ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 126 ล้านหยวน “บ. น้ำตาลมิตรผล” ที่ระดับ “A+/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 3, 2015 13:32 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 126 ล้านหยวนของ บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด ที่ระดับ “A+” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A+” เช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งของบริษัทในอุตสาหกรรมน้ำตาลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตลอดจนแบรนด์สินค้าที่มีชื่อเสียง กระบวนการผลิตน้ำตาลที่มีประสิทธิภาพ และการขยายกิจการสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำตาล นอกจากนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงสถานการณ์ราคาน้ำตาลที่อยู่ในระดับต่ำในปัจจุบัน รวมถึงความเสี่ยงด้านกฎระเบียบและการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ และความเสี่ยงจากความผันผวนของปริมาณผลผลิตอ้อยด้วย

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่ากลุ่มมิตรผลจะยังคงดำรงสถานะผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลทั้งในประเทศไทยและจีนได้ต่อไป ระบบการแบ่งปันรายได้ของอุตสาหกรรมน้ำตาลในประเทศ ตลอดจนการกระจายตัวของแหล่งรายได้จะช่วยให้บริษัทสามารถประคองตัวอยู่ได้ในช่วงที่ราคาน้ำตาลในตลาดโลกอยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้ ปัจจัยที่มีผลเชิงลบต่ออันดับเครดิตได้แก่ราคาน้ำตาลที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่องและอัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทลดลงเป็นระยะเวลานาน หรือมีการลงทุนขนาดใหญ่ที่ใช้เงินกู้จำนวนมากซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างทุนอ่อนแอลง ในขณะที่ปัจจัยเชิงบวกต่ออันดับเครดิตของบริษัทมีอยู่ไม่มากในภาวะที่ราคาน้ำตาลยังอยู่ในระดับต่ำ

บริษัทน้ำตาลมิตรผลก่อตั้งในปี 2489 โดยตระกูลว่องกุศลกิจซึ่งถือหุ้นในบริษัทเต็ม 100% ผ่าน บริษัท น้ำตาลมิตรสยาม จำกัด บริษัทน้ำตาลมิตรผลมีโรงงานน้ำตาลในประเทศไทย จีน ลาว และออสเตรเลีย ในฤดูการผลิต 2556/2557 บริษัทมีผลผลิตน้ำตาลจาก 4 ประเทศรวมทั้งสิ้น 4.08 ล้านตัน

บริษัทเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลในประเทศไทยมาอย่างยาวนานโดยเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ทั้งนี้ ในฤดูการผลิต 2556/2557 บริษัทผลิตน้ำตาลได้ 2.3 ล้านตัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 20.3% ของปริมาณน้ำตาลทั้งประเทศ บริษัทยังเป็นเจ้าของและบริหารโรงงานน้ำตาล 7 แห่งในประเทศจีนโดยมีผลผลิตน้ำตาล 1.17 ล้านตันในปีการผลิต 2556/2557 ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาด 8.7% ในประเทศจีนซึ่งถือเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่อันดับ 2 ส่วนโรงงานน้ำตาลของบริษัทในประเทศลาวผลิตน้ำตาลได้ 0.04 ล้านตัน และในประเทศออสเตรเลีย (โรงงาน MSF Sugar -- MSF) ผลิตได้ 0.56 ล้านตันในฤดูการผลิต 2556/2557

ในปี 2557 บริษัทมีรายได้รวม 89,378 ล้านบาท ธุรกิจน้ำตาลเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ในสัดส่วนที่สูงที่สุดของบริษัท โดยรายได้จากธุรกิจน้ำตาลมีสัดส่วน 80% ของรายได้รวม และรายได้จากธุรกิจน้ำตาลในไทยมีสัดส่วน 44% ในขณะที่รายได้จากประเทศจีนมีสัดส่วน 29% ของรายได้รวม ส่วนรายได้จากธุรกิจน้ำตาลในประเทศลาวและออสเตรเลียมีจำนวน 7% ของรายได้รวม

นอกเหนือจากธุรกิจน้ำตาลแล้ว บริษัทยังขยายการลงทุนไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอ้อยและน้ำตาลเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากอ้อยด้วย อาทิ ธุรกิจผลิตไฟฟ้า ธุรกิจผลิตเอทานอล ธุรกิจผลิตวัสดุทดแทนไม้ และธุรกิจผลิตกระดาษ บริษัทได้ขยายกำลังการผลิตเอทานอลและไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง ณ เดือนธันวาคม 2557 โรงงานผลิตเอทานอลของบริษัทมีกำลังการผลิตที่ 974,500 ลิตรต่อวัน นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 442.8 เมกะวัตต์ด้วย ในปี 2557 รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าและเอทานอลรวมกันคิดเป็นสัดส่วน 15% ของรายได้รวมของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการพัฒนาโรงไฟฟ้าที่ใช้ชานอ้อยเป็นเชื้อเพลิงอีก 126 เมกะวัตต์ และบริษัทได้วางเป้าหมายว่าภายในปี 2563 บริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนอีก 200 เมกะวัตต์

ราคาน้ำตาลในตลาดโลกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในปี 2557 เนื่องจากยังคงมีอุปทานน้ำตาลส่วนเกินทั่วโลกต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 4 แม้ว่าราคาน้ำตาลจะลดลงมากกว่า 10% ในปี 2557 แต่รายได้ของบริษัทในปี 2557 ก็ยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยรายได้เพิ่มขึ้น 6.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็น 89,378 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณขายน้ำตาลจากการดำเนินงานในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 12.3% ในขณะที่รายได้จากธุรกิจเอทานอลและไฟฟ้ารวมกันเพิ่มขึ้น 25.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม กำไรจากธุรกิจน้ำตาลลดลงตามราคาน้ำตาลที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ธุรกิจน้ำตาลในประเทศจีนยังเผชิญกับปัญหาต้นทุนอ้อยที่สูงจากนโยบายการกำหนดราคาอ้อยของรัฐบาลจีนเพื่อช่วยเหลือชาวไร่ด้วย อัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทจึงลดลงเป็น 14.5% ในปี 2557 จาก 16.8% ในปีก่อน กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ลดลง 4.0% อยู่ที่ 14,803 ล้านบาทในปี 2557 เมื่อเทียบกับปี 2556 ที่ 15,424 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นผลจากกำไรจากการดำเนินงานของธุรกิจเอทานอลและไฟฟ้าที่เติบโตซึ่งช่วยบรรเทาการลดลงของกำไรจากการดำเนินงานของธุรกิจน้ำตาล ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2558 ผลการดำเนินงานของบริษัทยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ รายได้เติบโต 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 22,515 ล้านบาท ขณะที่ EBITDA เท่ากับ 7,027 ล้านบาท เติบโต 14.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปีก่อน อัตราส่วน EBITDA ต่อดอกเบี้ยจ่ายยังคงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ในช่วงที่อุตสาหกรรมน้ำตาลชะลอตัว โดยอัตราส่วน EBITDA ต่อดอกเบี้ยจ่ายลดลงมาอยู่ในระดับ 6.0 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับระดับ 6.7 เท่าในปี 2556 อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมยังอยู่ในระดับเพียงพอที่ 19.1% และ 18.5% (ปรับเป็นอัตราส่วนเต็มปีด้วยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 12 เดือน) ในปี 2557 และไตรมาสที่ 1 ของปี 2558 ตามลำดับ อัตราส่วนการก่อหนี้ของบริษัทอยู่ในระดับปานกลาง โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็น 51.0% ณ เดือนธันวาคม 2557 จากระดับ 49.0% ณ เดือนธันวาคม 2556 บริษัทมีแผนใช้เงินลงทุนปีละประมาณ 6,000-8,000 ล้านบาทในระหว่างปี 2558-2559 คาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะยังคงชะลอตัวในช่วงอุตสาหกรรมน้ำตาลประสบภาวะตกต่ำตามวัฏจักร คาดว่า EBITDA จะอยู่ระดับประมาณ 13,000-15,000 ล้านบาทต่อปี กระแสเงินสดดังกล่าวยังเพียงพอต่อการลงทุนตามแผนและการจ่ายเงินปันผลประจำปี ดังนั้น คาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาระดับหนี้และความสามารถในการชำระหนี้ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้

ในปี 2557/2558 ผลผลิตอ้อยในประเทศไทยยังคงดีต่อเนื่องที่ 106.0 ล้านตันซึ่งเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์ แต่ผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยลดลงมาอยู่ในระดับ 106.66 กิโลกรัมต่อตันอ้อยจาก 109.32 กิโลกรัมต่อตันอ้อยในปีก่อน ผลผลิตน้ำตาลในประเทศไทยจึงคงมีจำนวน 10.33 ล้านตันใกล้เคียงกับปีก่อน อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมน้ำตาลยังอยู่ภายใต้แรงกดดันของราคาน้ำตาลที่อ่อนแอ ราคาเฉลี่ยน้ำตาลทรายดิบในตลาดโลกปรับตัวลงต่อเนื่องถึง 15% ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มาอยู่ที่ระดับ 13.84 เซนต์ต่อปอนด์เมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ย 16.34 เซนต์ต่อปอนด์ในปี 2557 เป็นผลจากปริมาณน้ำตาลคงเหลือจำนวนมากทั่วโลก นอกจากนี้ ค่าเงินรีลของประเทศบราซิลซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลที่ใหญ่ที่สุดของโลกอ่อนตัวลงอย่างมากเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงได้รับผลดีจากการมีธุรกิจที่หลากหลายและกระจายธุรกิจในหลายประเทศ ซึ่งจะช่วยบรรเทาผลกระทบดังกล่าว คาดว่าธุรกิจน้ำตาลในประเทศจีนจะฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำในปี 2557 ปัญหาความแห้งแล้งในประเทศจีนส่งผลให้ราคาน้ำตาลในประเทศจีนปรับตัวสูงกว่าราว 10% ในปัจจุบันเมื่อเทียบกับราคาขายเฉลี่ยในปี 2557 นอกจากนี้ รัฐบาลจีนได้ประกาศปรับลดราคาอ้อยในประเทษจีนลง 9% เป็น 400 หยวนต่อตัน ขณะที่คาดว่าธุรกิจไฟฟ้าและเอทานอลจะยังคงให้ผลกำไรที่ดี การที่รัฐบาลไทยยังคงนโยบายส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้นจะช่วยสนับสนุนความต้องการใช้เอทานอล

บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด (MPSC)
อันดับเครดิตองค์กร: A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
MPSC156A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+
MPSC15OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+
MPSC165A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
MPSC16OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
MPSC16OB: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
MPSC175A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A+
MPSC185A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
MPSC18OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,150 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
MPSC199A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 900 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A+
MPSC20OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A+
MPSC20OB: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,850 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A+
MPSC219A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A+
MPSC21OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A+
MPSC22OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+
MPSC233A: หุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A+
MPSC249A: หุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A+
MPSC256A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A+
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 126 ล้านหยวน ไถ่ถอนภายในปี 2561 A+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ