ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 2,400 ล้านบาท “บ. จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก” ที่ระดับ “A+/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 4, 2015 13:04 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 2,400 ล้านบาทของ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” ในขณะเดียวกันยังคงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทที่ระดับ “A+” ด้วย โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปใช้ทดแทนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่ใช้สำหรับโครงการลงทุนของบริษัท อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะที่แข็งแกร่งของบริษัทในฐานะผู้ประกอบการเพียงรายเดียวที่มีโครงข่ายท่อส่งน้ำดิบครอบคลุมพื้นที่ในเขตชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ลักษณะธุรกิจที่ผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาแข่งขันได้ยาก ความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจที่อยู่ในระดับต่ำ และการที่บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีรายได้ที่สม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวมีข้อจำกัดบางประการจากความต้องการเงินลงทุนที่สูงในการหาแหล่งน้ำดิบเพิ่มเติม ตลอดจนผลกระทบที่คาดเดาได้ยากจากการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ และความเสี่ยงจากการมีกลุ่มลูกค้าที่ไม่หลากหลาย นอกจากนี้ กฎระเบียบเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่ไม่ชัดเจนของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องยังเป็นประเด็นกังวลต่อความสามารถของบริษัทในการให้บริการที่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความสามารถในการดำเนินธุรกิจและสร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอของบริษัท โดยทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะขยายธุรกิจโดยการเพิ่มภาระหนี้ด้วยความระมัดระวังและมีการติดตามตรวจสอบอย่างมีวินัย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยดำรงคุณภาพเครดิตของบริษัทเอาไว้ เมื่อพิจารณาปัจจัยเสี่ยงของบริษัท ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน อันดับเครดิตของบริษัทมีแนวโน้มที่ไม่เปลี่ยนแปลงในระยะ 12-18 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตาม การลงทุนที่ทำให้เกิดภาระหนี้สูงขึ้นอย่างมากจะมีผลกระทบในเชิงลบต่อคุณภาพเครดิตของบริษัท

บริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออกก่อตั้งในปี 2535 ตามมติคณะรัฐมนตรีที่มอบหมายให้ภาคเอกชนเป็นผู้รับผิดชอบการพัฒนาและดำเนินการดูแลระบบท่อส่งน้ำดิบในพื้นที่ 7 จังหวัดชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ปัจจุบันบริษัทเน้นให้บริการน้ำดิบในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทราเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจ การค้า และสังคมมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังให้บริการน้ำประปาในเขตพื้นที่บริการอีก 10 เขต โดยมีกำลังการผลิตรวม 308,460 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวัน ณ เดือนพฤษภาคม 2558 ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทประกอบด้วย การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 40.2% บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) ถือ 18.7% Norbax Inc., 13 ถือ 6.8% และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ถือ 4.6% ในไตรมาสแรกของปี 2558 บริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายน้ำดิบคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 69% และรายได้จากธุรกิจน้ำประปาคิดเป็น 24% ของรายได้รวม

พื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทเป็นผลมาจากการที่บริษัทเป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวในเขตชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกและมีความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจที่อยู่ในระดับต่ำ นับตั้งแต่การก่อตั้ง บริษัทเช่าและดำเนินการบริหารโครงการท่อส่งน้ำดิบจากกระทรวงการคลัง หลังจากนั้น บริษัทได้พัฒนาโครงข่ายการจ่ายน้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อเชื่อมต่อโครงข่ายในทุกพื้นที่ที่ให้บริการ ซึ่งขณะนี้บริษัทมีโครงข่ายท่อส่งน้ำที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างสมบูรณ์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสูบและบริหารจัดการน้ำดิบจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อจัดสรรให้แก่ลูกค้าในทุกพื้นที่ที่ให้บริการด้วย แม้ว่าการประกอบกิจการไม่ต้องใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อน แต่การมีโครงข่ายที่ครอบคลุมนั้นต้องใช้เงินลงทุนสูงและต้องได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญในการเข้าสู่ธุรกิจประเภทนี้ ดังนั้น บริษัทจึงไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องของคู่แข่งทางตรงในธุรกิจน้ำดิบในอนาคตอันใกล้

การจัดหาแหล่งน้ำถือเป็นอีกปัจจัยที่สนับสนุนการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยบริษัทได้รับการอนุมัติจากกรมชลประทานให้สูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำ 4 แห่ง นอกจากนี้ บริษัทยังหาแหล่งน้ำใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น และลดความเสี่ยงจากสภาวะภูมิอากาศที่ไม่แน่นอน ทั้งนี้ แหล่งน้ำใหม่ ๆ ที่จะนำมาใช้นั้นขึ้นอยู่กับการอนุมัติของกรมชลประทาน และมีแนวโน้มต้นทุนที่สูงขึ้นเนื่องจากอยู่ในระยะไกล

บริษัทยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการมีลูกค้ารายใหญ่เพียงไม่กี่รายเนื่องจากยอดขายน้ำให้แก่ กปภ. และ กนอ. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นและลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทมีสัดส่วนถึงประมาณ 65%-70% ของยอดขายรวมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และ กปภ. ยังสามารถต่อรองราคาน้ำดิบกับบริษัทและได้รับการลดราคาค่าน้ำดิบ โดยทั่วไปแล้ว ปัจจัยที่สนับสนุนความต้องการใช้น้ำดิบมาจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออกรวมทั้งความต้องการที่สูงขึ้นของกลุ่มผู้บริโภคซึ่งมีความผันแปรไปตามสภาพเศรษฐกิจ ปริมาณฝนที่หนาแน่นและการที่ลูกค้าบางรายสามารถหาแหล่งน้ำดิบได้โดยตรงส่งผลลบต่ออุปสงค์ในการใช้น้ำดิบ ในไตรมาสแรกของปี 2558 ภาวะการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวในภาคตะวันออกที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลต่ออุปสงค์ของทั้งน้ำดิบและน้ำประปา บริษัทมียอดขายน้ำดิบรวม 69.1 ล้าน ลบ.ม. ในไตรมาสแรกของปี 2558 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.8% ขณะที่รายได้จากการขายน้ำดิบของบริษัทเพิ่มขึ้น 7.3% เป็น 741 ล้านบาท ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายน้ำดิบที่ต่ำกว่าปริมาณขายนั้นเกิดจากสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของลูกค้ากลุ่มผู้อุปโภคบริโภคที่มีราคาค่าน้ำต่ำกว่าผู้ใช้น้ำกลุ่มอื่น ๆ

ธุรกิจจำหน่ายน้ำประปาของบริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสแรกของปี 2558 บริษัทมียอดจำหน่ายน้ำประปารวม 19.5 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มขึ้น 10.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้จากธุรกิจน้ำประปาเพิ่มขึ้น 13% อยู่ที่ 256 ล้านบาท อย่างไรก็ดี แม้ธุรกิจให้บริการน้ำประปาจะมีอุปสงค์เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็มีโอกาสในการขยายตัวในอนาคตในระดับต่ำเนื่องจาก กปภ. ไม่มีนโยบายเปิดประมูลสัมปทานใหม่หรือให้เอกชนดำเนินการแทน ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาอัตราการเติบโตของบริษัทในธุรกิจนี้ บริษัทต้องหาโอกาสในการขยายธุรกิจน้ำประปาจากการหาสัมปทานกิจการประปาโดยตรงจากเทศบาลหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ รวมทั้งการให้บริการในพื้นที่ที่ยังไม่มีน้ำปะปาใช้

ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทมาจากผลการดำเนินงานที่ดีและการมีแหล่งรายได้ที่แน่นอน ในไตรมาสแรกของปี 2558 บริษัทมีรายได้ 1,079 ล้านบาท ลดลง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า อย่างไรก็ดี หากไม่รวมรายได้ค่าก่อสร้างภายใต้สัญญาสัมปทาน รายได้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 14.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จากการขายอยู่ที่ระดับสูงกว่า 54% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทยังคงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งแม้จะมีภาระหนี้ที่สูงขึ้นมากจากการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการสูบส่งน้ำและการจัดหาน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการในอนาคต โดยโครงการหลัก คือ โครงการอ่างเก็บน้ำทับมาและโครงการท่อส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์มายังอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ณ เดือนมีนาคม 2558 บริษัทมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นเป็น 6,184 ล้านบาท อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนยังคงอยู่ในระดับดีที่ 40.93% บริษัทมีโครงการลงทุนรวมประมาณ 2,500 ล้านบาทในปี 2558 และ 1,300 ล้านบาทในปี 2559 โดยเงินลงทุนหลัก ๆ จะใช้ในโครงการอ่างเก็บน้ำทับมาและท่อส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์มายังอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล เนื่องจากการลงทุนดังกล่าวจะอาศัยการก่อหนี้ ดั้งนั้นจึงคาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะอยู่ในระดับ 40%-45% ในระยะ 3 ปีข้างหน้า การออกหุ้นกู้ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ทดแทนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่ใช้สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำทับมาและโครงการท่อส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์มายังอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ซึ่งทำให้บริษัทมีต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลง

สภาพคล่องของบริษัทยังคงแข็งแรงในระดับเครดิตของบริษัท ในไตรมาสแรกของปี 2558 อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมอยู่ที่ 28.61% (ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปีโดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง 12 เดือน) และมีอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่าย 10.83 เท่า ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีฐานะการเงินที่อ่อนตัวลงแต่ยังคงแข็งแรงในช่วงปี 2558-2560 ภายใต้สมมติฐานของทริสเรทติ้ง บริษัทจะสามารถรักษาระดับอัตรากำไรได้ไม่ต่ำกว่า 54% และคงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ โดยจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานไม่ต่ำกว่า 1,700 ล้านบาทต่อปีเพื่อให้เพียงพอต่อภาระผูกพันทางการเงินที่มีปีละ 800-1,000 ล้านบาทในปี 2559-2560 และการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอตามนโยบายบริษัท โดยฐานะการเงินของบริษัทคาดว่าจะกลับมาแข็งแกร่งหลังจากที่โครงการลงทุนต่าง ๆ แล้วเสร็จสมบูรณ์

บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EASTW)
อันดับเครดิตองค์กร: A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 2,400 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2568 A+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ