ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาทของ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB-” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “BBB-” เช่นเดียวกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ บริษัทวางแผนจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปชำระคืนหนี้และใช้ในการขยายกิจการ อันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานที่ผ่านมาของบริษัทในโครงการรับเหมาก่อสร้างทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนและมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่อยู่ในระดับปานกลาง ทั้งนี้ จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากลักษณะที่ผันผวนของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง รวมถึงผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างผันผวนของบริษัท และความเสี่ยงจากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันในงานโยธาจากโครงการของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้ต่อไป โดยที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทคาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำกว่า 60% หรืออัตราส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นไม่เกิน 1.5 เท่าในช่วงปี 2558-2560 อัตราส่วนกำไรของบริษัทคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ในระดับ 8%-9%
อย่างไรก็ตาม หากการดำเนินงานของบริษัทมีผลขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากอัตราส่วนกำไรของบริษัทลดลงต่ำกว่า 7% หรืออัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมต่ำกว่า 10% ก็จะมีผลให้อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตลดลง นอกจากนั้น หากการขยายการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นเหตุให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทเพิ่มเกินกว่า 60% ก็จะมีผลกระทบให้อันดับเครดิตปรับลดลง การปรับอันดับเครดิตเพิ่มขึ้นในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้ามีค่อนข้างจำกัดเนื่องจากบริษัทเริ่มขยายการลงทุนไปในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตนเอง ซึ่งคาดว่าภาระหนี้สินของบริษัทจะเพิ่มขึ้นแต่ผลตอบแทนจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเป็นปัจจัยบวกแก่อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัท
บริษัทเนาวรัตน์พัฒนาการก่อตั้งในปี 2519 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2538 ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ณ เดือนมกราคม 2558 คือนายพลพัฒ กรรณสูต ซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 10% บริษัทเป็นผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างที่รับงานโยธาได้หลากหลาย เช่น งานอาคาร งานถนน ทางด่วน สะพาน งานท่าเรือ งานระบบชลประทาน งานอุโมงค์ และงานท่อ เป็นต้น
บริษัทมีสถานะความเสี่ยงทางธุรกิจในระดับปานกลางซึ่งสะท้อนจากผลงานที่ผ่านมาและงานที่แล้วเสร็จ โดยในช่วงปี 2552-2557 บริษัทรับรู้รายได้จากโครงการรับเหมาก่อสร้างจากภาคเอกชนและภาครัฐในสัดส่วน 60% และ 40% ตามลำดับ รายได้เฉลี่ยของบริษัทในช่วงปี 2552-2554 อยู่ที่ระดับ 4,000 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่ในปี 2555-2557 รายได้เฉลี่ยของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 7,000 ล้านบาทต่อปี
ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 บริษัทมีงานรับเหมาก่อสร้างที่ยังไม่ได้ส่งมอบมูลค่า 12,325 ล้านบาท โดยมีโครงการหลัก ได้แก่ โครงการขุดและขนถ่านหินเหมืองแม่เมาะซึ่งมีมูลค่า 3,572 ล้านบาท โครงการบริหารจัดการบำบัดน้ำเสียมูลค่า 2,085 ล้านบาท และโครงการอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อมูลค่า 1,464 ล้านบาท โดยงานที่ยังไม่ได้ส่งมอบมูลค่าสูงสุด 3 ลำดับแรกมีมูลค่าโครงการรวม 7,121 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 58% ของมูลค่างานที่ยังไม่ได้ส่งมอบทั้งหมด ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะสามารถรับรู้รายได้จากงานที่ยังไม่ได้ส่งมอบประมาณ 38% ในปี 2558 34% ในปี 2559 และอีก 17% ในปี 2560
อันดับเครดิตของบริษัทสะท้อนรวมไปถึงผลงานที่มีจำนวนน้อยในโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ ในปี 2549 บริษัทลงทุน 40% ร่วมกับ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม "ดิ อิสสระ ลาดพร้าว" มูลค่า 1,867 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม "อิซซี่ สุขสวัสดิ์" มูลค่า 2,000 ล้านบาทในปี 2556 นอกจากนี้ ในปี 2550 บริษัทยังได้ลงทุนในสัดส่วน 25% ร่วมกับ บริษัท วีเอสพีเอ็น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว "ซีบรีส วิลล่า พัทยา" มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท และในปี 2555 บริษัทยังได้พัฒนาและก่อสร้างโครงการบ้านเดี่ยวของบริษัทภายใต้ชื่อ "บารานี" ด้วย ส่วนในปี 2558 บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการแนวราบ 2 โครงการและโครงการคอนโดมิเนียมอีก 1 โครงการ รวมมูลค่าโครงการประมาณ 2,300 ล้านบาท
สถานะทางการเงินของบริษัทในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาอยู่ในระดับต่ำกว่าประมาณการพื้นฐานของทริสเรทติ้ง บริษัทมีอัตราส่วนกำไร (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงาน ก่อนค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) ในไตรมาสแรกปี 2558 อยู่ที่ 5.3% ลดลงจาก 7.7% ในปี 2557 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอยู่ที่ 42.3% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 เพิ่มขึ้นจาก 41.4% ในปี 2557 ในช่วงปี 2558-2560 ประมาณการพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีรายได้ประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาทต่อปี โดยจะมาจากโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างน้อย 600 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ โอกาสที่รายได้ของบริษัทจะต่ำกว่าประมาณการน่าจะอยู่ในระดับปานกลางจากการที่บริษัทมีมูลค่างานในมือที่จะรับรู้เป็นรายได้เกือบ 50% ของประมาณการรายได้พื้นฐานของทริสเรทติ้ง อัตราส่วนกำไรของบริษัทคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากประมาณ 6%-8% มาอยู่ในระดับที่มากกว่า 8% เนื่องจากมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าเดิมจากโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทคาดว่าจะอยู่ในช่วง 45%-55% ในช่วงปี 2558-2560 ทั้งนี้ เงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทน่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 600-800 ล้านบาทต่อปี และอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมคาดว่าจะสูงกว่า 15% ในขณะที่อัตราส่วนกำไร (ก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย) ต่อดอกเบี้ยจ่ายคาดว่าจะอยู่ในระดับเกินกว่า 4 เท่า
อันดับเครดิตองค์กร: BBB- อันดับเครดิตตราสารหนี้: NWR178A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 BBB- หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2561 BBB- แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 ? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html