ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 7,500 ล้านบาท “บ. ช. การช่าง” ที่ระดับ “A-/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 24, 2016 16:30 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” ในวงเงินไม่เกิน 7,500 ล้านบาท พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทที่ระดับ “A-” โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” โดยบริษัทวางแผนจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระคืนหนี้และใช้ในการขยายกิจการ อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างชั้นนำในประเทศไทย ตลอดจนความสามารถในการรับงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่และโครงการที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง รวมทั้งความยืดหยุ่นทางการเงินจากการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของบริษัท อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวลดทอนลงบางส่วนจากลักษณะที่เป็นวงจรขึ้นลงของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและการแข่งขันที่รุนแรง ตลอดจนภาระหนี้ในระดับสูงของบริษัท

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันเพื่อให้ได้งานใหม่จากโครงการการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังจะเกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังคาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานให้อยู่ในระดับสูงกว่า 6% โดยเฉลี่ยแม้ว่าจะมีการแข่งขันที่รุนแรงก็ตาม รวมทั้งความต้องการเงินทุนหมุนเวียนในโครงการไซยะบุรีก็คาดว่าจะปรับลดลง

ปัจจัยบวกสำหรับอันดับเครดิตได้แก่กรณีที่บริษัทสามารถสร้างกระแสเงินสดและโครงการในมือได้สูงกว่าประมาณการและสามารถรักษาอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 60% เป็นระยะเวลาต่อเนื่องได้ ในขณะที่ปัจจัยลบสำหรับอันดับเครดิตได้แก่การมีต้นทุนก่อสร้างในโครงการหลัก ๆ ที่สูงกว่าประมาณการอย่างมีนัยสำคัญ หรือการให้การสนับสนุนทางการเงินที่มีมูลค่าสูงแก่บริษัทในกลุ่มนอกเหนือจากประมาณการซึ่งส่งผลกระทบในเชิงลบต่อกระแสเงินสดของบริษัทเป็นอย่างมาก

บริษัท ช. การช่างก่อตั้งในปี 2515 โดยตระกูลตรีวิศวเวทย์ บริษัทเริ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโดยการรับงานจากหน่วยงานภาครัฐ ต่อมาบริษัทได้ขยายขอบเขตงานมากขึ้นและได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2538 บริษัทมีประสบการณ์ในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ยาวนานโดยมีความเชี่ยวชาญในงานก่อสร้างทั่วไปจนถึงงานก่อสร้างที่มีความซับซ้อนสูง

อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำของบริษัทในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในประเทศไทย โดยบริษัทเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ 3 รายแรกที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในแง่ของรายได้ นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงผลงานของบริษัทในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่และโครงการที่ต้องใช้ความชำนาญเฉพาะด้าน ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2559 บริษัทมีงานรับเหมาก่อสร้างที่ยังไม่ส่งมอบมูลค่า 7.85 หมื่นล้านบาท โดยมีโครงการหลักได้แก่ โครงการเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีซึ่งมีมูลค่า 2.91 หมื่นล้านบาท โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระถึงขอนแก่นมูลค่า 1.51 หมื่นล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงสัญญาที่ 4 มูลค่า 8,400 ล้านบาท และโครงการทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกมูลค่า 3,600 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการไซยะบุรีมีมูลค่าคิดเป็นสัดส่วน 37% ของมูลค่าโครงการที่ยังไม่ส่งมอบทั้งหมด

นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังพิจารณารวมถึงความยืดหยุ่นทางการเงินจากการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของบริษัทด้วย ทั้งนี้ รูปแบบธุรกิจของบริษัทคือการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานเพื่อขยายขอบเขตธุรกิจเบื้องต้นของบริษัทซึ่งได้แก่ งานรับเหมาก่อสร้าง การลงทุนของบริษัทมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มรายได้และขยายอัตราการเติบโต บริษัทมีเงินลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ อีกหลายประเภท แต่มีการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จำนวน 3 ราย ได้แก่ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) (TTW) และ บริษัท ซีเคพาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (CKP) โดยบริษัททั้ง 3 แห่งดำเนินงานเกี่ยวเนื่องกับโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ อาทิ ระบบขนส่งมวลชนและสาธารณูปโภคพื้นฐานซึ่งอยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานหรือสัญญาซื้อขายระยะยาว ซึ่งจะทำให้บริษัทได้รับเงินปันผลอย่างต่อเนื่องจากการลงทุน ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทเหล่านี้ยังจ้างบริษัทให้ดำเนินโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่เป็นส่วนของการขยายงานของแต่ละบริษัทอีกด้วย

ในทางตรงข้าม อันดับเครดิตของบริษัทถูกลดทอนลงบางส่วนจากลักษณะที่เป็นวงจรขึ้นลงของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยโครงการส่วนใหญ่ที่ได้รับจะผ่านการประมูลงานที่แข่งขันกันสูง ทำให้มีอัตรากำไรไม่มาก ในปัจจุบันธุรกิจรับเหมาก่อสร้างพึ่งพาการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐเป็นอย่างมาก โดยรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนในการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ตามแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความล่าช้าในขั้นตอนการประมูลงานและการจัดจ้างซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของผู้รับเหมาก่อสร้าง

นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังมีข้อจำกัดจากภาระหนี้ที่สูงของบริษัท โดยสถานะทางการเงินของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกของปี 2559 ต่ำกว่าประมาณการของทริสเรทติ้งเล็กน้อย ระดับภาระหนี้ยังคงสูงกว่าประมาณการ เนื่องจากความต้องการเงินทุนหมุนเวียนสำหรับโครงการไซยะบุรีและภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2559 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอยู่ที่ 72.9% โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทคาดว่าจะอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องในปี 2559 แต่จะลดลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 67% หลังจากปี 2560 เมื่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงสัญญาที่ 4 แล้วเสร็จ ทริสเรทติ้งมองว่าภาระหนี้ของบริษัทอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบันแม้ว่าบริษัทจะมีภาระหนี้สูงกว่าผู้รับเหมารายอื่น ๆ ที่ได้รับอันดับเครดิตเท่ากันก็ตาม ทั้งนี้ เนื่องจากการประเมินอันดับเครดิตได้มีการพิจารณาถึงโครงสร้างทางธุรกิจของบริษัทที่เป็นทั้งผู้รับเหมาก่อสร้างและประกอบธุรกิจลงทุนด้วย

ภายใต้สมมติฐานพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทน่าจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2559-2561 โดยจะเป็นรายได้จากโครงการไซยะบุรีประมาณ 7,000-9,000 ล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 15%-20% ของประมาณการรายได้ ทั้งนี้ งานรับเหมาก่อสร้างในมือจำนวนมากที่บริษัทมีอยู่ในปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70% ของประมาณการรายได้ในปี 2559 และคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 45% ในปี 2560 และ 25% ในปี 2561 อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ในช่วงปี 2559-2561 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับสูงกว่า 6% โดยเฉลี่ย ส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทนั้นคาดว่าจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 2,300 ล้านบาทต่อปี

บริษัทมีสภาพคล่องที่เหมาะสมและมีปัจจัยสนับสนุนด้านความยืดหยุ่นทางการเงินจากเงินลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนทั้ง 3 แห่ง โดย ณ เดือนมีนาคม 2559 เงินลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนดังกล่าวมีมูลค่ายุติธรรมอยู่ที่ 3.74 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 67% ของภาระหนี้รวมของบริษัท ในช่วงปี 2559-2561 อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายคาดว่าจะอยู่ในระดับสูงกว่า 2.5 เท่า ส่วนอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมคาดว่าจะอยู่ในช่วง 5%-8%

บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) (CK)
อันดับเครดิตองค์กร: A-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
CK167A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A-
CK174A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A-
CK182A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A-
CK187A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A-
CK188A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A-
CK193A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A-
CK193B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A-
CK198A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A-
CK19NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A-
CK205A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A-
CK213A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A-
CK228A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A-
CK233A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A-
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 7,500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2571 A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2559 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ