ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร และแนวโน้ม “บล. เคที ซีมิโก้” ที่ “BBB+/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 1, 2015 13:02 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด ที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และธุรกิจสัญญา

ซื้อขายล่วงหน้าของบริษัท ตลอดจนการมีบริษัทในเครือที่เปิดดำเนินกิจการในประเทศลาวและเวียดนาม รวมถึงการสนับสนุนจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือหุ้นในบริษัทในสัดส่วน 50% การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับจากเครือข่ายสาขาของธนาคารกรุงไทยซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงความสัมพันธ์ที่ธนาคารมีกับกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่สถานะทางการตลาดของบริษัทด้วย อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตยังมีข้อจำกัดจากฐานทุนที่ค่อนข้างตึงตัวและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่อยู่ในระดับสูง ตลอดจนความผันผวนของธุรกิจหลักทรัพย์และแรงกดดันด้านอัตราค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ภายหลังการเปิดเสรีอย่างเต็มรูปแบบ

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคารกรุงไทยต่อไป และจะสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เอาไว้ได้ภายใต้สภาพการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น อีกทั้งจะคงไว้ซึ่งระบบจัดการความเสี่ยงที่เพียงพอในการควบคุมความเสี่ยงในการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ รวมไปถึงกิจกรรมป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดหวังว่าบริษัทจะไม่ขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วเกินไปจนกระทบต่อสัดส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ

อันดับเครดิตและหรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทสามารถที่จะปรับเพิ่มขึ้นได้หากบริษัทสามารถรักษาเสถียรภาพของอัตราการเติบโตของกำไรและสถานะของเงินทุนเอาไว้ได้ ในทางกลับกัน อันดับเครดิตและหรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทสามารถที่จะปรับลงได้หากบริษัทสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่อง หรือหากบริษัทเพิ่มสัดส่วนหนี้สินต่อทุนอย่างมีนัยสำคัญอย่างต่อเนื่อง

การแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจหลักทรัพย์ส่งผลให้ส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทในปี 2555 ลดลงจาก 4.14% (อันดับที่ 10) ลดลงมาอยู่ที่ 2.96% ในปี 2557 (อันดับ 13) อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงรักษาอัตราค่าธรรมเนียมนายหน้าโดยเฉลี่ยให้ ใกล้เคียงกับปีก่อน ในขณะที่อัตราค่าธรรมเนียมนายหน้าโดยเฉลี่ยของอุตสาหกรรมลดลงอย่างมากจากปีก่อน มีผลทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของรายได้ธุรกิจหลักทรัพย์ของบริษัทไม่ได้ลดลงมาก โดยลดลงจาก 4.8% ในปี 2555 มาอยู่ที่ 4% ในปี 2557 สำหรับธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้านั้น บริษัทถือเป็นหนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นผู้นำ โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดของรายได้ในธุรกิจนี้อยู่ที่ประมาณ 5%-6% ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

บริษัทได้ใช้ประโยชน์จากสาขาของธนาคารกรุงไทยในการขยายฐานลูกค้ารายย่อยมาโดยตลอด โดย 37% ของบัญชีเปิดใหม่ในปี 2557 เป็นลูกค้าที่ผ่านการแนะนำโดยธนาคารกรุงไทย เทียบกับในปี 2553 ซึ่งมีสัดส่วนดังกล่าวไม่ถึง 10% สำหรับบัญชีลูกค้าที่แนะนำโดยธนาคารกรุงไทยที่มีการเคลื่อนไหวบัญชีอยู่เป็นประจำมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 10% ในปี 2554 เป็น 21% ในปี 2557 บริษัทได้ใช้ความพยายามในการทำให้พนักงานของธนาคารมีความคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทหลักทรัพย์ให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการแนะนำลูกค้าของธนาคารให้มาใช้บริการของบริษัท นอกจากความช่วยเหลือในการขยายธุรกิจแล้ว ธนาคารกรุงไทยยังให้การสนับสนุนแก่บริษัทในด้านการเงินด้วย โดยประมาณ 70% ของวงเงินสินเชื่อทั้งหมดที่บริษัทมีเป็นวงเงินที่ได้รับจากธนาคารกรุงไทยซึ่งช่วยเสริมสภาพคล่องและมีเงินทุนเพียงพอในการขยายธุรกิจ การสนับสนุนจากธนาคารในด้านต่าง ๆ เหล่านี้ช่วยให้บริษัทมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งที่ไม่ใช่บริษัทในเครือของธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้ ในปี 2557 บริษัทมีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการจากธุรกิจวานิชธนกิจมากถึง 152 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2556 ถึง 260% อันเป็นผลมาจากการแนะนำลูกค้าจากธนาคารกรุงไทย ซึ่งถือเป็นผลประโยชน์ที่บริษัทได้รับจากความร่วมมือกับธนาคาร

บริษัทจัดได้ว่าเป็นผู้ประกอบการธุรกิจหลักทรัพย์ไทยรายแรก ๆ ที่ขยายธุรกิจไปในภูมิภาคอินโดจีน โดยบริษัทถือหุ้น 30% ใน BCEL-KT Securities Co., Ltd. (BCEL-KT) ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ 1 ใน 3 แห่งของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นอกจากนี้ บริษัทยังมีเครือข่ายอยู่ในประเทศเวียดนามด้วยโดยผ่านการลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) ใน Thanh Cong Securities Joint Stock Company โดย บล. ซีมิโก้ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทอีกรายหนึ่ง (ในสัดส่วน 49.6%) การริเริ่มขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศก่อนคู่แข่งไทยรายอื่นน่าจะสร้างความได้เปรียบให้แก่บริษัทในการให้บริการด้านวาณิชธนกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมข้ามชาติ รายได้จากการให้บริการด้านวาณิชธนกิจในปี 2557 คิดเป็น 8% ของรายได้รวมของบริษัท เพิ่มขึ้นจาก 2% ของรายได้รวมของบริษัทในปี 2556 อย่างไรก็ดี ทริสเรทติ้งก็คาดหวังที่จะเห็นธุรกิจวาณิชธนกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เป็นการให้บริการแก่ลูกค้านอกประเทศและส่วนที่มาจากการแนะนำลูกค้าของธนาคารกรุงไทยจะสร้างรายได้ให้แก่บริษัทในสัดส่วนที่มากพอสมควรต่อไปอีกในอนาคตอันใกล้

แม้ว่าภายหลังการรับโอนธุรกิจหลักทรัพย์จาก บล. ซีมิโก้ในปี 2552 จะทำให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่มีกำไร แต่สัดส่วนกำไรต่อรายได้ของบริษัทก็ยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูง โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวของบริษัทยังคงอยู่ในระดับสูงถึง 71% ของรายได้สุทธิในปี 2557 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ระดับประมาณ 60% การมีสัดส่วนกำไรต่อรายได้ที่ต่ำนี้อาจทำให้บริษัทตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบในการแข่งขันและอาจส่งผลกดดันความสามารถในการทำกำไรในอนาคตได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้นภายหลังการเปิดเสรี

ปัจจุบัน บริษัทมีการจำกัดความเสี่ยงด้านการตลาดโดยไม่มีการลงทุนแบบเก็งกำไรเหมือนในอดีต แต่มีเพียงการลงทุนแบบ Arbitrage กับการลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ ยอดลูกหนี้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ของบริษัท ณ สิ้นปี 2556 อยู่ที่ 2.9 พันล้านบาทซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับระดับ ณ สิ้นปี 2555 ในระหว่างปี 2557 ยอดลูกหนี้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 4.5 พันล้านบาท ซึ่งถือเป็นระดับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ การเพิ่มขึ้นของสินเชื่อนี้สอดคล้องกับการเติบโตของอุตสาหกรรมแต่ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงทางด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยบริษัทมีสัดส่วนการให้สินเชื่อเทียบกับยอดลูกหนี้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์รวมทั้งอุตสาหกรรมค่อนข้างนิ่งอยู่ที่ระดับประมาณ 7% อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริษัทมีฐานเงินทุนที่อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำอยู่แล้ว การขยายตัวของสินเชื่อนี้จึงทำให้บริษัทจัดว่ามีการใช้หนี้สินเทียบกับทุนที่สูงมากที่สุดบริษัทหนึ่งในอุตสาหกรรม ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะใช้ความระมัดระวังในการขยายสินเชื่อหรือในการตัดสินใจใดใดที่จะส่งผลในการก่อหนี้เพิ่มขึ้น

ณ สิ้นปี 2556 บริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 2.4 พันล้านบาท จาก 2.1 พันล้านบาท ณ สี้นปี 2555 ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มทุนของผู้ถือหุ้นเดิมในระหว่างปี 2556 เป็นการแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนอย่างดีของผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท อัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิต่อหนี้สินทั่วไปของบริษัทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 35% ในปี 2556 และ 2557 เทียบกับ 24% ในปี 2555 อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการใช้ทุนอย่างเต็มที่ของบริษัททำให้บริษัทจัดว่าเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิต่อหนี้สินทั่วไปต่ำมากที่สุดแห่งหนึ่ง

บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด (KTZ)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ