ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นและแบรนด์สินค้าที่เป็นที่ยอมรับมากขึ้นในตลาดพัฒนาที่อยู่อาศัยภายหลังจากการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารหลักของบริษัทเมื่อปลายปี 2555 รวมถึงฐานรายได้ค่าเช่าจากอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนลงบางส่วนจากอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทที่ค่อนข้างสูงจากการขยายธุรกิจและอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานที่ต่ำ นอกจากนี้ ในการพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงลักษณะของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลงและมีการแข่งขันสูง ตลอดจนความกังวลในการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศที่ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ และระดับหนี้ครัวเรือนที่สูงด้วย
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถรักษาผลการดำเนินงานที่ดีเอาไว้ได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนคาดว่าจะลดลงเมื่อบริษัทให้เช่าช่วงอาคารสำนักงานแก่กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า (REIT) ได้ตามแผน
อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากผลงานในตลาดพัฒนาที่อยู่อาศัยของผู้บริหารชุดใหม่ได้รับการยอมรับมากขึ้น นอกจากนี้ ความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นและอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่ลดลงเหลือประมาณ 55% หรืออัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนลดลงเหลือประมาณ 1.2 เท่าในช่วงระยะเวลาหนึ่งก็จะเป็นปัจจัยบวกต่ออันดับเครดิต ในทางตรงข้าม อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจปรับลดลงหากผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของบริษัทต่ำกว่าระดับปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ
บริษัทแผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ก่อตั้งในปี 2521 โดยตระกูลศรีวิกรม์ และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2537 บริษัทมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารหลักหลายครั้งในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 2555 บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) (UV) ได้ซื้อหุ้นของบริษัทในสัดส่วน 50.64% และกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ ณ เดือนมีนาคม 2558 บริษัทยูนิเวนเจอร์ถือหุ้นบริษัทในสัดส่วน 55.73%
บริษัทเน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทบ้านจัดสรรในระดับราคาปานกลาง สินค้าของบริษัทครอบคลุมทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮ้าส์ โดยมีราคาขายต่อยูนิตตั้งแต่ 2 ล้านบาทถึง 10 ล้านบาท โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยของบริษัทได้ขยายไปยังตลาดบ้านจัดสรรราคาสูงภายหลังจากที่บริษัทได้ซื้อหุ้นทั้งหมดใน บริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน จำกัด (มหาชน) (KLAND) เมื่อปลายปี 2557 ณ เดือนมิถุนายน 2558 บริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัยระหว่างการพัฒนาจำนวน 17 โครงการซึ่งมีมูลค่าโครงการโดยรวม 38,000 ล้านบาท และมีมูลค่าเหลือขาย (รวมทั้งที่ก่อสร้างแล้วและยังไม่ได้ก่อสร้าง) รวมทั้งสิ้นประมาณ 14,000 ล้านบาท ซึ่งประมาณ 70% ของมูลค่าเหลือขายทั้งหมดอยู่ในโครงการของ บริษัทกรุงเทพบ้านและที่ดิน และที่เหลืออยู่ในโครงการของบริษัท
หลังจากการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารหลักในปลายปี 2555 บริษัทก็มีการขยายธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเชิงรุกโดยเปิดโครงการใหม่ถึง 10 โครงการในช่วงปลายปี 2556 ถึงครึ่งแรกของปี 2558 รายได้รวมของบริษัทเติบโตเป็น 4,052 ล้านบาทในปี 2557 จากประมาณ 1,600 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2555-2556 รายได้รวมของบริษัทในครึ่งแรกของปี 2558 เพิ่มขึ้นอย่างมากเป็น 3,642 ล้านบาทจาก 1,271 ล้าบาทในช่วงเดียวกันของปี 2557 โดยรายได้จากธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเท่ากับ 3,000 ล้านบาทในปี 2557 และในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 หรือคิดเป็นประมาณ 80% ของรายได้รวม รายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าซึ่งได้แก่อาคารสำนักงานและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ เท่ากับประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นประมาณ 20% ของรายได้รวม ทั้งนี้ จากแผนการเปิดโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก รายได้รวมของบริษัทในช่วง 3 ปีข้างหน้าคาดว่าน่าจะอยู่ที่ 10,000 ล้านบาทต่อปี
อัตรากำไรจากการดำเนินงานซึ่งวัดจากอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของบริษัทปรับตัวดีขึ้นเป็น 12%-14% ในช่วงปี 2556 ถึงช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 ตัวเลขอัตรากำไรสุทธิปรับเป็นบวกที่ 8% ของรายได้รวมในปี 2557 และ 5% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังต่ำกว่าผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำส่วนใหญ่ ในภาวะที่ตลาดที่อยู่อาศัยชะลอตัวและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงนี้บริษัทยังมีความท้าทายในการที่จะรักษาอัตรากำไรจากการดำเนินงานให้สูงกว่า 12% ในช่วง 3 ปีข้างหน้าเอาไว้ให้ได้
อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทเท่ากับ 61% ณ เดือนธันวาคม 2557 และ 60% ณ เดือนมิถุนายน 2558 เพิ่มขึ้นจาก 47% ณ เดือนธันวาคม 2556 ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายโครงการจำนวนมากและการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อกิจการของบริษัทกรุงเทพบ้านและที่ดิน ทั้งนี้ อัตราส่วนดังกล่าวในช่วง 3 ปีข้างหน้าคาดว่าจะลดลงจากระดับปัจจุบันตามแผนของบริษัทที่จะให้เช่าช่วงอาคารสำนักงาน Sathorn Square แก่กองทรัสต์ REIT เงินที่ได้จากการให้เช่าช่วงแก่กองทรัสต์ดังกล่าวจะนำไปจ่ายคืนหนี้ประมาณ 4,300 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยลดภาระในการกู้ยืมได้ส่วนหนึ่ง เมื่อพิจารณาจากแผนการขยายธุรกิจแล้วคาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะอยู่ในระดับต่ำกว่า 60% กระแสเงินสดของบริษัทเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมอยู่ที่ระดับ 4% ในปี 2557 และ 5% (ปรับเป็นอัตราส่วนเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html