ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน “บ. ดั๊บเบิ้ล เอ (1991)” เป็น “BBB-” จาก “BBB” ด้วยแนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 26, 2015 13:15 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) เป็น “BBB-” จาก “BBB” โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ การลดอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงสถานะทางการเงินของบริษัทที่ลดลงหลังประสบปัญหาขาดทุนจากโรงงานผลิตกระดาษนับตั้งแต่ปี 2556 ทั้งนี้ กำลังการผลิตของโรงงานผลิตกระดาษของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในปี 2556 หลังจากที่โรงงานผลิตกระดาษแห่งที่ 3 (APM3) ของบริษัทในประเทศไทยเริ่มเดินเครื่องและบริษัทได้ซื้อโรงงานผลิตกระดาษ Alizay ในประเทศฝรั่งเศสเข้ามา โดยบริษัทได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตคงที่ที่อยู่ในระดับสูงจากโรงงานผลิตกระดาษใหม่ทั้ง 2 แห่งซึ่งยังไม่สามารถเดินเครื่องผลิตได้เต็มกำลัง

อันดับเครดิต “BBB-” สะท้อนถึงสถานะผู้นำของบริษัทดั๊บเบิ้ล เอ (1991) ในอุตสาหกรรมการผลิตกระดาษพิมพ์เขียนของไทย รวมถึงการมีโรงงานผลิตเยื่อกระดาษและกระดาษที่ครบวงจร รวมทั้งตราสัญลักษณ์ที่แข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ “ดั๊บเบิ้ล เอ” อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากธรรมชาติที่ผันผวนของอุตสาหกรรมการผลิตเยื่อและกระดาษ ตลอดจนความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และอุปสงค์ของกระดาษที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลกและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันไปใช้สื่อดิจิตอลเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ความสำเร็จของบริษัทในการขยายตลาด การฟื้นความสามารถในการทำกำไร และธุรกรรมบางรายการระหว่างบริษัทกับบริษัทที่เกี่ยวข้องยังคงเป็นประเด็นกังวลต่ออันดับเครดิตของบริษัท

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะฟื้นตัวขึ้นในปี 2559 โดยการเพิ่มขึ้นของอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานใหม่และแผนพัฒนาการดำเนินงานของบริษัทน่าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและช่วยฟื้นความได้เปรียบด้านต้นทุนของบริษัทให้กลับมาอีกครั้งในระยะกลาง

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจเกิดขึ้นในกรณีที่ผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของบริษัทฟื้นตัวกลับไปใกล้เคียงกับระดับเดิม ในทางตรงข้ามอันดับเครดิตของบริษัทอาจถูกปรับลงได้ในอนาคตหากสถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลงมากกว่าเดิม

บริษัทดั๊บเบิ้ล เอ (1991) เป็นผู้นำในการผลิตกระดาษพิมพ์เขียนในประเทศไทย โดยปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตกระดาษจำนวน 5 โรงซึ่งมีกำลังการผลิตรวมกันทั้งสิ้น 1,045,000 ตันต่อปี กำลังการผลิตกระดาษของบริษัทเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าหลังจากโรงงาน APM3 เริ่มเดินเครื่องในเดือนพฤศจิกายน 2555 และบริษัทได้ซื้อโรงงาน Alizay ในประเทศฝรั่งเศสเข้ามาในเดือนมกราคม 2556

โรงงาน APM3 มีกำลังการผลิต 220,000 ตันต่อปี โรงงานแห่งนี้ถือเป็นโรงงานผลิตกระดาษที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดเมื่อเทียบกับโรงงานผลิตกระดาษอื่น ๆ ของบริษัทโดยได้รับการออกแบบให้ใช้เยื่อใยสั้นเป็นวัตถุดิบ 100% ในขณะที่โรงงาน Alizay มีกำลังการผลิต 300,000 ตันต่อปี โดยบริษัทใช้เป็นฐานการผลิตของบริษัทสำหรับป้อนตลาดในภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง อาฟริกา และอเมริกาเหนือ บริษัทจำเป็นต้องสั่งซื้อเยื่อกระดาษบางส่วนจากผู้ประกอบการรายอื่นในตลาดหลังจากขยายกำลังการผลิตกระดาษเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งนี้ บริษัทมีกำลังการผลิตโรงงานเยื่อกระดาษอยู่ที่ 427,000 ตันต่อปี

บริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายกระดาษคิดเป็น 98% ของรายได้รวม โดยมียอดขายกระดาษกระจายตัวอยู่ในหลายภูมิภาค อีกทั้งยังมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่เข้มแข็งครอบคลุมมากกว่า 145 ประเทศทั่วโลก รายได้ของบริษัทมาจากการจำหน่ายภายในประเทศ 30% ส่วนอีกประมาณ 50% มาจากตลาดในภูมิภาคเอเซีย 10% มาจากตลาดในยุโรป และ 10% มาจากตลาดในภูมิภาคอื่นๆ ทั้งนี้ ปริมาณขายกระดาษของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงต่ำกว่ากำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นอยู่มาก โดยกำลังการผลิตกระดาษของบริษัทเพิ่มขึ้น 560,000 ตันต่อปี จาก 485,000 ตันต่อปี เป็น 1,045,000 ตันต่อปี ในขณะที่ปริมาณขายกระดาษเพิ่มขึ้น 135,546 ตัน จาก 533,303 ตันต่อปีในปี 2555 เป็น 668,849 ตันต่อปีในปี 2557

ผลประกอบการของบริษัทอ่อนแอลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยอัตราส่วนกำไร (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) ของบริษัทลดลงมาอยู่ที่ 6% ในปี 2557 และ 5% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 เทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2554-2556 ที่ 11% โดยความสามารถในการทำกำไรที่ลดต่ำลงเป็นผลมาจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่หลากหลายในราคาต่ำเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดใหม่ ๆ นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 จากปัญหาด้านสาธารณูปโภคและเครื่องจักรด้วยเช่นกัน

กระแสเงินสดของบริษัทลดต่ำลงตามความความสามารถในการทำกำไรที่ลดลง โดยอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมของบริษัทลดลงมาอยู่ที่ 3% ในปี 2557 และ 1% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 เทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2554-2556 ที่ 11% ในขณะที่อัตราส่วนกำไร (ก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย) ต่อดอกเบี้ยจ่ายลดลงมาอยู่ที่ 1.7 เท่าในปี 2557 และประมาณ 1 เท่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 เทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2554-2556 ที่ 2.6 เท่า แต่สภาพคล่องของบริษัทยังคงมีเพียงพอ โดยบริษัทได้ขายหุ้นที่ถืออยู่ใน บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) (NPS) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือออกไปจาก 36.2% เหลือ 25.5% ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 และได้เงินเข้ามาจำนวน 2,100 ล้านบาทในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 ซึ่งช่วยเสริมสภาพคล่องให้แก่บริษัทแม้บริษัทจะประสบปัญหาขาดทุนในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 ก็ตาม อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 58% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 เทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2554-2556 ที่ 56% บริษัทมีความเสี่ยงในการก่อหนี้ใหม่เพื่อใช้คืนหนี้เดิมที่เพิ่มสูงขึ้นจากผลการดำเนินงานที่อ่อนแอลง อย่างไรก็ตาม บริษัทวางแผนจะขายหุ้นที่เหลืออยู่ทั้งหมดจำนวน 25.5% ใน NPS และคาดว่าจะได้รับเงินเข้ามาทั้งสิ้นประมาณ 4,300 ล้านบาทซึ่งบริษัทจะนำไปใช้ไถ่ถอนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนธันวาคม 2558 (DA15DA) และในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 (DA162A) จำนวนรวมกันทั้งสิ้น 3,500 ล้านบาท

ในช่วงระหว่างปี 2559-2561 ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีรายได้ประมาณ 24,000-26,000 ล้านบาทต่อปี อัตราส่วนกำไรน่าจะฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 10%-12% ตามการเพิ่มขึ้นของอัตราการใช้กำลังการผลิตและแผนพัฒนาการดำเนินงานของบริษัท โดยแผนดังกล่าวรวมไปถึงการปรับสัดส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการลดต้นทุนการผลิต เงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทน่าจะผ่านจุดต่ำสุดในปี 2558 ไปได้และเพิ่มขึ้นเป็น 1,500-2,500 ล้านบาทต่อปี ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 10%-15% ในขณะเดียวกัน อัตราส่วนกำไร (ก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย) ต่อดอกเบี้ยจ่ายคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.5-4 เท่า และอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทคาดว่าจะลดลงจนต่ำกว่า 50% ภายใน 3 ปีข้างหน้า

บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) (DA)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
DA15DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB-
DA162A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 BBB-
DA16DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 BBB-
DA172A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 754.2 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 BBB-
DA172B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,245.8 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 BBB-
DA17DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 BBB-
DA182A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,339.6 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 BBB-
DA182B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,160.4 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 BBB-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ