4%) โดย ณ เดือนกันยายน 2557 บริษัทบริหารสถานีบริการน้ำมันภายใต้เครื่องหมายการค้า “PT” ทั่วประเทศจำนวน 886 แห่ง โดยคิดเป็นประมาณ 4% ของจำนวนสถานีบริการน้ำมันทั้งหมดในประเทศไทย

สถานะทางธุรกิจของบริษัทเป็นที่น่าพอใจ โดยบริษัทซื้อน้ำมันสำเร็จรูปจากโรงกลั่นภายในประเทศเพื่อนำมาจำหน่ายต่อผ่านช่องทางจำหน่ายของบริษัท ปัจจุบันบริษัทซื้อน้ำมันสำเร็จรูปเกือบทั้งหมดจาก บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และจำหน่ายน้ำมันสำเร็จรูปผ่านสถานีบริการน้ำมัน “PT” ประมาณ 85% ของยอดจำหน่ายโดยรวมของบริษัท ส่วนที่เหลืออีก 15% จำหน่ายตรงให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม บริษัทเป็นเจ้าของและบริหารสถานีบริการน้ำมันเองเป็นส่วนใหญ่ (Company owned company operated --- COCO) ซึ่งแตกต่างจากผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่อื่น ๆ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 บริษัทจำหน่ายน้ำมันสำเร็จรูปทั้งสิ้น 1,316 ล้านลิตร โดยประมาณ 70% ของปริมาณจำหน่ายจะผ่านสถานีบริการ COCO ในขณะที่ประมาณ 14% จำหน่ายผ่านสถานีบริการของต้วแทนจำหน่าย ส่วนที่เหลืออีก 16% จำหน่ายตรงให้แก่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม ณ เดือนกันยายน 2557 บริษัทดำเนินการบริหารศูนย์กระจายน้ำมันสำเร็จรูป (คลังน้ำมัน) จำนวน 9 แห่งโดยมีความจุรวมทั้งสิ้น 200.7 ล้านลิตร นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นเจ้าของรถบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่รวมทั้งสิ้น 330 คัน ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถจัดการการขนส่งน้ำมันและบริหารสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ขยายสถานีบริการน้ำมันอย่างรวดเร็ว โดยจำนวนสถานีบริการน้ำมันของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 248 แห่ง ณ สิ้นปี 2552 เป็น 886 แห่ง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 สถานีบริการน้ำมันของบริษัทตั้งอยู่บนถนนสายรองมากกว่าถนนสายหลัก บริษัทใช้บัตรสมาชิก PT MAX Card เพื่อส่งเสริมการจำหน่ายน้ำมันสำเร็จรูปของบริษัท ณ เดือนกันยายน 2557 บริษัทมีจำนวนสมาชิก PT MAX Card ทั้งสิ้น 2.14 ล้านราย ซึ่งการเพิ่มขึ้นของจำนวนสถานีบริการน้ำมันและจำนวนสมาชิก PT MAX Card ช่วยเพิ่มยอดจำหน่ายน้ำมันของบริษัทจาก 391 ล้านลิตรในปี 2552 เป็น 1,316 ล้านลิตรในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 ค่าการตลาดของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 1.16 บาทต่อลิตรในปี 2552 เป็น 1.61 บาทต่อลิตรในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 ซึ่งค่าการตลาดที่ดีขึ้นนั้นส่วนหนึ่งมาจากการเพิ่มจำนวนสถานีบริการน้ำมัน COCO ซึ่งให้ค่าการตลาดที่สูงกว่า โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 บริษัทเป็นเจ้าของสถานีบริการน้ำมัน COCO ประมาณ 76% ของจำนวนสถานีบริการ "PT" ทั้งหมด เมื่อเทียบกับ 40% ในปี 2552

สถานะทางการเงินของบริษัทอยู่ในระดับปานกลาง การขยายสถานีบริการน้ำมันอย่างรวดเร็วส่งผลให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 9,677 ล้านบาทในปี 2552 เป็น 47,694 ล้านบาทในปี 2556 สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 บริษัทมีรายได้ 40,018 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7% จาก 36,799 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 อย่างไรก็ตาม การเป็นผู้ค้าน้ำมันและทำธุรกิจการตลาดสำหรับน้ำมันสำเร็จรูปทำให้บริษัทมีอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) อยู่ที่ประมาณ 1%-2% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โครงสร้างเงินทุนของบริษัทเป็นที่น่าพอใจ ในปี 2556 บริษัทได้เพิ่มทุนจำนวน 1,638 ล้านบาทจากการเสนอขายหุ้นใหม่ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (Initial Public Offering -- IPO) แม้ว่าบริษัทมีการขยายสถานีบริการน้ำมันจำนวนมาก แต่บริษัทใช้กลยุทธ์ในการเช่าสถานีบริการน้ำมันที่มีอยู่เดิมแทนการสร้างสถานีบริการน้ำมันใหม่สำหรับการขยายสถานีบริการน้ำมัน COCO ของบริษัท ทำให้ภาระการลงทุนมีจำนวนไม่สูง โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 บริษัทมีเงินกู้รวม 823 ล้านบาท หรือ 1,898 ล้านบาทเมื่อปรับปรุงด้วยภาระผูกพันจากการเช่าสถานีบริการ ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุน (ปรับปรุงแล้ว) ของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 35% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 ส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทนั้นเพิ่มขึ้นจาก 171 ล้านบาทในปี 2552 เป็น 686 ล้านบาทในปี 2556 สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 บริษัทมีเงินทุนจากการดำเนินงาน 840 ล้านบาท การเพิ่มขึ้นของเงินทุนจากการดำเนินงานมาจากการขยายเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันของบริษัทและยอดขายที่เพิ่มขึ้นของสถานีบริการน้ำมันเดิม ทำให้อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวม (ปรับปรุงแล้ว) ของบริษัทมากกว่า 35% ตั้งแต่ปี 2553

สำหรับช่วงปี 2558 - 2560 ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะดำเนินการขยายจำนวนสถานีบริการที่เป็นของบริษัทเองอย่างต่อเนื่อง เงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทจะมากกว่า 900 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่อัตรากำไรจากการดำเนินงานคาดว่าจะไม่ต่ำไปกว่าระดับปัจจุบันบนสมมติฐานว่าบริษัทยังคงควบคุมค่าใช้จ่ายได้ต่อเนื่องและได้ประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด (Economies of scale) ค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนโดยเฉลี่ยคาดว่าจะอยู่ที่ 1,600 ล้านบาทต่อปี สำหรับการขยายและปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันและศูนย์กระจายน้ำมันสำเร็จรูปของบริษัท โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวรวมการลงทุนในส่วนของทุนจำนวน 640 ล้านบาทในโครงการปาล์มน้ำมันแบบครบวงจรด้วย (Palm Complex) ซึ่งคาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุน (ปรับปรุงแล้ว) ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 50%-55%ในช่วงปี 2558 - 2560 บนสมมติฐานว่าบริษัทจะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 30% ของกำไรสุทธิตามนโยบายของบริษัท

บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ