ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน “ปตท.สผ.” ที่ “AAA” และหุ้นกู้ด้อยสิทธิคล้ายทุนที่ “AA” ด้วยแนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 7, 2016 16:30 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) ที่ระดับ “AAA” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนของบริษัทที่ระดับ “AA” ด้วย โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนซึ่งมีอันดับเครดิตต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรของ ปตท.สผ. อยู่ 2 ขั้นสะท้อนถึงลักษณะการด้อยสิทธิและความเสี่ยงที่ผู้ถือตราสารอาจถูกเลื่อนนัดการชำระดอกเบี้ยของตราสารดังกล่าวได้

การคงอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความยืดหยุ่นทางการเงินของ ปตท.สผ. และความสามารถของบริษัทในการลดค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนและต้นทุนการดำเนินงานเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง นอกจากนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตดังกล่าวยังคำนึงถึงสถานะผู้นำในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทยของบริษัท ตลอดจนปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่มีมากพอ การสนับสนุนจากภาครัฐในฐานะเป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของบริษัทน้ำมันและก๊าซแห่งชาติ และฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งด้วย อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันปิโตรเลียมที่อยู่ในระดับต่ำและความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศยังคงเป็นปัจจัยที่น่ากังวลสำหรับอันดับเครดิตของบริษัท

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่า ปตท.สผ. จะยังคงดำรงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งต่อไปได้ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย โดยความยืดหยุ่นในการปรับแผนค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนและการมีสภาพคล่องที่เพียงพอจะช่วยให้บริษัทผ่านช่วงตกต่ำของอุตสาหกรรมปิโตรเลียมไปได้

ปัจจัยเชิงลบที่จะมีผลต่ออันดับเครดิตของบริษัทอาจเกิดขึ้นหากราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับต่ำกว่า 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือหากบริษัทมีระดับเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการซื้อกิจการขนาดใหญ่

ปตท.สผ. เป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมระดับแนวหน้าของประเทศซึ่งก่อตั้งในปี 2528 ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อถือสิทธิ์สัมปทานปิโตรเลียมในนามของรัฐบาลไทย ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2559 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันและก๊าซแห่งชาติเป็นผู้ถือหุ้น ปตท.สผ. ในสัดส่วน 65.3% ทั้ง ปตท. และ ปตท.สผ. มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้พระราชบัญญัติงบประมาณของไทย การเป็นตัวแทนของ ปตท. และรัฐบาลในการทำหน้าที่สำรวจและผลิตปิโตรเลียมทำให้ ปตท.สผ. ได้รับประโยชน์ในการเข้าร่วมโครงการสัมปทานปิโตรเลียมที่สำคัญ ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย ณ เดือนธันวาคม 2558 ปตท.สผ. มีโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรวมทั้งสิ้น 38 โครงการใน 11 ประเทศ โดยโครงการเกือบ 2 ใน 3 หรือจำนวน 24 โครงการอยู่ในขั้นตอนการผลิต ส่วนโครงการที่เหลืออยู่ในขั้นตอนการสำรวจและพัฒนา

บริษัทมีสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดยในปี 2558 บริษัทมีปริมาณการผลิตปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น 4.1% เป็น 373,888 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จาก 359,259 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันในปี 2557 ปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการผลิตเต็มปีของโครงการ Zawtika ในประเทศเมียนมาร์ รวมทั้งจากการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในโครงการ Contract 4 และโครงการสินภูฮ่อมตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 และการเริ่มการผลิตของโครงการ Ber Seba ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2558 โดย ณ สิ้นปี 2558 บริษัทมีปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่พิสูจน์แล้วทั้งหมดที่ระดับ 738 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ หากพิจารณาจากอัตราการผลิตปิโตรเลียมในปี 2558 แล้ว ปริมาณสำรองปิโตรเลียมของบริษัทน่าจะผลิตได้นานประมาณ 5 ปี อย่างไรก็ตาม บริษัทมีทรัพยากรปิโตรเลียมสูงถึง 5,039 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ (รวมปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่พิสูจน์แล้ว) หากบริษัทตัดสินใจที่จะลงทุนพัฒนาโครงการก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas -- LNG) ในประเทศโมซัมบิค ปริมาณทรัพยากรปิโตรเลียมดังกล่าวบางส่วนก็จะเปลี่ยนเป็นปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่พิสูจน์แล้วได้ โดยปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่พิสูจน์แล้วของบริษัทจะมีอายุเพิ่มขึ้น 1 ถึง 2 ปีเมื่อพิจารณาจากอัตราการผลิตรวมของบริษัทในปี 2558

ในปี 2558 ราคาน้ำมันดิบยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นปัจจัยเพิ่มแรงกดดันต่อผลการดำเนินงานของบริษัท ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงเกือบ 50% จากราคาเฉลี่ยที่ 96.6 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรลในปี 2557 เหลือ 50.9 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในปี 2558 ราคาขายโดยเฉลี่ยของบริษัทลดลง 28.9% จาก 63.7 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบในปี 2557 เหลือ 45.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบในปี 2558 เหตุที่ราคาขายโดยเฉลี่ยของบริษัทลดลงช้ากว่านั้นเนื่องมาจากการปรับราคาขายก๊าซธรรมชาติที่ช้ากว่าราคาน้ำมันประมาณ 3 เดือนถึง 1 ปี ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการขายก๊าซธรรมชาติคิดเป็น 70% ของยอดขายรวมของบริษัท

บริษัทรับมือกับภาวะราคาน้ำมันตกต่ำด้วยการบริหารต้นทุนโดยทำการปรับลดค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนและค่าใช้จ่ายดำเนินงานลง ซึ่งการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วดังกล่าวช่วยให้บริษัทสามารถรักษาสภาพคล่องเอาไว้ได้แม้กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จะลดลงตามราคาน้ำมันก็ตาม ในปี 2558 บริษัทปรับลดค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนลงกว่า 30% เหลือประมาณ 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากแผนเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ บริษัทยังคงดำเนินการลดต้นทุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยต้นทุนการผลิตปิโตรเลียมที่เป็นเงินสดลดลงเหลือ 16 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบในปี 2558 จาก 21 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบในปี 2557 ความยืดหยุ่นดังกล่าวนี้ช่วยลดแรงกดดันที่จะเกิดกับสถานะทางการเงินของบริษัทได้ในระดับหนึ่งเนื่องจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายหลัก ๆ อันได้แก่ ค่าใช้จ่ายฝ่ายทุน เงินปันผล และการชำระคืนเงินกู้

ในปี 2558 บริษัทมีปริมาณการขายปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น 3% จาก 312,569 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันในปี 2557 เป็น 322,167 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน อย่างไรก็ตาม รายได้ของบริษัทลดลง 27% จาก 7,319 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2557 เหลือ 5,326 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง แม้ว่า EBITDA ของบริษัทลดลงเหลือ 4,241 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2558 แต่ก็ยังเพียงพอสำหรับการชำระคืนเงินกู้ ค่าใช้จ่ายฝ่ายทุน และจ่ายเงินปันผล นอกจากนี้ ในปี 2558 บริษัทได้ชำระคืนเงินกู้สกุลดอลลาร์แคนาดาก่อนกำหนดมูลค่าประมาณ 361 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปแล้ว ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินและทำให้โครงสร้างเงินทุนของบริษัทแข็งแกร่งขึ้น โดย ณ สิ้นปี 2558 บริษัทมีอัตราส่วนเงินกู้รวมที่ปรับปรุงแล้วต่อโครงสร้างเงินทุนที่ระดับ 25.6%

มองไปข้างหน้าบริษัทยังคงมีความยืดหยุ่นทางการเงินเพียงพอที่จะใช้ในการปรับค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันที่ลดลง ในช่วงปี 2559-2561 คาดว่าบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนประมาณ 6,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปรับลด 14% จากแผนเดิมของบริษัทที่ประมาณ 7,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบริษัทจะยังคงลงทุนเพื่อรักษาระดับการผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่หลัก ๆ ต่อไป เช่น ในบริเวณอ่าวไทยและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ การตัดทอนค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนนี้คาดว่าจะไม่กระทบต่อการดำเนินงานระยะยาวของบริษัท ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทยังคงลงทุนในโครงการที่สำคัญต่อไปคือโครงการ Rovuma Offshore Area 1 ในประเทศโมซัมบิค แต่เลื่อนการพัฒนาโครงการ โครงการ Mariana Oil sands ในแคนาดาออกไป ในขณะที่โครงการ Cash/ Maple ในออสเตรเลียยังไม่ได้สรุปการลงทุน นอกจากนี้ บริษัทยังมีสภาพคล่องทางการเงินที่แข็งแรง โดย ณ สิ้นปี 2558 บริษัทมีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นจำนวน 3,260 ล้านดอลลาร์สหรัฐเทียบกับเงินกู้รวม 3,005 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังมีวงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีกจำนวน 978 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจำนวน 554 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นวงเงินกู้ยืมประเภท Committed Credit Line

ในช่วงปี 2559-2561 ประมาณการพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่า ปตท.สผ. จะมี EBITDA ประมาณ 2,500-2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อปีโดยอยู่บนสมมุติฐานที่ปริมาณขายปิโตรเลียมโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 320,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันและราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยที่ 35-40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในปี 2559 ในขณะที่แผนค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนในช่วงปี 2559-2561 อยู่ที่ประมาณ 6,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทไม่มีภาระการชำระคืนเงินกู้ในช่วงปี 2559-2560 แต่ในปี 2561 จะมีเงินกู้ที่ครบกำหนดชำระคืนจำนวน 583 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากประมาณการระดับ EBITDA ตลอดจนแผนค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนและภาระการชำระคืนเงินกู้ที่ระบุไว้ดังกล่าวคาดว่าบริษัทจะยังคงมีอัตราส่วนเงินกู้รวมที่ปรับปรุงแล้วต่อโครงสร้างเงินทุนอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 30% ในช่วงปี 2559-2561

บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP)
อันดับเครดิตองค์กร: AAA
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
PTEP183A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 AAA
PTTEP195A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 AAA
PTTEP196A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 8,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 AAA
PTTEP296A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 11,400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2572 AAA
PTTEP12PA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน 5,000 ล้านบาท AA
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2559 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ