ทริสเรทติ้งยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของสถานะทางการตลาดของบริษัทในฐานะผู้ให้บริการธุรกิจสื่อสารดาวเทียมเพียงรายเดียวในประเทศไทย ตลอดจนโอกาสทางการเติบโตที่ดีของบริษัทซึ่งได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้ช่องรับส่งสัญญาณดาวเทียมที่เติบโตอย่างต่อเนื่องสำหรับธุรกิจการกระจายเสียงและแพร่ภาพออกอากาศในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ในการพิจารณาอันดับเครดิตยังรวมถึงกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอและผลประกอบการที่ดีในธุรกิจดาวเทียมแบบทั่วไปซึ่งมีปัจจัยเกื้อหนุนจากการมีความจุช่องสัญญาณที่เพิ่มขึ้นจากดาวเทียมดวงใหม่ อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวก็มีข้อจำกัดบางประการจากการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ รวมถึงจากกฎระเบียบที่ซับซ้อนในธุรกิจสื่อสารดาวเทียม และค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนขนาดใหญ่สำหรับการลงทุนในดาวเทียมดวงใหม่
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะยังคงความสามารถในการแข่งขันและรักษาผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทประสบความสำเร็จตามแผนธุรกิจและสร้างความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นให้แก่สถานะทางการเงิน อันดับเครดิตอาจได้รับแรงกดดันให้ต้องปรับลดลงหากบริษัทก่อหนี้เชิงรุกเพื่อการลงทุน หรือหากบริษัทประสบความล้มเหลวในการปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร หรือหากเกิดความขัดข้องขึ้นกับดาวเทียมในวิถีโคจรซึ่งล้วนส่งผลในแง่ลบต่อสถานะทางธุรกิจของบริษัททั้งสิ้น
บริษัทไทยคมก่อตั้งในปี 2534 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2537 บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทโดยมีสัดส่วนการถือหุ้น ณ เดือนเมษายน 2558 จำนวน 41% ของหุ้นทั้งหมด ปัจจุบันบริษัทให้บริการการสื่อสารด้วยดาวเทียมแบบวงโคจรค้างฟ้าจำนวน 4 ดวง โดยเป็นดาวเทียมแบบทั่วไป 3 ดวง คือ ไทยคม 5 ไทยคม 6 และไทยคม 7 และเป็นดาวเทียมแบบบรอดแบนด์ 1 ดวง คือ ไทยคม 4 หรือไอพีสตาร์ บริษัทยังลงทุนในบริษัทที่ให้บริการด้านการสื่อสารในประเทศลาวและลงทุนในธุรกิจให้บริการอินเทอร์เน็ตและสื่อด้วย บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 10,004 ล้านบาทในปี 2557 และ 3,074 ล้านบาทในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2558 โดยรายได้จากธุรกิจดาวเทียมคิดเป็นสัดส่วน 75% ของรายได้รวมของบริษัทในไตรมาสแรกของปี 2558 สัดส่วนรายได้จากดาวเทียมแบบทั่วไปคิดเป็น 55% และจากดาวเทียมไอพีสตาร์คิดเป็น 45% ของรายได้จากธุรกิจดาวเทียม ฐานลูกค้าดาวเทียมทั่วไปของบริษัทส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนฐานลูกค้าดาวเทียมไอพีสตาร์ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไทย ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อินเดีย มาเลเซีย และจีน
สถานะที่แข็งแกร่งทางธุรกิจของบริษัทได้รับแรงหนุนจากตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมแบบทั่วไปของบริษัทที่อยู่ในตำแหน่งที่มีศักยภาพสูงในการถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ ตลอดจนลักษณะความเป็นธุรกิจที่ผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาได้ยาก ได้แก่ การมีตำแหน่งวงโคจรที่มีจำกัด เงินลงทุนที่สูง ตลอดจนความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีอวกาศ ธุรกิจดาวเทียมของบริษัทสร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอภายใต้สัญญาเช่าระยะปานกลางถึงระยะยาว ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 อัตราการใช้ช่องรับส่งสัญญาณดาวเทียมแบบทั่วไปของบริษัทอยู่ที่ 78% ของความจุทั้งหมด ในขณะที่อัตราการใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมไอพีสตาร์อยู่ที่ 57% อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องเผชิญกับความเสี่ยงในด้านการแข่งขันกับผู้ประกอบการให้บริการดาวเทียมที่มีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทับซ้อนในภูมิภาคเดียวกัน ดาวเทียมบรอดแบนด์ของบริษัทเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีทางเลือกสำหรับการส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปยังผู้ใช้ปลายทาง อย่างไรก็ตาม บริษัทได้กำหนดบทบาทของตนมิให้เป็นคู่แข่งขันกับเทคโนโลยีอื่น ๆ แต่จะให้บริการที่เป็นการเสริมกันมากกว่า นอกจากนี้ บริษัทยังเผชิญกับความท้าทายในสภาพแวดล้อมการแข่งขันที่ซับซ้อนในขณะที่ต้องปฏิบัติตามโครงสร้างกฎระเบียบสากลและกฎระเบียบด้านดาวเทียมของภูมิภาคที่ยุ่งยากซับซ้อนด้วย
เมื่อปีที่แล้วบริษัทได้ปล่อยดาวเทียมใหม่ 2 ดวงขึ้นสู่วงโคจร คือ ดาวเทียมไทยคม 6 ในเดือนมกราคม และดาวเทียมไทยคม 7 ในเดือนกันยายน ดาวเทียมทั้ง 2 ดวงนี้เพิ่มความจุช่องรับส่งสัญญาณจำนวน 47 ช่อง (Transponder Equivalent -- TPE) และช่วยสนับสนุนการเติบโตในอนาคตให้แก่บริษัท ดาวเทียมไทยคม 6 ซึ่งมีความจุจำนวน 33 ช่องสัญญาณให้บริการแก่ธุรกิจการกระจายเสียงและแพร่ภาพออกอากาศในพื้นที่ย่านอินโดจีนและอาฟริกาเป็นสำคัญ หลังจากดาวเทียมไทยคม 6 ได้รับการปล่อยขึ้นสู่วงโคจรแล้ว จำนวนช่องโทรทัศน์ที่ใช้บริการดาวเทียมของบริษัทก็เพิ่มขึ้นจาก 641 ช่อง ณ สิ้นปี 2556 เป็น 766 ช่อง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 จำนวนช่องโทรทัศน์ที่มีความละเอียดสูง (High-definition -- HD) เพิ่มขึ้นเป็น 112 ช่อง จาก 74 ช่องในปี 2556 ความนิยมในช่องโทรทัศน์ความละเอียดสูงและช่องโทรทัศน์ความละเอียดสูงพิเศษ (Ultra HD) จะส่งผลดีต่อการเติบโตของบริษัทในอนาคต นอกจากนี้ กฎการเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (Must Carry) และโครงข่ายโทรทัศน์ดิจิตอล (Multiplexers -- Mux) รวมถึงการให้บริการระหว่างการเดินทาง (Mobility Services) ยังช่วยผลักดันการเติบโตของบริษัทด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ คาดว่าแนวโน้มการเติบโตจะยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ณ เดือนมิถุนายน 2558 อัตราการใช้ช่องรับส่งสัญญาณของดาวเทียมไทยคม 6 อยู่ที่ 65% เพิ่มขึ้นจาก 59% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 บริษัทเผชิญกับความท้าทายในการขายช่องรับส่งสัญญาณที่เหลือในอาฟริกา ดาวเทียมไทยคม 7 ซึ่งมีความจุ 14 ช่องสัญญาณนั้นให้บริการด้านการสื่อสารคมนาคมเป็นหลัก คาดว่าอัตราการใช้ช่องรับส่งสัญญาณของดาวเทียมไทยคม 7 จะเพิ่มขึ้นจาก 59% ในเดือนมิถุนายน 2558 เป็น 100% ภายในปีนี้เนื่องจากบริษัทขายช่องรับส่งสัญญาณส่วนที่เหลือหมดแล้ว บริษัทวางแผนจะปล่อยดาวเทียมไทยคม 8 ขึ้นสู่วงโคจรในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 โดยดาวเทียมไทยคม 8 มีความจุ 24 ช่องสัญญาณในย่านความถี่ Ku (Ku-band) โดยจะให้บริการสำหรับธุรกิจการกระจายเสียงและแพร่ภาพออกอากาศเป็นหลัก
บริษัทเป็นผู้ให้บริการดาวเทียมบรอดแบนด์เพียงรายเดียวในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกโดยเน้นขายช่องสัญญาณให้แก่บริษัทโทรคมนาคม ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และโครงการภาครัฐ อัตราการใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมไอพีสตาร์เพิ่มขึ้นจาก 53.4% ในปี 2556 เป็น 57% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 โดยเพิ่มขึ้นจากอัตราการใช้ดาวเทียมไอพีสตาร์ในประเทศมาเลเซีย ออสเตรเลีย พม่า และอินเดียเป็นสำคัญ ในช่วง 3 ปีข้างหน้าคาดว่าพื้นที่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดียจะเป็นพื้นที่ที่มีการใช้งานดาวเทียมไอพีสตาร์เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้งานช่องสัญญาณดาวเทียมไอพีสตาร์ในโครงการ National Broadband Network (NBN) ของประเทศออสเตรเลียจะหมดอายุในเดือนกันยายน 2560 และรัฐบาลออสเตรเลียกำลังจะปล่อยดาวเทียมบรอดแบนด์ของตนเองขึ้นสู่วงโคจรในช่วงปลายปี 2558 นี้ บริษัทจึงวางแผนจะขยายการบริการไปยังตลาดภาคธุรกิจเอกชนเพื่อทดแทนโครงการ NBN นอกจากนี้ ช่องสัญญาณที่เหลือของดาวเทียมไอพีสตาร์ก็มีข้อจำกัดในด้านเวลาการขายเนื่องจากดาวเทียมไอพีสตาร์มีอายุคงเหลืออีกเพียง 6 ปี บริษัทจึงกำลังพิจารณาโอกาสทางธุรกิจของดาวเทียมแบบทั่วไปและดาวเทียมบอร์ดแบนด์ดวงใหม่เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป
สถานะทางการเงินของบริษัทปรับตัวดีขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาโดยได้รับแรงหนุนจากรายได้ที่เติบโต รวมถึงจากกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งขึ้น สภาพคล่องที่เพียงพอ และระดับภาระหนี้สินที่ยอมรับได้ รายได้ของบริษัทในปี 2557 เพิ่มขึ้น 27% จากปี 2556 และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนแล้ว รายได้เติบโตเพิ่มขึ้นอีก 8% สำหรับช่วง 3 เดือนแรกของปี 2558 ในช่วงปี 2558-2560 ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะอยู่ในช่วง 12,000-14,000 ล้านบาทต่อปี โดยปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจจะมาจากอัตราการใช้ดาวเทียมแบบทั่วไปที่สูงขึ้นและการปล่อยดาวเทียมไทยคม 8 ขึ้นสู่วงโคจร เมื่อพิจารณาถึงต้นทุนการดำเนินงานที่สูงสำหรับการบริหารดาวเทียมดวงใหม่แล้ว คาดว่าอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงาน (หรือกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) ของบริษัทจะยังคงแข็งแกร่งที่ระดับที่สูงกว่า 40% เงินทุนจากการดำเนินงานในปี 2557 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4,573 ล้านบาท เปรียบเทียบกับ 3,388 ล้านบาทในปี 2556 ทริสเรทติ้งคาดว่าต่อไปในภายหน้า เงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตสู่ระดับที่มากกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี โดยอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมจะสูงกว่า 40% ในช่วงปี 2558-2560
เงินกู้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 8,515 ล้านบาทในปี 2556 เป็น 10,497 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 เนื่องจากบริษัทมีการลงทุนในดาวเทียมไทยคม 7 และดาวเทียมไทยคม 8 บริษัทวางแผนค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนในช่วงปี 2558-2560 โดยรวมประมาณ 4,000 ล้านบาทสำหรับลงทุนในดาวเทียมไทยคม 8 เป็นสำคัญ คาดว่าบริษัทจะใช้กระแสเงินสดภายในบางส่วนเป็นค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนเพื่อการลงทุน โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนจะอยู่ในระดับไม่เกิน 40% ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าสถานะทางการเงินของบริษัทจะอ่อนแอลงหากบริษัทมีการลงทุนในดาวเทียมดวงใหม่เพิ่มเติม
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html