ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” และปรับลดแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทลงเป็น “Negative” หรือ “ลบ” จาก “Stable” หรือ “คงที่” โดยการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากการประกาศของบริษัทเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2558 ที่กลุ่มตระกูลตั้งมติธรรมซึ่งเป็นทั้งผู้ถือหุ้นใหญ่และเป็นผู้บริหารหลักเดิมของบริษัทได้ขายหุ้นของบริษัทที่ตนถืออยู่ โดยแนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” สะท้อนถึงความกังวลต่อการเปลี่ยนมือธุรกิจไปยังผู้ถือหุ้นใหม่และผู้บริหารชุดใหม่ในช่วงที่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กำลังชะลอตัว นอกจากนี้ ผู้บริหารชุดใหม่ยังขาดผลงานที่เป็นที่ประจักษ์ในธุรกิจดังกล่าว
อันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานของบริษัทที่มีมาอย่างยาวนานในตลาดที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ระดับปานกลาง ตลอดจนความสามารถในการควบคุมต้นทุนค่าก่อสร้างให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง และโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ การประเมินอันดับเครดิตยังคำนึงถึงฐานรายได้ของบริษัทที่ค่อนข้างต่ำ ลักษณะของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลง และการชะลอตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศด้วย
แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative หรือ “ลบ” สะท้อนถึงความกังวลต่อการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารหลักของบริษัท ในขณะที่การขาดผลงานที่เป็นที่ประจักษ์ของทีมผู้บริหารชุดใหม่ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้สร้างความกังวลต่อการเปลี่ยนมือในช่วงที่ธุรกิจดังกล่าวกำลังชะลอตัว โดยอันดับเครดิต/แนวโน้มอันดับเครดิตอาจปรับขึ้นได้หากทีมผู้บริหารชุดใหม่สามารถทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน รวมถึงรักษานโยบายการเงินที่รัดกุมเอาไว้ได้ ทั้งนี้ ผลการดำเนินงาน หรือ สถานะทางการเงินที่ด้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ระดับการก่อหนี้เพิ่มสูงขึ้นกว่าที่คาดการณ์ จะส่งผลเชิงลบต่ออันดับเครดิต/แนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัท
กลุ่มตระกูลตั้งมติธรรมขายหุ้นของตนที่ถืออยู่ในบริษัท 20.64% ให้แก่ บริษัท แคสเซิล พีค ดีเวลลอปเม้นท์ส และ บริษัท ซีพีดี โฮลดิ้ง จำกัด ในราคา 6.75 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 1,200 ล้านบาท บริษัทแคสเซิล พีค ดีเวลลอปเม้นท์ส และบริษัทซีพีดี โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 100% โดยนายสุเทพ วงศ์วรเศรษฐ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของ บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด อีกทั้งยังเป็นกรรมการของบริษัทอีกหลายแห่ง โดยหลังจากธุรกรรมดังกล่าว บริษัทแคสเซิล พีค ดีเวลลอปเม้นท์ส และบริษัทซีพีดี โฮลดิ้ง จำกัด จะถือหุ้น 12.15% และ 8.49% ตามลำดับในบริษัทมั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ในขณะที่สัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่มตระกูลตั้งมติธรรมจะลดลงเหลือ 5.80% จากเดิมที่ 26.44% และกลุ่มตระกูลตั้งมติธรรมจะออกจากการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัททั้งหมด ทั้งนี้ นายสุเทพ วงศ์วรเศรษฐ ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการของบริษัท โดยมีนายฟิลิปวีระ บุนนาค และนางสุธิดา สุริโยดร เป็นกรรมการบริหารของบริษัท นอกจากนี้ ได้มีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารระดับสูงแต่ยังไม่ครบทุกตำแหน่ง โดยแม้จะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารตั้งแต่ระดับกลางลงไปแต่ผู้บริหารระดับสูงชุดใหม่ยังไม่มีผลงานที่เป็นที่ประจักษ์ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลต่อการเปลี่ยนมือช่วงที่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กำลังชะลอตัว
ผลการดำเนินงานของบริษัทชะลอตัวในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 รายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 435 ล้านบาท แต่อัตรากำไรขั้นต้นลดลงมาอยู่ที่ 33.4% จาก 40.7% ในปี 2557 โดยการลดลงดังกล่าวมีสาเหตุจากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนรายได้ที่มาจากโครงการทาวน์เฮาส์ซึ่งให้อัตรากำไรขั้นต้นน้อยกว่าโครงการบ้านเดี่ยว นอกจากนี้ ยังมีการให้ส่วนลดและโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อเร่งปิดบางโครงการ ส่งผลให้อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานลดลงเหลือ 11.1% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 จาก 24% ในปี 2557 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 21.3% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 ในขณะที่สภาพคล่องของบริษัทอ่อนตัวลงในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 แต่ยังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมของบริษัทลดลงมาอยู่ที่ 30.7% จาก 36.9% ในปี 2557 และอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายลดลงมาอยู่ที่ 2.9 เท่า จาก 12.1 เท่าในปี 2557
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html