ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีผลประกอบการที่อ่อนแอลงในช่วงปีที่ผ่านมา แต่สถานะทางการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่งเพียงพอที่จะดำรงสถานะอันดับเครดิตในปัจจุบันเอาไว้ได้ ทั้งนี้ ความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทได้รับอานิสงค์จากการมีภาระหนี้สินที่ต่ำและกระแสเงินสดที่เพียงพอซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ในช่วงธุรกิจขาลง
ในปี 2557 ผลประกอบการของบริษัทยังคงอ่อนแอถึงแม้ว่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายก็ตาม อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (อัตรากำไร) อยู่ที่ 9.1% เปรียบเทียบกับ 8.8% ในปี 2556 อัตรากำไรในระดับต่ำสะท้อนถึงการลดลงของ Spread ของสินค้า PVC และ ธุรกิจ ECH ที่ยังไม่มีกำไร
Spread ของสินค้า PVC มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2557 หลังจากราคาของเอทิลีนปรับลดลงอย่างมากตามราคาของน้ำมันดิบในเดือนกันยายน 2557 ราคาของเอทิลีนลดลงจากที่เคยสูงกว่า 1,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันมาอยู่ที่ประมาณ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 ในขณะเดียวกัน ราคาของสินค้า PVC ก็ปรับตัวอ่อนลงเช่นกันแต่ลดลงช้ากว่าราคาของเอทิลีน ส่งผลทำให้ Spread ของสินค้า PVC นั้นกว้างขึ้น ซึ่งทำให้กำไรของบริษัทปรับสูงขึ้นและช่วยลดการแข่งขันจาก PVC ที่ผลิตจากถ่านหินลง อัตรากำไรของบริษัทในไตรมาสที่ 4 ของปี 2557 เพิ่มขึ้นเป็น 11.1% จาก 7.4% ในไตรมาสที่ 3
โครงสร้างทางการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่งมากและใช้เป็นเงินสำรองได้เป็นอย่างดี ณ เดือนธันวาคม 2557 โครงสร้างหนี้ของบริษัทปรับตัวดีขึ้น โดยอัตราหนี้สิ้นต่อโครงสร้างเงินทุนเท่ากับ 16.6% ลดลงจาก 17.5% ณ สิ้นปี 2556 บริษัทได้ดำเนินการชำระหนี้ล่วงหน้าในระหว่างปี 2556 และ 2557 ซึ่งเป็นการช่วยลดภาระหนี้สิ้นและเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินให้แก่บริษัท ภาระหนี้สินทั้งหมดของบริษัทลดลงเหลือ 3,000 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2557 จากระดับสูงสุดที่ 4,179 ล้านบาทในเดือนกันยายน 2556 อัตราหนี้สิ้นต่อโครงสร้างเงินทุนคาดว่าจะไม่เพิ่มขึ้นเนื่องจากโครงการ ECH ถูกระงับและคาดว่าบริษัทจะยังไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ในปีหน้า บริษัทอาจจะชำระหนี้ล่วงหน้าอีกครั้งในปี 2558 ซึ่งจะทำให้การผ่อนชำระเงินกู้ยืมในปี 2559 ลดลง สภาพคล่องของบริษัทถือว่ายังคงเพียงพอเนื่องจากบริษัทมีการสำรองเงินสดในปริมาณที่ค่อนข้างสูงและกระแสเงินสดยังอยู่ในเกณฑ์ดี บริษัทมีอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงาน (FFO) ต่อเงินกู้รวมเท่ากับ 53.3% ในปี 2557 และมีอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ต่อดอกเบี้ยจ่ายเท่ากับ 10.8 เท่า ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะมี EBITDA มากกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปีตลอดช่วง 3 ปีข้างหน้า
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html