ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งที่บริษัทมีกับกลุ่มเอ็กซอน โมบิล รวมถึงการมีโรงกลั่นน้ำมันและโรงงานผลิตอะโรเมติกส์ที่มีประสิทธิภาพและครบวงจร และสถานะที่แข็งแกร่งของธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากความผันผวนของอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและปิโตรเคมีที่อยู่ในระดับสูง และการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งที่บริษัทมีกับกลุ่มเอ็กซอน โมบิล รวมถึงประโยชน์ต่าง ๆ ที่บริษัทได้รับจากกลุ่มโดยเฉพาะการสนับสนุนทางการเงินซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถเผชิญกับความผันผวนของธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมีได้ นอกจากนี้ ยังคาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจปิโตรเลียมในประเทศไทยเอาไว้ได้ ทั้งนี้ ในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า โอกาสที่บริษัทจะได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตมีค่อนข้างจำกัดเนื่องจากความผันผวนของราคาน้ำมันและภาวะอุปทานส่วนเกินของพาราไซลีน อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตของบริษัทมีโอกาสที่จะลดระดับลงหากบริษัทไม่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเอ็กซอน โมบิล หรือหากกลุ่มเอ็กซอน โมบิล ลดสัดส่วนการถือหุ้นใหญ่ในบริษัท หรือสถานะทางการเงินของบริษัทไม่สามารถปรับตัวดีขึ้นได้อย่างที่คาดหวังไว้ในระยะ 3 ปีข้างหน้า
บริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) เป็นบริษัทในเครือเอ็กซอนโมบิล คอร์ปอเรชั่น (เอ็กซอน โมบิล) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจการกลั่นน้ำมันและผลิตเคมีภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก บริษัทมีประวัติการดำเนินงานที่ยาวนานในธุรกิจปิโตรเลียมในประเทศไทยโดยบริษัทและบริษัทย่อยในกลุ่มเริ่มดำเนินธุรกิจน้ำมันในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2437 และเริ่มธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันในปี 2514 โดย ณ เดือนมีนาคม 2558 ผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทประกอบด้วย ExxonMobil Asia Holding Pte. Ltd. ในสัดส่วน 66% และกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 ในสัดส่วน 7% บริษัทมีสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งโดยดำเนินงานในธุรกิจหลัก 2 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจการกลั่นและการจัดจำหน่ายน้ำมัน (ธุรกิจน้ำมัน) และธุรกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี (ธุรกิจปิโตรเคมี) ทั้งนี้ ในส่วนของธุรกิจน้ำมันนั้น บริษัทดำเนินกิจการโรงกลั่นน้ำมันแบบคอมเพล็กซ์รวมถึงจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการ โดยโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทเป็น 1 ใน 24 โรงกลั่นที่ดำเนินงานโดยบริษัทในเครือเอ็กซอน โมบิลทั่วโลก ในส่วนของธุรกิจปิโตรเคมีนั้น บริษัทผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีในกลุ่มอะโรเมติกส์เป็นหลัก
อันดับเครดิตของบริษัทสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับกลุ่มเอ็กซอน โมบิล ในหลายด้านอีกด้วย ซึ่งรวมถึงความสัมพันธ์ทางด้านการค้า การดำเนินงาน การเงิน และชื่อเสียงของกลุ่ม จากการเป็นบริษัทในกลุ่มเอ็กซอน โมบิล บริษัทได้ประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญในการกลั่นน้ำมันที่ทันสมัย ตลอดจนได้รับการสนับสนุนทางด้านการดำเนินงานและเทคนิคจากกลุ่ม นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับประโยชน์จากเครือข่ายของกลุ่มเอ็กซอน โมบิล ที่มีอยู่ทั่วโลกในการจัดหาน้ำมันดิบและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทด้วย บริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปภายใต้เครื่องหมายการค้า "เอสโซ่" ให้แก่กลุ่มลูกค้าพาณิชย์และลูกค้าปลีกผ่านสถานีบริการ นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับการสนับทางการเงินจากกลุ่มซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินอีกด้วย
อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงประสิทธิภาพของโรงกลั่นซึ่งเชื่อมต่อกับโรงงานอะโรเมติกส์ของบริษัทด้วย บริษัทมีโรงกลั่นน้ำมันแบบคอมเพล็กซ์ (Complex Refinery) ด้วยกำลังการกลั่นสูงสุดที่ 174,000 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 16% ของกำลังการกลั่นทั้งหมดในประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัทยังผลิตสารอะโรเมติกส์จากโรงงานที่เชื่อมต่อกับโรงกลั่นน้ำมันด้วย โดยโรงงานอะโรเมติกส์ของบริษัทมีกำลังการผลิตสารพาราไซลีน (Paraxylene – PX) จำนวนทั้งสิ้น 500,000 ตันต่อปี การดำเนินธุรกิจที่ครบวงจรทั้งโรงกลั่นน้ำมันและโรงงานผลิตอะโรเมติกส์ทำให้บริษัทมีความยืดหยุ่นในการเลือกผลิตผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีระหว่างผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ในปี 2557 ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่บริษัทกลั่นได้ประกอบด้วยน้ำมันดีเซล 37.7% น้ำมันเบนซิน 19.3% รีฟอร์เมต (Reformate) 13.5% น้ำมันเตา 9.7% น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน 9.1% และอื่น ๆ 10.7% ด้วยเทคโนโลยีและการดำเนินงานตามปรัชญาของเอ็กซอน โมบิล ทำให้โรงกลั่นของบริษัทได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มโรงกลั่นชั้นนำในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกที่มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน
นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงสถานะที่แข็งแกร่งของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันของบริษัทจากการมีตราสินค้าที่มีชื่อเสียง ช่องทางจำหน่ายที่กว้างขวาง และการดำเนินงานของสถานีบริการที่มีประสิทธิภาพโดยวัดจากยอดจำหน่ายต่อสถานีด้วย บริษัทมีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งจากตราสินค้าที่มีชื่อเสียงซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปชนิดพิเศษซึ่งมีราคาสูงได้ นอกจากนี้ บริษัทยังมีเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันที่กว้างขวาง โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 บริษัทมีสถานีบริการน้ำมันที่บริหารงานภายใต้เครื่องหมายการค้า "เอสโซ่" จำนวน 526 แห่ง และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 บริษัทมียอดจำหน่ายน้ำมันผ่านเครือข่ายสถานีบริการมากเป็นอันดับ 3 อีกทั้งสถานีบริการน้ำมันของบริษัทยังสามารถสร้างยอดจำหน่ายต่อสถานีได้ในระดับสูงเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการอื่น ซึ่งสถานะที่แข็งแกร่งของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันดังกล่าวช่วยบรรเทาผลกระทบจากวัฏจักรของธุรกิจน้ำมันให้แก่บริษัท
ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากความผันผวนในระดับสูงของอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ทั้งนี้ ราคาน้ำมันลดลงอย่างมากตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2557 จากอุปสงค์ที่อ่อนตัวและอุปทานส่วนเกินที่อยู่ในระดับสูง เช่นเดียวกับบริษัทอื่น ๆ ในธุรกิจการกลั่นน้ำมัน บริษัทเผชิญกับความเสี่ยงจากความผันผวนในระดับสูงของราคาน้ำมันซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรและค่าการกลั่นที่ผันผวน นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังมีข้อจำกัดจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันด้วย แม้ว่าราคาน้ำมันที่ลดลงจะช่วยเพิ่มอุปสงค์และการบริโภคน้ำมัน แต่การแข่งขันยังคงรุนแรงจากจำนวนสถานีบริการที่เพิ่มมากขึ้น
บริษัทมีแหล่งรายได้หลักจากธุรกิจค้าน้ำมันซึ่งสร้างรายได้ประมาณ 90%ของรายได้รวม ในขณะที่อีก 10% มาจากธุรกิจปิโตรเคมี ราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างมากตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2557 ต่อเนื่องถึงช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 รวมถึงภาวะอุปทานส่วนเกินของพาราไซลีนส่งผลให้สถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลง ในปี 2557 บริษัทมีรายได้ 220,735 ล้านบาท ลดลง 10% เมื่อเทียบกับปี 2556 และมีผลขาดทุนสูงถึง 10,346 ล้านบาท สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 บริษัทมีรายได้ 130,164 ล้านบาท ลดลง 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอันเนื่องมาจากราคาน้ำมันที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันผันผวนน้อยลง รวมถึงส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปกับราคาน้ำมันดิบที่กว้างขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2557 ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 1,758 ล้านบาท เมื่อเทียบกับผลขาดทุนจำนวน 4,536 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 ซึ่งเป็นผลจากธุรกิจน้ำมันที่สร้างกำไรจากการดำเนินงานจำนวน 4,089 ล้านบาท ในขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมียังคงได้รับผลกระทบจากภาวะอุปทานส่วนเกิน ซึ่งส่งผลให้เกิดผลขาดทุนจากการดำเนินงานจำนวน 2,231 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558
ณ เดือนกันยายน 2558 บริษัทมีเงินกู้รวม 33,102 ล้านบาท โดยประมาณ 60% เป็นเงินกู้ที่ได้รับจากกลุ่มเอ็กซอน โมบิล ซึ่งเพิ่มขึ้นจากประมาณ 0.5% ณ สิ้นปี 2554 การสนับสนุนทางด้านการเงินจากกลุ่มเอ็กซอน โมบิล ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินให้แก่บริษัท นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับการสนับสนุนวงเงินกู้ยืมจากกลุ่มเอ็กซอน โมบิล จำนวน 54,000 ล้านบาทอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันบริษัทยังไม่ได้เบิกใช้ โดยวงเงินนี้จะหมดอายุในปี 2559 แต่สามารถต่ออายุออกไปได้อีก 3 ปี ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 บริษัทมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่ 71.5% และคาดว่าจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ในระดับ 65%-70% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยอยู่บนสมมติฐานว่าราคาน้ำมันดิบจะไม่ลดลงอย่างรุนแรงอีกและบริษัทไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เฉลี่ยมากกว่า 4,000 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2559-2561 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนของบริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000-1,300 ล้านบาทต่อปี ทริสเรทติ้งเห็นว่าความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทยังคงเหมาะสมกับระดับอันดับเครดิตในปัจจุบันเนื่องจากการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากกลุ่มเอ็กซอน โมบิล
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html