ทริสยืนยันอันดับเครดิตองค์กร แอลเอสพีวี ระดับ A-

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 31, 2000 09:57 —ทริส เรตติ้ง

                                        ทริสยืนยันอันดับเครดิตองค์กร แอลเอสพีวี ระดับ A-
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2543 บริษัท ไทยเรทติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่นเซอร์วิส จำกัด (ทริส) ประกาศทบทวนอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท แอล เอส พี วี จำกัด ที่ระดับ A- คงเดิม ทั้งนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงมูลค่าหลักประกันที่มิได้ลดลงหลังจากการเปิดเสรีอุตสาหกรรมสุรา การเพิ่มเครดิตที่เพียงพอจากหลักประกันเกินมูลหนี้ 100% แม้อยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อธุรกิจ จากบัญชีเงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานล่วงหน้า 3 เดือน และจากเงินกู้ด้อยสิทธิของผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ยังสะท้อนโครงสร้างกฎหมายและการชำระหนี้ที่เกื้อหนุนต่อการจ่ายดอกเบี้ยและชำระคืนเงินต้นตามกำหนด ตลอดจนความแข็งแกร่งทางธุรกิจของกลุ่มแสงโสมภายหลังการเปิดเสรีอุตสาหกรรมสุรา
จากรายงานของทริสระบุว่า บริษัท แอล เอส พี วี จำกัด เป็นบริษัทเฉพาะกิจถือหุ้นโดย บริษัท แสงโสม จำกัด และบริษัทในเครืออีก 6 แห่ง จัดตั้งขึ้นในปี 2541 เพื่อระดมเงินทุนในรูปเงินกู้และหุ้นกู้มีหลักประกันสำหรับนำมาซื้อสุราที่ผลิตไว้เป็นจำนวนมากโดยกลุ่มแสงโสมในช่วงก่อนสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน ในช่วงก่อนหน้านี้ แนวโน้มอัตราการขยายตัวของยอดขายสุราที่วัดจากยอดขายของตัวแทนขายส่งให้แก่ร้านขายปลีกเท่ากับ 2.7% เฉลี่ยต่อปี เพิ่มจาก 34 ล้านเทในปี 2534 เป็น 38 ล้านเทในปี 2539 แต่หลังจากนั้นแนวโน้มยอดขายสุราได้ลดลงเหลือ 32 ล้านเทในปี 2542 จากผลของภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยและการเพิ่มขึ้นของการบริโภคเบียร์ อย่างไรก็ตาม แม้ยอดขายสุราในตลาดจะลดลง แต่จำนวนยอดขายสุราทั้งหมดก็มีเพียงพอที่จะดูดซับจำนวนของสุราที่เป็นหลักประกันของบริษัทได้ทั้งหมด 26.5725 ล้านเท หรือคิดเป็นประมาณ 83% ของยอดขายทั้งหมด
แม้ว่าจะได้เริ่มเปิดเสรีอุตสาหกรรมสุราในปี 2543 แล้ว แต่กลุ่มแสงโสมยังเป็นผู้นำตลาดเหนือคู่แข่งรายอื่นจากข้อได้เปรียบในการมีปริมาณสุราจำนวนมากจนไม่มีความจำเป็นต้องผลิตสุราอีกเกือบ 2 ปี และการที่กลุ่มแสงโสมชนะการประมูลโรงงานสุราของรัฐทั้งหมด 12 แห่งในปี 2542 ตลอดจนการมีประสบการณ์ที่ยาวนานในธุรกิจจนทำให้สามารถพัฒนาและขยายโครงข่ายการจัดจำหน่ายและสร้างฐานลูกค้าที่ซื่อสัตย์ต่อตราสินค้า
ทริสกล่าวว่าจากการทดสอบความเข้มแข็งของมูลค่าหลักประกันของบริษัทภายใต้สมมุติฐานเหตุการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อธุรกิจ ปรากฏว่าค่าประมาณการของมูลค่าหนี้ที่เรียกคืนได้นับว่ายังมีเพียงพอในการจ่ายคืนหนี้ให้ครบจำนวนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยคงค้างในกรณีของการผิดนัดชำระหนี้ ทั้งนี้ ทริสกล่าวว่าอันดับเครดิตของบริษัทบ่งชี้ถึงการจ่ายดอกเบี้ยและการชำระคืนเงินต้นตามข้อกำหนดซึ่งไม่รวมถึงความเสี่ยงของการชำระคืนเงินต้นก่อนกำหนด โดยอยู่ภายใต้การวิเคราะห์ที่คำนึงถึงความเป็นไปได้ในการผิดนัดชำระหนี้และความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นหลังการผิดนัดชำระหนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ