ทริสประกาศ "เครดิตวาระ" อันดับเครดิต จีอี แคปปิตอล ออโต้ ลีส

        ทริสประกาศ "เครดิตวาระ" อันดับเครดิต จีอี แคปปิตอล ออโต้ ลีสเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2543 บริษัท ไทยเรทติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่นเซอร์วิส จำกัด (ทริส) ประกาศเครดิตวาระยืนยันอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท จีอี แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน)  ที่ระดับ A คงเดิม พร้อมจัดอันดับหุ้นกู้ไม่มีประกันมูลค่า 5,000 ล้านบาทในระดับ A โดยอันดับเครดิตแสดงถึงผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นและการสนับสนุนทางการเงินจากบริษัทแม่  คือ  บริษัท เจเนอรัล อีเลคทริค แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (จีอีซีซี) ผ่านวงเงินสินเชื่อ 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อรองรับความสามารถในการชำระหนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนการบริหารความเสี่ยงและนโยบายการเงินแบบอนุรักษ์นิยม การบริหารหนี้สินต่อทุนไม่ให้เกิน 10:1 การมีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อค้างชำระที่ลดลงตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2543 ซึ่งทำให้บริษัทมีกำไร  282 ล้านบาทในปี 2542 หลังจากที่ขาดทุนติดต่อกันถึง 2 ปีในปี 2540 และ 2541  นอกจากนี้ยังสะท้อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่กระตุ้นความต้องการซื้อรถยนต์และเอื้อโอกาสทางการค้าแก่บริษัทซึ่งมีความมั่นคงในธุรกิจเช่าซื้อและมีเงินทุนที่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งในการดำเนินงานของบริษัทได้รับผลกระทบบางส่วนจากข้อกำหนดตามสัญญาการออกหุ้นกู้ไม่มีประกันที่อนุญาตให้บริษัทรวมกิจการกับบริษัทลูกอื่นๆ ของ จีอีซีซี ได้โดยไม่ต้องขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นกู้ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการดำเนินงานให้แก่บริษัท
        ทริสรายงานว่าการดำเนินนโยบายบริหารงานของบริษัท จีอี แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) ซึ่งอยู่ภายใต้มาตรฐานสากลของบริษัทแม่ทำให้บริษัทลดความเสี่ยงจากการมีสัดส่วนสินเชื่อค้างชำระ 30 วันขึ้นไปจาก 27% ในเดือนธันวาคม 2541 เหลือเพียง 8% ในเดือนธันวาคม 2542 หากใช้เกณฑ์สินเชื่อค้างชำระ 3 เดือนขึ้นไปตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย สัดส่วนสินเชื่อค้างชำระของบริษัท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2543 จะอยู่ที่ระดับ 1.8% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 17.8% ของบริษัทเงินทุนทั้งระบบที่ทำธุรกิจเช่าซื้ออย่างมาก  การสำรองค่าเผื่อหนี้สูญที่ลดลงจาก 704 ล้านบาทในปี 2541 เหลือเพียง 230 ล้านบาทในปี 2542 เป็นหลักฐานสนับสนุนการมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นของบริษัท ส่วนต่างของดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 5.3% ณ เดือนธันวาคม 2541 มาอยู่ที่ระดับ 5.5% ในปี 2542  บริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากการขยายฐานการให้สินเชื่อตามการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจ กำไรสุทธิของบริษัทในปี 2542 สูงกว่าที่เคยประมาณการขั้นต่ำไว้ที่ 217 ล้านบาท  บริษัทมีแหล่งเงินทุนจากกลุ่มสถาบันการเงินที่จัดหาให้โดยบริษัทแม่อย่างเพียงพอที่จะรองรับการขยายตัวของยอดจำหน่ายรถยนต์ที่คาดว่าจะเติบโตในอัตรา 20% สู่ระดับ 260,000 คันในปี 2543 หนี้สินระยะสั้นส่วนใหญ่มีการเปลี่ยนแหล่งเงินกู้ใหม่และได้ป้องกันความเสี่ยงไว้ทั้งหมด นอกจากนี้ การออกหุ้นกู้ดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการแข่งขันของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นหมายเหตุ: ทริสจะประกาศ "เครดิตวาระ" เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญที่มีผลกระทบต่อธุรกิจหรือการเงินของหน่วยงานที่ทริสเคยจัดอันดับเครดิตไปแล้ว หรือเมื่อหน่วยงานดังกล่าวออกตราสารหนี้ใหม่ หรือเมื่อมีการยกเลิกอันดับเครดิตเดิม  โดยทริสจะแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมจากที่เคยประกาศใน "ข่าวเครดิต" แล้ว