ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ที่ระดับ “AAA” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงการบริการเดินอากาศที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ต่อประเทศ ตลอดจนสถิติด้านความปลอดภัยที่ดี สภาพคล่องที่อยู่ในระดับสูง และคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์ นอกจากนี้ การได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเนื่องจากบริษัทมีความสำคัญต่อประเทศในฐานะหน่วยงานให้บริการการเดินอากาศเพียงรายเดียวของประเทศไทยก็เป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มสถานะเครดิตให้แก่บริษัทด้วย อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากความอ่อนไหวของอุตสาหกรรมการบินที่มีต่อความเสี่ยงจากเหตุการณ์ต่าง ๆ
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการเป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวในประเทศไทยของบริษัทและการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังคาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาสภาพคล่องให้อยู่ในระดับสูงได้ต่อไป อันดับเครดิตของบริษัทอาจถูกปรับลดลงได้หากระดับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับรัฐบาลลดความสำคัญลงจากระดับปัจจุบันซึ่งอาจมีผลทำให้รัฐบาลลดการให้การสนับสนุนบริษัท
บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทยเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีรัฐบาลไทยถือหุ้น 91% และที่เหลืออีก 9% ถือหุ้นโดยบริษัทสายการบินต่าง ๆ รัฐบาลไทยในฐานะรัฐภาคีขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization -- ICAO) มีหน้าที่รับผิดชอบให้การขนส่งทางอากาศมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพโดยมีพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุมเขตแถลงข่าวการบินกรุงเทพฯ (Bangkok Flight Information Region -- BKK FIR) ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่บริเวณประเทศไทย อ่าวไทย และบางส่วนของทะเลอันดามัน ทั้งนี้ บริษัทได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นผู้ให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศเพียงรายเดียวของประเทศ ซึ่งการให้บริการของบริษัทนั้นเป็นไปตามมาตรฐานและระเบียบวิธีปฏิบัติของ ICAO
การดำเนินงานของบริษัทอยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากภาครัฐผ่านสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กระทรวงคมนาคม โดยคณะกรรมการของบริษัทจำนวน 9 คนจาก 11 คนได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาล ส่วนอีก 2 คนเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นที่เป็นบริษัทสายการบินสมาชิก ซึ่งคณะกรรมการที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ แผนวิสาหกิจและงบประมาณการลงทุนของบริษัทต้องได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี เนื่องจากบริษัทเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร วิธีคิดค่าบริการของบริษัทจึงยึดหลักการชดเชยต้นทุนที่เกิดขึ้นโดยบริษัทสามารถปรับวิธีคิดค่าบริการได้ตามความเหมาะสม โดยที่การปรับเปลี่ยนอัตราค่าบริการควบคุมจราจรทางอากาศแต่ละครั้งจะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการการบินพลเรือน
รายได้ของบริษัทมากกว่า 90% มาจากการให้บริการจราจรทางอากาศ โดยคาดว่าการจราจรทางอากาศจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกับการท่องเที่ยวและการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แม้จะมีความอ่อนไหวต่อความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมายต่าง ๆ แต่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็เติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากการเพิ่มขึ้นของทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยปริมาณเที่ยวบิน ณ ท่าอากาศยานของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ทั้ง 6 แห่งเพิ่มขึ้น 16% ในปีงบประมาณ 2558 และ 11% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการเดินทางโดยสายการบินต้นทุนต่ำ
โดยเป็นไปตามการเติบโตของปริมาณเที่ยวบิน รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 11% ในระหว่างปี งบประมาณ 2558 ถึงช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 ดังนั้น บริษัทจึงมีค่าบริการเรียกเก็บเกินจากบริษัทสายการบินสมาชิกจำนวน 1,909 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2558 และ 1,589 ล้านบาทในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 โดยในระหว่างปีงบประมาณ 2559-2561 ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโตประมาณ 8% ต่อปีจากความต้องการอย่างมากของการเดินทางอากาศทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้น จึงคาดว่าบริษัทจะมีค่าบริการเรียกเก็บเกินจากบริษัทสายการบินสมาชิกในช่วง 3 ปีข้างหน้า
เงินกู้รวมของบริษัทลดลงจาก 4,040 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2557 เป็น 3,115 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2559 ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนปรับตัวดีขึ้นโดยลดลงสู่ระดับ 77.5% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 จากระดับ 82.5% ในปีงบประมาณ 2557 อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนจะเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากบริษัทมีแผนการลงทุนจำนวน 7,042 ล้านบาทในช่วง 3 ปีข้างหน้า ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 80% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
เงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 2,815 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2557 เป็น 3,267 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2558 และอยู่ในระดับ 2,100 ล้านบาทในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมปรับตัวดีขึ้นจาก 69.7% ในปีงบประมาณ 2557 เป็น 96.2% ในปีงบประมาณ 2558 และ 115.5% (ปรับเป็นอัตราส่วนเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 ในขณะที่อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ต่อดอกเบี้ยจ่ายปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 19.9 เท่าในปีงบประมาณ 2557 เป็น 30.9 เท่าในปีงบประมาณ 2558 และ 55.9 เท่าในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 โดยในช่วง 3 ปีข้างหน้าทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมของบริษัทจะคงอยู่ในระดับที่สูงกว่า 40% และ EBITDA จะสูงกว่า 20 เท่า
ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2559 บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินเพิ่มขึ้นจากการมีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นจำนวน 3,848 ล้านบาทและมีวงเงินกู้ยืมระยะสั้นจากธนาคารที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีกจำนวน 880 ล้านบาท โดยบริษัทมีภาระหนี้ที่จะครบกำหนดชำระประมาณ 542 ล้านบาทต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า ในอนาคตทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทจะไม่ลดต่ำลงไปกว่าระดับ 1.5 เท่า
ในปี 2558 ICAO ได้แสดงความกังวลต่อมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินของประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลไทยก็ได้ให้ความใส่ใจในข้อกังวลดังกล่าว โดยขณะนี้รัฐบาลอยู่ในระหว่างการปรับปรุงแก้ไขกระบวนการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของ ICAO อนึ่ง ข้อกังวลของ ICAO ได้ส่งผลให้บางประเทศไม่อนุญาตให้เครื่องบินเช่าเหมาลำสัญญาติไทยบินเข้าประเทศเหล่านี้ รวมถึงการอนุมัติเส้นทางบินใหม่ก็มีความเข้มงวดมากขึ้น ปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลต่อการเติบโตของปริมาณเที่ยวบินในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เหล่านี้ยังไม่ส่งผลกระทบในทางลบอย่างมีนัยสำคัญต่อบริษัท เนื่องจากบริษัทมีสภาพคล่องในระดับสูง จึงไม่มีความกังวลต่อสภาพคล่องของบริษัทในระยะสั้นถึงระยะปานกลาง ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่ารัฐบาลจะสามารถแก้ไขปัญหาข้อกังวลของ ICAO ได้ภายในปี 2560
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 ? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2559 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html