ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน “บ. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์” เป็น “A+” จาก “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 23, 2015 13:00 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “A+” จากเดิมที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” สืบเนื่องจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอัตราการทำกำไรและกระแสเงินสดของบริษัท ในขณะที่การก่อหนี้ของบริษัทคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำแม้จะมีการขยายการลงทุนในโรงพยาบาลแห่งใหม่ตามแผนก็ตาม ทั้งนี้ อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนของไทยตลอดจนตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของบริษัท อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากข้อจำกัดจากการมีโรงพยาบาลหลักเพียงแห่งเดียว รวมทั้งการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ให้บริการด้านสุขภาพในประเทศและต่างประเทศ

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายที่บริษัทจะสามารถรักษาสถานะผู้นำในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในประเทศเอาไว้ได้และคงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งต่อไป โดยปริมาณเงินสดคงเหลือที่ค่อนข้างมากและกระแสเงินสดที่มีเสถียรภาพจะช่วยให้บริษัทมีสภาพคล่องที่เพียงพอในช่วงที่มีการลงทุนและขยายธุรกิจในอนาคต เมื่อพิจารณาแผนการลงทุนของบริษัทแล้วทริสเรทติ้งเห็นว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทไม่ควรจะเพิ่มขึ้นจากระดับการก่อหนี้ในปัจจุบัน

อันดับเครดิตมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้หากบริษัทประสบความสำเร็จในการกระจายพอร์ตธุรกิจของบริษัทในขณะที่ยังคงสามารถรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเอาไว้ ในทางตรงกันข้าม การปรับลดอันดับเครดิตสามารถเกิดขึ้นได้ในกรณีที่ผลการดำเนินงานของบริษัทลดลงอย่างมากจากระดับปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานและสภาพคล่องของบริษัทลดลงเป็นระยะเวลาต่อเนื่องยาวนาน

บริษัทโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ดำเนินกิจการโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล” บริษัทเป็นผู้นำในการให้บริการด้านสุขภาพภาคเอกชนของประเทศและในภูมิภาคเอเชีย โดยโรงพยาบาลของบริษัทมีความสามารถในการให้บริการผู้ป่วยนอกจำนวน 6,220 คนต่อวัน และมีเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยในทั้งหมด 676 เตียง (รวมโรงพยาบาล Ulaanbaatar Songdo ในมองโกเลีย) บริษัทเน้นให้บริการระดับตติยภูมิกับผู้ป่วย โดยในแต่ละปีบริษัทมีจำนวนผู้ป่วยชาวต่างประเทศมากกว่า 50% ของจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดที่เข้ารับบริการ นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยที่ชำระเงินเองคิดเป็นประมาณ 70% ของรายได้รวมอีกด้วย

สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทสะท้อนถึงชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักและผลงานทางการแพทย์ที่เป็นที่ยอมรับมานานกว่า 30 ปี บริษัทเน้นกลุ่มลูกค้าผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างประเทศที่มีรายได้สูงโดยใช้กลยุทธ์สร้างความแตกต่างด้านบริการและคุณภาพ บริษัทมีความสามารถในการสร้างรายต่อผู้ป่วย 1 รายที่แข็งแกร่งมากซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยดึงดูดและรักษาบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีคุณภาพเอาไว้

บริษัทมีสัดส่วนผู้ป่วยที่มาจากภูมิภาคตะวันออกกลางสูงที่สุดจากจำนวนผู้ป่วยชาวต่างชาติทั้งหมด โดยบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติประมาณ 60%-65% ของรายได้ทั้งหมด ทั้งนี้ สัดส่วนจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่อยู่ในระดับสูงทำให้ฐานรายได้และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเติบโตขึ้นเนื่องจากผู้ป่วยต่างชาติมีระยะเวลาการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลที่นานกว่าและมีความซับซ้อนของโรคที่สูงกว่า นอกจากนี้ การรับผู้ป่วยที่มีสัญชาติหลากหลายยังช่วยให้บริษัทลดการพึ่งพิงอุปสงค์ด้านการบริการสุขภาพภายในประเทศลงด้วย

โครงสร้างทางการเงินของบริษัทได้รับประโยชน์จากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของรายได้และความสามารถในการทำกำไร กล่าวคือ รายได้ของบริษัทมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปีเท่ากับ 11% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจาก 9,201 ล้านบาทในปี 2552 เป็น 15,630 ล้านบาทในปี 2557 สาเหตุหลักมาจากการมีจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นและการขึ้นราคาค่าบริการ นอกจากนี้ ยังมาจากความซับซ้อนและความรุนแรงของโรคด้วย อัตรากำไรของบริษัทซึ่งวัดจากอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จากการขายของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจาก 23.5% ในปี 2553 เป็น 28% ในปี 2557 และ 31% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 ดังนั้น บริษัทจึงมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายที่ดีขึ้นจากระดับ 2,404 ล้านบาทในปี 2553 เป็น 4,605 ล้านบาทในปี 2557

ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2558 จำนวนผู้ป่วยชาวไทยลดลง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยชาวไทยจะลดลงแต่รายได้ของบริษัทยังคงเติบโตจากการมีจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่เพิ่มขึ้น รายได้จากผู้ป่วยต่างชาติในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 5,719 ล้านบาท เติบโตขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในส่วนของรายได้จากผู้ป่วยชาวไทยทั้งประเภทผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2558 นั้นอยู่ที่ระดับ 3,028 ล้านบาท เติบโตขึ้นเพียง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 ทริสเรทติ้งคาดหมายว่าบริษัทจะมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยรายได้ของบริษัทจะเติบโตอย่างน้อย 10% ต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า และอัตราส่วนกำไรน่าจะยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแรงโดยเฉลี่ยที่ประมาณหรือมากกว่า 28%-30%

บริษัทอยู่ในช่วงของการขยายธุรกิจโดยยังคงเน้นตลาดบริการสุขภาพระดับบน บริษัทได้ซื้อที่ดิน 2 แปลงบนถนนเพชรบุรีและถนนสุขุมวิท ซอย 1 ใกล้กับโรงพยาบาลเดิมเพื่อใช้รองรับการขยายโรงพยาบาลในอนาคต โดยบริษัทมีแผนจะก่อสร้างโรงพยาบาลขนาด 200 เตียงบนที่ดินที่ถนนเพชรบุรีด้วยมูลค่าการลงทุน 8,200 ล้านบาทซึ่งไม่รวมราคาที่ดิน ปัจจุบันโครงการบนถนนเพชรบุรีผ่านการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมแล้วเมื่อเดือนมกราคม 2558 โดยการก่อสร้างโครงการจะเริ่มในช่วงไตรมาสที่1 ของปี 2559 และจะแล้วเสร็จในปลายปี 2561 ที่ดินแปลงที่อยู่บนถนนสุขุมวิท ซอย 1 ดังกล่าวจะพัฒนาเป็น 3 อาคาร โดย 1 อาคารจะเป็นที่จอดรถด้วยมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 2,200 ล้านบาท ดังนั้น ในช่วงปี 2558-2561 บริษัทจะมีมูลค่าการลงทุนรวมอยู่ที่ประมาณ 16,000 ล้านบาท (รวมค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาปีละประมาณ 1,000-1,300 ล้านบาท)

บริษัทมีสภาพคล่องค่อนข้างแข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 บริษัทมีปริมาณเงินสดคงเหลือและหลักทรัพย์ในความต้องการของตลาดจำนวน 7,236 ล้านบาท ความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดอยู่ในระดับที่เข้มแข็งและคาดว่าจะอยู่ที่ 4,000-5,000 ล้านบาทต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 ภาระหนี้สินรวมของบริษัทมีเพียงหุ้นกู้ระยะยาวจำนวน 5,000 ล้านบาทเท่านั้น โดยบริษัทมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนอยู่ที่ระดับ 29.80% ด้วยปริมาณเงินสดในมือและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งจึงคาดว่าจะเพียงพอที่จะรองรับแผนการลงทุนของบริษัทในอนาคตในช่วงปี 2558-2561 ได้ ดังนั้น อัตราการก่อหนี้ของบริษัทจึงไม่ควรลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากระดับปัจจุบัน

บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) (BH)
อันดับเครดิตองค์กร: A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
BH16DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
BH18DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
BH21DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ