ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทรัพย์ศรีไทย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตของบริษัทสะท้อนถึงโอกาสในการเติบโตในธุรกิจร้านอาหารและอาหารบริการด่วน รวมถึงการดำเนินงานที่มั่นคงของธุรกิจคลังสินค้าและคลังเอกสาร อย่างไรก็ตาม ความแข่งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงของบริษัทและการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจร้านอาหารท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจและการบริโภคที่อ่อนตัวลง
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าสถานะทางธุรกิจและฐานะการเงินของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน โอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของบริษัทมีจำกัดในระยะ 12-18 เดือนข้างหน้าเมื่อพิจารณาจากฐานะการเงินของบริษัทในปัจจุบัน คุณภาพเครดิตของบริษัทอาจได้รับผลกระทบในทางลบหากอัตรากำไรของบริษัทยังคงอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องหรือบริษัทมีการลงทุนที่ทำให้บริษัทต้องก่อหนี้เป็นจำนวนมาก
บริษัททรัพย์ศรีไทยก่อตั้งในปี 2519 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2537 ณ เดือนมีนาคม 2559 ครอบครัวสุขะนินทร์และกลุ่มเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในสัดส่วนรวมกันจำนวน 67.6% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ในช่วงเริ่มแรก บริษัทดำเนินธุรกิจคลังสินค้าและท่าเรือที่จังหวัดสมุทรปราการ และต่อมาได้ขยายกิจการสู่ธุรกิจคลังเอกสาร บริษัทขยายกิจการสู่ธุรกิจถั่วเหลืองและน้ำมันพืชในปี 2553 อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ขายธุรกิจนี้ออกไปในเดือนกันยายน 2557 และในปี 2555 บริษัทได้ขยายกิจการไปสู่ธุรกิจร้านอาหารโดยได้ซื้อกิจการของกลุ่ม Mudman ที่ถือสิทธิในการประกอบธุรกิจร้าน “Dunkin’ Donuts” “Au Bon Pain” และ “Baskin Robbins” ในประเทศไทย ในเดือนกรกฎาคม 2557 บริษัทซื้อกลุ่ม Greyhound อันประกอบไปด้วย บริษัท เกรฮาวด์ จำกัด (GH) และ บริษัท เกรฮาวด์ คาเฟ่ จำกัด (GHC) ผ่าน Mudman ซึ่งทำให้บริษัทมีแบรนด์อาหารเป็นของตนเอง ปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่ ร้านอาหาร แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ และคลังสินค้า โดยธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ส่วนใหญ่ให้แก่บริษัทซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80% ของรายได้รวม และคิดเป็น 90% ของกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 2558
ฐานะทางธุรกิจของบริษัทขึ้นอยู่กับธุรกิจร้านอาหารที่มีการแข่งขันสูงและขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ในปี 2558 บริษัทมีรายได้ 3,073 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จาก 2,455 ล้านบาทในปี 2557 การเพิ่มขึ้นของรายได้ดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการรวมเอารายได้ของกลุ่ม Greyhound เข้ามาเต็มปี และจากการขยายสาขาเพิ่ม ในขณะที่การเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิมที่เปิดมาเกิน 1 ปียังติดลบซึ่งสอดคล้องกับภาวะอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัว ในไตรมาสแรกของปี 2559 บริษัทมีรายได้ 789 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทอ่อนตัวลง โดยบริษัทมีอัตรากำไร (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จากการขาย) ลดลงอยู่ที่ 8.5% ในปี 2558 เทียบกับ 10.6% ในปี 2557 ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากค่าใช้จ่ายจากการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นจากการที่บริษัทยกเลิกโครงการในธุรกิจร้านอาหารบางโครงการ และจากการสำรวจโอกาสในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง อัตรากำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้นเป็น 11.5% ในไตรมาสแรกของปี 2559 ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายจากการขายและบริหารที่อยู่ในระดับสูงถือเป็นปัจจัยลบต่อคุณภาพเครดิตของบริษัท
อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทเพิ่มขึ้นในระยะ 15 เดือนที่ผ่านมาโดยมีสาเหตุหลักมาจากผลการดำเนินงานที่อ่อนตัวลง โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอยู่ที่ 51.6% ณ เดือนมีนาคม 2559 จาก 48.3% ในปี 2557 สภาพคล่องของบริษัทยังอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย บริษัทมีอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายอยู่ที่ 2.1 เท่า และมีอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมอยู่ที่ 6.9% (ปรับให้เป็นอัตราส่วนเต็มปีโดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง 12 เดือน) ในไตรมาสแรกของปี 2559
มีการคาดการณ์ว่าภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจและการบริโภคจะยังคงดำเนินต่อไปในปี 2559 ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาของร้านอาหารมากกว่าการเติบโตของยอดขายจากร้านเดิม และคาดว่าสถานการณ์จะค่อยๆ ดีขึ้นในปี 2560-2561 ทริสเรทติ้งคาดหมายว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโต 3%-10% ต่อปีในระหว่างปี 2559-2561 และคาดหมายว่าบริษัทจะสามารถบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายจากการขายและบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะสามารถปรับอัตรากำไรให้อยู่ในระดับ 15%-17% นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศผ่านการขายแฟรนชายส์ด้วย ซึ่งรายได้จากการขายแฟรนชายส์จะช่วยให้บริษัทมีอัตรากำไรดีขึ้นเพราะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
ทริสเรทติ้งคาดว่าโครงสร้างเงินทุนและสภาพคล่องของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้น บริษัทมีแผนจะนำ Mudman ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) ในปี 2559 โดยเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งแรก (IPO) ของ Mudman จะนำไปใช้ชำระคืนหนี้ของ Mudman บางส่วนและใช้ในการขยายธุรกิจเพิ่มเติม ภายใต้สมมติฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานระหว่าง 370-570 ล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2559-2561 เงินที่ได้รับจากการขายหุ้นเพิ่มทุนและการดำเนินงานของ Mudman จะช่วยสนับสนุนแผนการลงทุนของบริษัทซึ่งจะใช้ปีละ 200-350 ล้านบาทและสำหรับชำระหนี้เงินกู้ปีละ 200-300 ล้านบาทในช่วงเวลาดังกล่าว ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมอยู่ที่ระดับ 12%-22% และมีอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายไม่น้อยกว่า 3 เท่าในช่วงปี 2559-2561 ขณะที่ส่วนอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนควรอยู่ในระดับไม่เกิน 50% ในช่วงเดียวกัน
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 ? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2559 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html