ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิและหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคารที่ระดับ “A-” และ “BBB+” ตามลำดับ โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการแข่งขันที่แข็งแกร่งของธนาคารในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และระดับเงินกองทุนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตถูกลดทอนโดยส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อและเงินรับฝากที่มีขนาดเล็กและเครือข่ายที่มีจำกัด รวมถึงคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงและการพึ่งพิงแหล่งเงินทุนจากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ นอกจากนี้ การชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยและความซบเซาของยอดขายรถยนต์ภายในประเทศอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการแข่งขัน รวมทั้งคุณภาพพอร์ตสินเชื่อและความสามารถในการทำกำไรของธนาคาร
อันดับเครดิต “BBB+” สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคาร (TISCO223A) สะท้อนความเสี่ยงในการด้อยสิทธิและความเสี่ยงในการไม่ชำระหนี้ตามเงื่อนไขการรองรับผลขาดทุนเมื่อธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ตราสารดังกล่าวมีคุณสมบัติที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ Basel III และเป็นไปตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตราสารประเภทนี้มีลักษณะด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ไม่สามารถเลื่อนการชำระดอกเบี้ย และไม่สามารถแปลงสภาพได้ ธนาคารสามารถไถ่ถอนตราสารคืนทั้งจำนวนก่อนวันครบกำหนดได้ภายหลังระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสารและได้รับความเห็นชอบจาก ธปท. ผู้ถือตราสารประเภทนี้มีสิทธิที่ด้อยกว่าผู้ฝากเงินและผู้ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของธนาคาร ทั้งนี้ ตราสารดังกล่าวสามารถตัดเป็นหนี้สูญได้ในกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลพิจารณาเห็นว่าธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ และจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ธนาคารภายใต้เงื่อนไขที่ได้ระบุไว้
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ว่าธนาคารจะยังคงสถานะทางการแข่งขันที่แข็งแกร่งในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และดำรงเงินกองทุนที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากความสามารถในการทำกำไรของธนาคารอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญอันมีสาเหตุจากการด้อยลงของคุณภาพสินเชื่อ ในทางตรงข้าม สถานะเครดิตในทางบวกยังไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้เนื่องจากโอกาสในธุรกิจเช่าซื้อที่มีอย่างจำกัดและเศรษฐกิจที่ยังคงอ่อนแอ
ธนาคารทิสโก้เป็นบริษัทย่อยหลักของ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผ่านการถือหุ้นจำนวน 99.99% กลุ่มทิสโก้มีขนาดของสินทรัพย์รวมใหญ่เป็นอันดับ 10 จากธนาคารพาณิชย์ไทยทั้งสิ้น 19 แห่ง โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อ 2.1% และเงินรับฝาก 1.4% ณ สิ้นปี 2558 ตามกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นในตลาดเฉพาะกลุ่ม ธนาคารมีพอร์ตสินเชื่อรถยนต์ใหญ่ที่สุดซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 64% ของสินเชื่อรวมของธนาคาร ความเชี่ยวชาญของคณะผู้บริหารช่วยให้ธนาคารยังคงรักษาสถานะทางการตลาดในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ไว้ได้ ทั้งนี้ ธนาคารเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์รายใหญ่อันดับ 4 จาก 16 รายในฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 10% ณ เดือนธันวาคม 2557
พอร์ตสินเชื่อของธนาคารหดตัวลงอย่างต่อเนื่องท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและยอดขายรถยนต์ที่ซบเซา โดย ณ สิ้นปี 2558 สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับของธนาคารมีจำนวน 234.8 พันล้านบาท ลดลง 9.2% จากปีก่อน คุณภาพสินเชื่อของธนาคารยังคงด้อยลงอย่างต่อเนื่องในปี 2558 โดยมีอัตราการเกิดสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้น อัตราการก่อตัวของหนี้ด้อยคุณภาพที่เพิ่มขึ้นในปี 2558 มีสาเหตุหลักมาจากการที่สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่กลายมาเป็นสินเชื่อด้อยคุณภาพ ทั้งนี้ ณ เดือนธันวาคม 2558 สินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารเพิ่มขึ้นเป็น 6.9 พันล้านบาท และมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมเท่ากับ 2.94% นอกจากนี้ สำรองส่วนเกินมีปริมาณลดลงตั้งแต่ปี 2553 โดยค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของธนาคาร ณ สิ้นปี 2558 คิดเป็น 125% ของสำรองขั้นต่ำตามเกณฑ์ของ ธปท. ซึ่งลดลงจาก 260% ณ สิ้นปี 2553 ทั้งนี้ อัตราส่วนของธนาคารในปัจจุบันมีระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอย่างมาก
ธนาคารกระจายสินเชื่อไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากขึ้น แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของสินเชื่อเนื่องจากกลยุทธ์การมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับสินเชื่อรถยนต์ นอกจากนี้ ธนาคารมีลูกหนี้ขนาดใหญ่มากอยู่จำนวนหนึ่งด้วย คุณภาพสินทรัพย์และเงินกองทุนของธนาคารอาจด้อยลงหากสินเชื่อดังกล่าวกลายเป็นสินเชื่อที่มีปัญหา
ธนาคารมีกำไรสุทธิในปี 2558 จำนวน 2.9 พันล้านบาท ลดลง 6% จากปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญที่เพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของหนี้ด้อยคุณภาพ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ต้นทุนทางการเงินลดลงตามอัตราดอกเบี้ยในตลาดแต่ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ย ทั้งนี้ ต้นทุนทางการเงินและต้นทุนด้านเครดิตที่ค่อนข้างสูงลดทอนลงจากการควบคุมต้นทุนดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ
ธนาคารพึ่งพิงแหล่งเงินทุนจากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเกิดความผันผวนได้ง่ายกว่าแหล่งเงินทุนจากกลุ่มลูกค้ารายย่อย อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝาก (รวมตั๋วแลกเงิน) ของธนาคาร ณ สิ้นปี 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 148% ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนแอกว่าธนาคารอื่น นอกจากนี้ ธนาคารอาจเผชิญกับความเสี่ยงด้านเสถียรภาพของเงินรับฝากเนื่องจากวงเงินรับประกันเงินฝากจะลดลงเหลือเพียง 1 ล้านบาทในเดือนสิงหาคม 2559
เงินกองทุนของธนาคารแข็งแกร่งขึ้นภายหลังการเพิ่มทุนเมื่อเร็ว ๆ นี้ เงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคารยังคงเพียงพอต่อการขยายสินเชื่อในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ ณ เดือนธันวาคม 2558 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงและเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงเท่ากับ 13.98% และ 18.01% ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของ ธปท.
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 ? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2559 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html