ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 70,000 ล้านบาทของ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” ในขณะเดียวกันยังคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของธนาคารที่ระดับ “A” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิและหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคารที่ระดับ “A-” และ “BBB+” ตามลำดับด้วย โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการแข่งขันที่แข็งแกร่งของธนาคารในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และระดับเงินกองทุนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตถูกลดทอนโดยส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อและเงินรับฝากที่มีขนาดเล็กและเครือข่ายสาขาที่มีจำกัด รวมถึงคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงและการพึ่งพิงแหล่งเงินทุนจากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ นอกจากนี้ การชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยและความซบเซาของยอดขายรถยนต์ภายในประเทศอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการแข่งขัน รวมทั้งคุณภาพพอร์ตสินเชื่อและความสามารถในการทำกำไรของธนาคาร
อันดับเครดิต “BBB+” สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคาร (TISCO223A) สะท้อนความเสี่ยงในการด้อยสิทธิและความเสี่ยงในการไม่ชำระหนี้ตามเงื่อนไขการรองรับผลขาดทุนเมื่อธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ตราสารดังกล่าวมีคุณสมบัติที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ Basel III และเป็นไปตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตราสารประเภทนี้มีลักษณะด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ไม่สามารถเลื่อนการชำระดอกเบี้ย และไม่สามารถแปลงสภาพได้ ธนาคารสามารถไถ่ถอนตราสารคืนทั้งจำนวนก่อนวันครบกำหนดได้ภายหลังระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสารและได้รับความเห็นชอบจาก ธปท. ผู้ถือตราสารประเภทนี้มีสิทธิที่ด้อยกว่าผู้ฝากเงินและผู้ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของธนาคาร ทั้งนี้ ตราสารดังกล่าวสามารถตัดเป็นหนี้สูญได้ในกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลพิจารณาแล้วเห็นว่าธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้และจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ธนาคารภายใต้เงื่อนไขที่ระบุไว้
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ว่าธนาคารจะยังคงสถานะทางการแข่งขันที่แข็งแกร่งในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และดำรงเงินกองทุนที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากความสามารถในการทำกำไรของธนาคารอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญอันมีสาเหตุจากการด้อยลงของคุณภาพสินเชื่อ สถานะเครดิตในทางบวกยังไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้เนื่องจากโอกาสในธุรกิจเช่าซื้อที่มีอย่างจำกัดและเศรษฐกิจที่ยังคงอ่อนแอ
ธนาคารทิสโก้เป็นบริษัทย่อยหลักของ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผ่านการถือหุ้นจำนวน 99.99% กลุ่มทิสโก้มีขนาดของสินทรัพย์รวมใหญ่เป็นอันดับ 10 จากธนาคารพาณิชย์ไทยทั้งสิ้น 19 แห่ง โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อ 2.1% และเงินรับฝาก 1.4% ณ สิ้นปี 2558 ตามกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นในตลาดเฉพาะกลุ่ม ธนาคารมีพอร์ตสินเชื่อรถยนต์ใหญ่ที่สุดซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 64% ของสินเชื่อรวม ความเชี่ยวชาญของคณะผู้บริหารช่วยให้ธนาคารยังคงรักษาสถานะทางการตลาดในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ไว้ได้ ทั้งนี้ ธนาคารเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์รายใหญ่อันดับ 4 จาก 16 รายในฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 10% ณ เดือนธันวาคม 2557
พอร์ตสินเชื่อของธนาคารหดตัวลงต่อเนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและยอดขายรถยนต์ที่ยังคงซบเซา ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2559 สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับของธนาคารมีจำนวน 229.8 พันล้านบาท ลดลง 2.1% จากเดือนธันวาคม 2558 คุณภาพสินเชื่อของธนาคารปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยภายหลังการด้อยลงอย่างต่อเนื่องในระหว่างปี 2556-2558 โดยการเกิดสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้มีอัตราที่ลดลงในไตรมาสแรกของปี 2559 สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารลดลงเหลือ 6.4 พันล้านบาท ณ เดือนมีนาคม 2559 โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมเท่ากับ 2.80% สำรองส่วนเกินลดลงตั้งแต่ปี 2553 โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2559 ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของธนาคารคิดเป็น 139% ของสำรองขั้นต่ำตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ลดลงจาก 260% ณ สิ้นปี 2553 ทั้งนี้ อัตราส่วนของธนาคารในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม
ธนาคารกระจายสินเชื่อไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากขึ้น แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของสินเชื่อเนื่องจากกลยุทธ์การมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับสินเชื่อรถยนต์ นอกจากนี้ ธนาคารยังมีลูกหนี้ขนาดใหญ่มากอยู่จำนวนหนึ่งด้วยซึ่งคุณภาพสินทรัพย์และเงินกองทุนของธนาคารอาจด้อยลงหากสินเชื่อดังกล่าวกลายเป็นสินเชื่อที่มีปัญหา
ธนาคารมีกำไรสุทธิในงวดไตรมาสแรกของปี 2559 จำนวน 980 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเนื่องจากธนาคารสามารถลดต้นทุนทางการเงินลงตามอัตราดอกเบี้ยในตลาด อย่างไรก็ตาม ต้นทุนทางการเงินของธนาคารยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม สำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นเนื่องจากธนาคารได้เพิ่มปริมาณสำรองส่วนเกินเพื่อรองรับความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่เกิดจากการมีต้นทุนทางการเงินและต้นทุนด้านเครดิตที่ค่อนข้างสูงได้ถูกลดทอนลงจากการควบคุมต้นทุนดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ
เงินกองทุนของธนาคารมีความแข็งแกร่งขึ้นภายหลังการเพิ่มทุนเมื่อเร็ว ๆ นี้ เงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคารยังคงเพียงพอต่อการขยายสินเชื่อในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ ณ เดือนมีนาคม 2559 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงและเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงเท่ากับ 13.98% และ 17.98% ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของ ธปท.
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 ? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2559 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html