ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 1,200 ล้านบาท “บ. น้ำตาลบุรีรัมย์” ที่ระดับ “BB+/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 9, 2015 13:00 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 1,200 ล้านบาทของ บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BB+” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทที่ระดับ “BBB-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตที่ระดับ “BB+” ของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดนี้น้อยกว่าอันดับเครดิตองค์กร 1 ระดับ เพื่อสะท้อนลักษณะการด้อยสิทธิทางโครงสร้าง (Structural Subordination) ของหุ้นกู้ เมื่อเปรียบเทียบกับภาระหนี้กับสถาบันการเงินที่บริษัทมีอยู่ในปัจจุบัน บริษัทมีหนี้มีหลักประกันมากกว่า 20% ของสินทรัพย์รวม ทำให้อันดับเครดิตตราสารหนี้จะถูกปรับลดต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กร 1 ระดับตามเกณฑ์การพิจารณาเครดิตของทริสเรทติ้ง

อันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “BBB-“ สะท้อนถึงประสบการณ์ที่ยาวนานในธุรกิจอ้อยและน้ำตาล ตลอดจนผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยที่อยู่ระดับสูงของบริษัท ระบบแบ่งปันผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมน้ำตาลในประเทศไทย และการขยายกิจการไปสู่ธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งเพิ่มกระแสเงินสดที่มั่นคงให้แก่บริษัท อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากขนาดการผลิตน้ำตาลที่ค่อนข้างเล็กและการมีโรงงานน้ำตาลเพียงแห่งเดียว นอกจากนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงความเสี่ยงจากสถานการณ์ราคาน้ำตาลที่อยู่ในระดับต่ำ ตลอดจนความผันผวนของปริมาณผลผลิตอ้อยด้วย

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดในอุตสาหกรรมน้ำตาลในประเทศไว้ได้ ระบบแบ่งปันผลประโยชน์ในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลในประเทศไทย ตลอดจนการเติบโตของรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าจะช่วยรองรับการดำเนินงานในช่วงวงจรขาลงของธุรกิจน้ำตาลไว้บางส่วน นอกจากนี้ คาดว่าบริษัทจะสามารถบริหารจัดการอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 60% ในระยะยาว

อันดับเครดิตมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้ หากบริษัทมีกระแสเงินสดคงที่มั่นคงเพิ่มขึ้นจากธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำตาล การปรับลดอันดับเครดิตสามารถเกิดขึ้นได้ในกรณีที่ราคาน้ำตาลตกต่ำอย่างต่อเนื่องจนส่งผลให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทลดลงเป็นระยะเวลานาน นอกจากนี้ การลงทุนจำนวนมากก็เป็นปัจจัยลบต่ออันดับเครดิตของบริษัทด้วยเช่นกัน

บริษัทน้ำตาลบุรีรัมย์เป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำตาลในประเทศไทย บริษัทก่อตั้งในปี 2506 โดยกลุ่มตระกูลตั้งตรงเวชกิจและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายน 2557 ณ เดือนมีนาคม 2558 ตระกูลตั้งตรงเวชกิจถือหุ้นในสัดส่วน 74.3% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท บริษัทเป็นเจ้าของและบริหารโรงงานน้ำตาล 1 แห่งในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีกำลังการหีบอ้อยรวมเท่ากับ 17,000 ตันอ้อยต่อวัน ในปีการผลิต 2557/2558 บริษัทสามารถหีบอ้อยได้ 1.95 ล้านตันอ้อย และผลิตน้ำตาลได้ 230,379 ตัน ในปีการผลิต 2557/2558 บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาด 2% หากพิจารณาจากผลผลิตน้ำตาล ผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยของบริษัทอยู่ในระดับสูง โดยในปีการผลิต 2557/2558 บริษัทสามารถผลิตน้ำตาลสูงถึง 118.07 กิโลกรัม (กก.) ต่อตันอ้อย ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมน้ำตาลในประเทศไทยที่ 106.65 กก. ต่อตันอ้อย และสูงเป็นอันดับ 3 จากโรงงานน้ำตาล 50 โรงทั่วประเทศ

บริษัทผลิตน้ำตาลทราย 2 ประเภท คือ น้ำตาลทรายขาวสีรำเพื่อจำหน่ายแก่ลูกค้าภายในประเทศ และน้ำตาลทรายดิบเพื่อการส่งออก นอกจากธุรกิจน้ำตาลแล้ว บริษัทยังได้ขยายการลงทุนไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจน้ำตาลเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากอ้อยด้วย เช่น ธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าและปุ๋ย โดยบริษัทจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจำนวน 16 เมกะวัตต์ ให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวในโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (Very Small Power Producer - VSPP) โรงไฟฟ้าแห่งแรกขนาด 8 เมกะวัตต์และโรงงานปุ๋ยของบริษัทได้เริ่มเปิดดำเนินการในปี 2555 สัดส่วนรายได้ของธุรกิจไฟฟ้าและปุ๋ยคิดเป็น 8%-12% ของรายได้รวมทั้งหมดในช่วงปี 2555-2557 และคาดว่าสัดส่วนรายได้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นอีกหลังจากโรงไฟฟ้าแห่งที่ 2 ของบริษัทเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนเมษายน 2558

ผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวลงจากราคาน้ำตาลที่อ่อนแอ เช่นเดียวกับผู้ผลิตน้ำตาลทุกแห่ง แม้ว่าราคาน้ำตาลปรับตัวลดลง แต่รายได้รวมของบริษัทยังคงเติบโตในช่วงปี 2557 จนถึงช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 การเติบโตของรายได้รวมมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการจำหน่ายน้ำตาล โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 รายได้รวมของบริษัทเติบโต 7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 มาอยู่ที่ระดับ 2,699 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำตาลที่ปรับตัวลดลง ทำให้ความสามารถในการทำกำไรของโรงงานน้ำตาลลดลงในช่วงปี 2555-2557 อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จากการขายของบริษัทลดลงมาอยู่ที่ 10.1%-13.1% ในช่วงปี 2555-2557 จากระดับสูงสุดที่ 18.3% ในปี 2554 ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จากการขายของบริษัทปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 17.5% จากระดับ 9.0% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่ลดลงจากผลผลิตน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นรวมกับต้นทุนอ้อยที่ลดลง นอกจากนี้ รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าที่เติบโตขึ้นยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเพิ่มกำไรให้แก่บริษัท รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าของบริษัทเพิ่มขึ้น 3 เท่า เป็น 287 ล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 ดังนั้น กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้นเป็น 496 ล้านบาทในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 จาก 239 ล้านบาทในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557

โครงสร้างหนี้ของบริษัทอยู่ในระดับค่อนข้างสูง โครงสร้างเงินทุนของบริษัทปรับตัวดีขึ้นหลังจากได้รับเงินเพิ่มทุนจากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงปลายปี 2557 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนปรับตัวดีขึ้นจาก 79.7% ในปี 2555 มาอยู่ที่ระดับ 58.8% ในปี 2557 ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 61.7% จากระดับสินค้าคงเหลือหลังจากช่วงฤดูกาลหีบอ้อย อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมของบริษัทปรับตัวดีขึ้นเป็น 13.18% (ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 จาก 11.95% ในปี 2557 เนื่องจากการปรับตัวดีขึ้นของอัตรากำไร อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 5.8 เท่าในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 จาก 4.2 เท่าในปี 2557

ในช่วงปี 2558-2560 บริษัทมีแผนลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยการลงทุนส่วนใหญ่เพื่อขยายกำลังการหีบอ้อยและสร้างโรงไฟฟ้าแห่งที่ 3 ทั้งนี้ จากแผนการลงทุนของบริษัทและ EBITDA ของบริษัทที่คาดว่าจะอยู่ระดับประมาณ 450-550 ล้านบาทต่อปี คาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะยังอยู่ระดับสูงต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

อุตสาหกรรมน้ำตาลยังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ราคาน้ำตาลที่อยู่ในระดับต่ำ ราคาน้ำตาลทรายดิบในตลาดโลกยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องในปี 2558 โดยลดลง 24% มาอยู่ที่ระดับ 12.8 เซนต์ต่อปอนด์ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2558 เมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ยที่ 16.8 เซนต์ต่อปอนด์ในปี 2557 สต็อกน้ำตาลคงค้างจำนวนมากในตลาดโลกยังคงกดดันราคาน้ำตาลให้ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ การที่ค่าเงินเรียลของบราซิลต่อดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลงก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาน้ำตาลลดลงเช่นกัน เนื่องจากประเทศบราซิลเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดของโลก

บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) (BRR)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 1,200 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2560 BB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ