ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันของ บริษัท บางกอกมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส จำกัด (BMUL) ที่ระดับ “AA+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการค้ำประกันเต็มจำนวนโดยบริษัทแม่ของบริษัทคือ Mitsubishi UFJ Lease and Finance Co., Ltd. (MUL) ในประเทศญี่ปุ่น โดย MUL ได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับ “A” จาก Standard & Poor’s และ “A3” จาก Moody’s Investors Service (Moody’s) ซึ่งอันดับเครดิตของหุ้นกู้ดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานคุณภาพเครดิตของผู้ค้ำประกันซึ่งค้ำประกันหุ้นกู้แบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้
ภายใต้ข้อตกลงการค้ำประกันซึ่งบังคับใช้ภายใต้กฎหมายของประเทศญี่ปุ่นระบุว่า ผู้ค้ำประกันจะให้การค้ำประกันเต็มจำนวนแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้สำหรับหุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตดังกล่าว โดยผู้ค้ำประกันพร้อมที่จะชำระหนี้ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ภายใต้ข้อตกลงการค้ำประกันในกรณีที่บริษัทบางกอกมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด นอกจากนี้ หากมีการควบรวมหรือการครอบงำกิจการของ MUL บริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นหลังการควบรวมกิจการหรือบริษัทที่เข้าครอบงำกิจการของ MUL จะต้องรับข้อผูกพันในการค้ำประกันหุ้นกู้ดังกล่าวด้วย ในกรณีที่ MUL ไม่สามารถจ่ายชำระหนี้ได้ตามกำหนดหลังจากได้รับหนังสือบอกกล่าวแล้ว ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้สามารถดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ค้ำประกัน ณ ศาลในประเทศญี่ปุ่นเพื่อฟ้องร้องเรียกเงินที่ผิดนัดชำระคืนได้ อนึ่ง ภาระการค้ำประกันนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือเพิกถอนได้โดยปราศจากมติเอกฉันท์จากผู้ถือหุ้นกู้
อันดับเครดิตของ MUL ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ได้รับแรงหนุนจากการที่บริษัทมีสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในประเทศญี่ปุ่น โดย MUL มีจุดแข็ง 3 ประการ ได้แก่ 1) การเป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของทั้ง Mitsubishi UFJ Financial Group, Inc. (MUFG) และ Mitsubishi Corporation (MC) ซึ่งจะทำให้ MUL มีโอกาสสูงที่จะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษจาก MUFG หากจำเป็น 2) การมีผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายซึ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ทั้งนี้ เนื่องจาก MUL เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอุตสาหกรรมลีสซิ่งของประเทศญี่ปุ่นและได้รับการสนับสนุนจากบริษัทในเครือของ MUFG และ MC ซึ่งช่วยให้บริษัทมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และ 3) การมีแหล่งรายได้ที่กระจายตัวอันเนื่องมาจากการขยายธุรกิจไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ของหุ้นกู้มีการค้ำประกันของบริษัทบางกอกมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส สะท้อนถึงคุณภาพเครดิตของผู้ค้ำประกันคือ MUL ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของ MUFG โดย MUL ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Negative” หรือ “เป็นลบ” จาก Standard & Poor’s และ “A3” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” จาก Moody’s
อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตสำหรับหุ้นกู้มีการค้ำประกันของ BMUL อาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ในกรณีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในคุณภาพเครดิตของผู้ค้ำประกัน
MUL ก่อตั้งในปี 2514 ในชื่อ Diamond Lease Co., Ltd. หลังจากควบรวมกิจการกับ UFJ Central Leasing Co., Ltd. ในเดือนเมษายน 2550 แล้วจึงเปลี่ยนชื่อมาเป็นชื่อในปัจจุบัน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2558 MUFG รวมถึงกลุ่มบริษัทย่อยที่ทำธุรกิจธนาคารอย่าง Bank of Tokyo-Mitsubishi UFJ Ltd. (BTMU) และ Mitsubishi UFJ Trust and Banking Corp. ถือหุ้นใน MUL รวมกันในสัดส่วน 23% ในขณะที่ MC ถือ 20%
ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 MUL มีสินทรัพย์รวม 5.1 ล้านล้านเยนและมีสินทรัพย์ดำเนินงาน 4.6 ล้านล้านเยน MUL มีสำนักงานสาขาอยู่ทั่วโลก โดยบริษัทย่อยในต่างประเทศส่วนใหญ่อยู่ในทวีปเอเชียและประเทศสหรัฐอเมริกา MUL มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งจากการแนะนำธุรกิจของบริษัทในเครือ เช่น MUFG และ MC ทั้งนี้ MUL มีแหล่งรายได้ที่กระจายตัวโดยมาจากธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจ ลีสซิ่ง ธุรกิจผ่อนชำระของลูกค้าองค์กร และบริการทางการเงิน รวมถึงบริการสินเชื่อสำหรับกิจการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-related Service) ธุรกิจสินเชื่อเพื่อซื้อขายเครื่องจักรมือสอง และบริการสินเชื่ออื่นๆ
ในเดือนเมษายน 2557 MUL ได้ประกาศแผนธุรกิจสำหรับระยะ 3 ปีข้างหน้าโดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มผลกำไรด้วยการพัฒนาธุรกิจของตนเองและเร่งขยายธุรกิจไปในต่างประเทศทั้งจากการเติบโตจากธุรกิจปกติและจากการซื้อกิจการ รวมถึงการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ จนถึงปัจจุบัน MUL ได้ซื้อกิจการของบริษัทสินเชื่อลีสซิ่งในประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรปซึ่งประกอบด้วย บริษัทสินเชื่อลีสซิ่งเครื่องบิน 1 แห่งและบริษัทสินเชื่อลีสซิ่งตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งใช้ในกิจการขนส่งสินค้าทางเรืออีก 1 แห่ง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 สินทรัพย์ดำเนินงานของบริษัทที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในต่างประเทศของ MUL มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,467 พันล้านเยน คิดเป็นสัดส่วน 32% ของสินทรัพย์ดำเนินงานทั้งหมดของ MUL โดยเพิ่มขึ้นจาก 31% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 และ 21% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 ปัจจุบัน MUL กำลังขยายฐานลูกค้าไปพร้อม ๆ กับการปรับโครงสร้างการดำเนินงานทั้งในประเทศญี่ปุ่นและในต่างประเทศ
ในรอบปีบัญชี 2552 (เมษายน 2551-มีนาคม 2552) ผลประกอบการของ MUL ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากภาวะตกต่ำของเศรษฐกิจโลก โดยบริษัทมีกำไรสุทธิ 7.1 พันล้านเยน ลดลงจาก 30.2 พันล้านเยนในรอบปีบัญชี 2551 บริษัทยังคงความสามารถในการสร้างผลกำไรแม้ในภาวะที่เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำโดยไม่เคยมีปีใดที่บริษัทมีผลขาดทุน ผลประกอบการของ MUL ในรอบปีบัญชี 2557 มีกำไรสุทธิ 37.7 พันล้านเยน และเพิ่มขึ้นเป็น 44.1 พันล้านเยนในรอบปีบัญชี 2558 สำหรับ 6 เดือนแรกของรอบปีบัญชี 2559 (สิ้นสุดเดือนกันยายน 2558) MUL มีกำไรสุทธิ 28.9 พันล้านเยน หรือเพิ่มขึ้น 28.4% จากช่วงเดียวกันของรอบปีบัญชีก่อน MUL ถือว่ามีกำไรสูงขึ้นจากอดีตมาโดยตลอด ซึ่งกำไรส่วนหนึ่งมาจากรายได้ของบริษัทลูกในต่างประเทศที่บริษัทเพิ่งซื้อกิจการเข้ามาใหม่
MUL มีการใช้แหล่งเงินกู้ระยะสั้นจำนวนหนึ่งซึ่งไม่สอดคล้องกับระยะเวลาของสินทรัพย์และทำให้บริษัทมีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องระยะสั้นในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงดังกล่าวบรรเทาลงจากการที่บริษัทใช้วิธีบริหารจัดการสินทรัพย์และหนี้สินที่รอบคอบและการได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผู้ถือหุ้นที่เกี่ยวข้องคือ BTMU
ตามแผนธุรกิจ MUL ได้มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยผ่านบริษัทลูกของตนคือบริษัทบางกอก มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส ซึ่งดำเนินธุรกิจให้เช่าแบบ ลีสซิ่งสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ในประเทศไทยมาเป็นเวลานาน โดยบริษัทบางกอก มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส ก่อตั้งในปี 2534 จากความร่วมมือของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในประเทศไทย ปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทคือ MUL ซึ่งถือหุ้น 44% ในขณะที่ธนาคารกรุงเทพและบริษัทที่เกี่ยวข้องถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 34%
บริษัทบางกอกมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส ให้บริการใน 2 ธุรกิจหลัก คือ สินเชื่อลีสซิ่งสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ และการให้เช่าดำเนินงานรถยนต์พร้อมบริการซ่อม MUL ได้แสดงความตั้งใจในการให้การสนับสนุนทั้งทางด้านธุรกิจและด้านการเงินแก่บริษัท ซึ่งรวมถึงความรู้ทั้งในด้านแนวปฏิบัติในการดำเนินงานและการบริหารความเสี่ยง รวมถึงการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ตลอดจนการให้การค้ำประกันหนี้ ซึ่งรวมถึงการค้ำประกันหุ้นกู้ซึ่งเป็นตัวอย่างหนึ่งของการให้การสนับสนุนด้านการเงินที่บริษัทได้รับในฐานะเป็นบริษัทลูกของ MUL ด้วย การสนับสนุนอย่างเต็มที่จากบริษัทแม่คาดว่าจะมีอย่างต่อเนื่องในอนาคตซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการให้ความสำคัญแก่กลุ่มธุรกิจต่างประเทศของ MUL โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2559 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html