ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กร “บ. ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์” ที่ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 30, 2015 13:12 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ จำกัด ที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งสะท้อนถึงความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจที่อยู่ในระดับต่ำและอุปสงค์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมน้ำประปา รวมทั้งกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากสัญญาขายน้ำขั้นต่ำระยะยาวที่มีการปรับขึ้นราคาตามสูตร อันดับเครดิตของบริษัทยังได้รับการสนับสนุนจากสถานะทางกลยุทธ์ที่สำคัญของบริษัทต่อบริษัทแม่คือ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EASTW; อันดับเครดิตองค์กร “A+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่”) ด้วย อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวมีข้อจำกัดบางประการจากความเสี่ยงจากการมีกลุ่มลูกค้าที่ไม่หลากหลายและโอกาสที่ค่อนข้างจำกัดในการขยายธุรกิจไปในพื้นที่บริการใหม่ ๆ

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความสามารถในการดำเนินธุรกิจและการสร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอของบริษัท โดยทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะขยายธุรกิจโดยการเพิ่มภาระหนี้ด้วยความระมัดระวังเพื่อดำรงคุณภาพเครดิตของบริษัทเอาไว้ ปัจจัยที่เป็นบวกต่ออันดับเครดิตของบริษัทจะขึ้นอยู่กับแผนการลงทุนที่จะก่อให้เกิดรายได้ในอนาคต อย่างไรก็ดี หากบริษัทประสบปัญหาในการเพิ่มทุนหรือมีการลงทุนที่ทำให้เกิดภาระหนี้ที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญก็จะส่งผลลบต่อคุณภาพเครดิตของบริษัท นอกจากนี้ ในกรณีที่คุณภาพเครดิตของ EASTW เปลี่ยนแปลงไปก็จะส่งผลต่อคุณภาพเครดิตของบริษัทด้วยเช่นกัน

บริษัทยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ เป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นทั้งหมดโดย EASTW บริษัทก่อตั้งในปี 2541 เพื่อดำเนินธุรกิจบริหารกิจการประปาและบริหารระบบบำบัดน้ำเสียทั้งในรูปสัญญาสัมปทาน สัญญาจ้างบริหาร และสัญญาเช่าบริหาร รวมทั้งบริการทางวิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันบริษัทให้บริการน้ำประปาในเขตพื้นที่บริการ 10 เขต ด้วยกำลังการผลิตรวม 308,460 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวัน โดยบริษัทมีสัญญารับซื้อน้ำประปาจากคู่สัญญาในปริมาณขั้นต่ำรวม 151,283 ลบ.ม. ต่อวัน นอกจากนี้ บริษัทยังให้บริการระบบน้ำเย็นที่โครงการยอดพิมานริเวอร์วอล์คภายใต้สัญญาดำเนินการ 15 ปีโดยมีกำลังการผลิต 4,167 ตันความเย็นต่อวันด้วย ทั้งนี้ รายได้หลักของบริษัทมาจากสถานีผลิตน้ำประปาที่สัตหีบ ระยอง บางปะกง ฉะเชิงเทรา และชลบุรี โดยมีรายได้รวมกว่า 60% ของยอดจำหน่ายทั้งหมดของบริษัท

ฐานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทได้รับแรงหนุนจากการมีความเสี่ยงจากการดำเนินงานที่อยู่ในระดับต่ำตามธรรมชาติของธุรกิจน้ำประปาและการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของความต้องการใช้น้ำประปา แม้ว่าการผลิตน้ำประปาจะใช้เทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อน แต่ก็มีอุปสรรคในการเข้าสู่ธุรกิจในระดับหนึ่งเนื่องจากผู้ประกอบการต้องได้รับใบอนุญาตหรือสัมปทานจากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังจะต้องมีแหล่งน้ำดิบและสิทธิผ่านทางในการวางท่อส่งน้ำในกรณีที่ต้องมีการวางระบบ เป็นต้น การลงทุนในธุรกิจน้ำประปาใช้ทุนในระดับปานกลาง แต่ผู้ประกอบการอาจต้องใช้เงินลงทุนสูงหากต้องการสร้างเครือข่ายท่อส่งน้ำหรือต้องการให้บริการผลิตน้ำประปาจากน้ำทะเล โดยต้องใช้เงินลงทุนสูงกว่าระบบปกติถึง 10 เท่า บริษัทมีความเสี่ยงจากการมีการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เป็นลูกค้ารายใหญ่แต่เพียงรายเดียวโดยรายได้จาก กปภ. คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัทในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สถานะความน่าเชื่อถือของ กปภ. ก็อยู่ในระดับที่รับได้เนื่องจากมีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ นอกจากนี้ โอกาสเติบโตของบริษัทในบางพื้นที่ก็ขึ้นอยู่กับเครือข่ายท่อส่งน้ำของ กปภ. ด้วย ทั้งนี้ หาก กปภ. ขยายเครือข่ายท่อส่งน้ำมากขึ้นเท่าใดก็จะช่วยเพิ่มอุปสงค์ของน้ำประปาและโอกาสเติบโตของบริษัทมากขึ้นเท่านั้น

อันดับเครดิตของบริษัทได้รับการสนับสนุนจากสถานะของกลุ่มและอันดับเครดิตของ EASTW ปัจจุบันพื้นที่ให้บริการจำนวน 4 แห่งของบริษัทอยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานที่ EASTW เป็นคู่สัญญา ความร่วมมือของบริษัทกับ EASTW ทั้งในเรื่องแหล่งน้ำดิบและการดำเนินงานส่งผลให้ผลประโยชน์โดยรวมของกลุ่มเพิ่มขึ้น ทริสเรทติ้งมองว่าบริษัทมีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อ EASTW ค่อนข้างสูงและเชื่อว่าบริษัทจะได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ทั้งในด้านปฏิบัติการและด้านการเงินเมื่อบริษัทต้องการ อย่างไรก็ดี การสนับสนุนจาก EASTW ก็อาจมีจำกัดเมื่อพิจารณาถึงแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของบริษัทในอนาคต

เนื่องจากน้ำประปามีความจำเป็นต่อการบริโภค ความต้องการใช้น้ำประปาจึงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดขายน้ำประปาของบริษัทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทโดยมาจากปัจจัย 2 ประการ คือ การเพิ่มขึ้นของความต้องการของผู้บริโภคและการขยายกำลังการผลิตในพื้นที่บริการเดิมประการหนึ่ง และการขยายไปยังพื้นที่ให้บริการใหม่ ๆ อีกประการหนึ่ง ยอดขายน้ำประปาของบริษัทเติบโตในอัตราเฉลี่ย 7% ต่อปีในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา เปรียบเทียบกับกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3% ต่อปี อย่างไรก็ดี แม้ธุรกิจให้บริการน้ำประปาจะมีอุปสงค์เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็มีโอกาสในการขยายตัวในอนาคตในระดับปานกลางเนื่องจาก กปภ. ไม่มีนโยบายที่จะเปิดประมูลสัมปทานใหม่หรือให้เอกชนดำเนินการแทน ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาอัตราการเติบโตของบริษัทในธุรกิจนี้ บริษัทจึงต้องหาโอกาสในการขยายธุรกิจประปาจากการหาสัมปทานโดยตรงจากเทศบาลหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ รวมทั้งการให้บริการในพื้นที่ที่ยังไม่มีบริการน้ำประปา

ความเสี่ยงจากการดำเนินงานที่อยู่ในระดับต่ำกับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุปสงค์น้ำประปาเป็นปัจจัยสนับสนุนฐานะการเงินของบริษัท ในปี 2557 บริษัทมีรายได้ 1,263 ล้านบาท ซึ่งรายได้ดังกล่าวรวมรายได้ค่าก่อสร้างภายใต้สัญญาสัมปทานจำนวน 269 ล้านบาทซึ่งได้บันทึกเป็นต้นทุนการผลิตเอาไว้ด้วย หากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าวแล้ว รายได้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อนหน้า บริษัทมียอดขายน้ำประปารวม 75.6 ล้าน ลบ.ม. ในปี 2557 เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน สำหรับ 3 เดือนแรกของปี 2558 ความต้องการใช้น้ำประปาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและการขยายเครือข่ายท่อส่งน้ำในบางพื้นที่ให้บริการของบริษัทส่งผลให้ยอดจำหน่ายน้ำประปาของบริษัทเพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 19.5 ล้าน ลบ.ม. รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 266 ล้านบาท บริษัทมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จากการขายอยู่ที่ระดับ 22%-31% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อัตรากำไรที่ต่ำในปี 2556 เกิดจากปัญหาเรื่องท่อส่งน้ำในพื้นที่สัตหีบที่ชำรุดซึ่งทำให้บริษัทมียอดขายน้ำในพื้นที่ดังกล่าวลดลง 11% นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องราคาค่าน้ำดิบที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย หลังจากมีการแก้ปัญหาเรื่องท่อชำรุดและการจัดการเรื่องแหล่งน้ำดิบกับ EASTW แล้ว อัตรากำไรของบริษัทก็ปรับตัวดีขึ้น โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 อัตรากำไรของบริษัทอยู่ที่ 34.6% ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตรากำไรของบริษัทจะอยู่ในระดับสูงกว่า 30% ในปี 2558-2560

บริษัทมีสภาพคล่องที่แข็งแกร่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมที่ระดับ 33%-36% ยกเว้นในปี 2556 ที่บริษัทมีปัญหาในการดำเนินงาน ในไตรมาสแรกของปี 2558 สภาพคล่องของบริษัทปรับตัวดีขึ้นโดยสอดคล้องกับอัตราการทำกำไร อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมอยู่ที่ 38.6% (ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปีโดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง 12 เดือน) และมีอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ต่อดอกเบี้ยจ่ายอยู่ในระดับสูงที่ 8.3 เท่าในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2558

บริษัทมีโครงสร้างเงินทุนอยู่ในระดับที่ดี โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนอยู่ในระดับ 37%-39% ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ในอนาคตบริษัทมีแผนจะขยายกิจการทั้งในพื้นที่บริการเดิมและผ่านการซื้อกิจการ โดยในช่วงปี 2558-2560 บริษัทมีงบลงทุนสำหรับการขยายธุรกิจตามปกติที่ 100-250 ล้านบาทต่อปี ซึ่งบริษัทจะใช้เงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทเป็นหลัก นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะซื้อหุ้น 90% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดในบริษัทเอ็กคอมธารา จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจน้ำประปาในพื้นที่จังหวัดราชบุรีและสมุทรสงครามมูลค่ารวม 1,918 ล้านบาทด้วย โดยบริษัทจะใช้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน บริษัทมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงต้นปี 2559 และคาดหมายว่าจะเพิ่มทุนได้จำนวน 1,100-1,200 ล้านบาท โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนไปใช้ในการชำระหนี้ที่เกิดจากการซื้อกิจการ ซึ่งหากทั้งการลงทุนและการเพิ่มทุนประสบความสำเร็จตามแผน บริษัทก็จะสามารถดำรงฐานะทางการเงินในระดับดีได้ต่อไป อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทคาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำกว่า 40% อย่างไรก็ดี หากแผนการเพิ่มทุนของบริษัทล่าช้าออกไป อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทก็จะเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยจะอยู่ที่ระดับเกินกว่า 60% ซึ่งบริษัทควรต้องมีแผนรองรับในการลดหนี้ในระยะ 2 ปีข้างหน้า

ภายใต้สมมติฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าในช่วงปี 2558-2560 รายได้ของบริษัทจะเติบโตอย่างน้อย 5% จากการดำเนินงานปกติ และอัตราการเติบโตจะเพิ่มสูงขึ้นมากเมื่อรวมผลการดำเนินงานของบริษัทเอ็กคอมธารา ในส่วนของสภาพคล่องนั้น ทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทจะไม่ประสบปัญหาสภาพคล่อง โดยคาดว่าบริษัทจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานไม่น้อยกว่า 420 ล้านบาทต่อปีในช่วงระหว่างปี 2559-2560 ซึ่งรวมผลการดำเนินงานของกิจการใหม่ ทั้งนี้ กระแสเงินสดดังกล่าวจะช่วยเสริมสภาพคล่องให้แก่บริษัท

บริษัท ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ จำกัด (UU)
อันดับเครดิตองค์กร: A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ