ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 700 ล้านบาทของ บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” พร้อมทั้งยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทคงเดิมที่ระดับ “A-” โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์และความสามารถของคณะผู้บริหารในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงระบบการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตที่เข้มงวดซึ่งทำให้บริษัทสามารถดำรงคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีด้วยแม้ว่าจะมีปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ของลูกหนี้รายใหญ่รายหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตถูกบั่นทอนจากการแข่งขันที่ทวีความรุนแรง ตลอดจนราคารถยนต์มือสองที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยปัจจัยเหล่านี้ยังคงเป็นข้อจำกัดสำคัญที่กดดันความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความคาดหมายว่า บริษัทจะมีสถานะทางการเงินที่ดีขึ้น หลังจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยที่ไม่เอื้ออำนวยจากภาวะตลาดรถยนต์มือสอง รวมถึงราคารถมือสองที่ตกต่ำลง นอกจากนี้ ยังคาดหวังพัฒนาการในการทำกำไรที่ดีขึ้นจากการรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี และการลดผลขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ที่หมดอายุสัญญาเช่า
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตมีข้อจำกัดในระยะสั้นถึงระยะกลาง ในทางกลับกัน อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับผลกระทบในเชิงลบได้หากมีปัจจัยที่ทำให้ระดับผลประกอบการทางการเงินของบริษัทเสื่อมถอยลงอย่างมีนัยสำคัญ อาทิ การลดลงอย่างมีนัยสำคัญของอัตรากำไรขั้นต้นของรายได้ค่าเช่า การลดลงในคุณภาพของสินทรัพย์ และการขยายขนาดของสินทรัพย์ให้เช่าโดยการก่อหนี้เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
บริษัทภัทรลิสซิ่งยังคงรักษาสถานะผู้นำในตลาดเช่าดำเนินงานรถยนต์เอาไว้ได้โดยเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สุดเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ให้เช่าสุทธิของผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้ง 30 รายในฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง บริษัทให้บริการเช่าดำเนินงานและเช่าการเงินแก่ลูกค้านิติบุคคลที่เป็นบริษัทขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ณ สิ้นปี 2557 บริษัทมีสินทรัพย์ให้เช่าสุทธิที่ระดับ 10,111 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระดับ 9,188 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2556 และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 10,164 ล้านบาทในปี 2558 ขณะที่ในปี 2558 ลูกหนี้สินทรัพย์ให้เช่าการเงิน ก็เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1,704 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 1,582 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2557 และระดับ 1,631 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2556 ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสที่สองของปี 2559 ขนาดของสินทรัพย์ให้เช่าโดยรวมทั้งลูกหนี้สินทรัพย์ให้เช่าภายใต้สัญญาเช่าดำเนินงานสุทธิและลูกหนี้สินทรัพย์ให้เช่าการเงินยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับในปี 2558
การมีเครือข่ายบริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศช่วยเพิ่มระดับความสามารถของบริษัทในการให้บริการแก่ลูกค้ารายใหญ่ การพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่ให้ประโยชน์แก่บริษัทจากการประหยัดต่อขนาด แต่ก็ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงสูงจากการกระจุกตัวของฐานลูกค้าทั้งในด้านการผิดนัดชำระหนี้และการพึ่งพิงรายได้จากลูกค้ารายใหญ่ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้บรรเทาลงจากการที่ลูกค้ารายใหญ่มีคุณภาพเครดิตที่ค่อนข้างดี บริษัทมีความพยายามในการกระจายฐานลูกค้าซึ่งสะท้อนจากการเปลี่ยนแปลงการกระจุกตัวของฐานลูกค้ารายใหญ่ทั้ง 20 ราย เมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์ให้เช่าสุทธิภายใต้สัญญาเช่าดำเนินงานและสินเชื่อคงค้างภายใต้สัญญาเช่าการเงินแล้วปรากฏว่าลูกค้ารายใหญ่ 20 รายแรกคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 42% ของสินทรัพย์รวมของบริษัท ณ ไตรมาสแรกของปี 2559 ซึ่งลดลงอย่างมากจาก 56% ในปี 2552 อย่างไรก็ดี ระดับดังกล่าวยังถือว่าเป็นระดับที่มีการกระจุกตัวสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งขัน
หลังจาก บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในปี 2549 แล้ว ตัวแทนของบริษัทเมืองไทยประกันชีวิตซึ่งเข้ามามีบทบาทโดยผ่านช่องทางคณะกรรมการบริษัทก็ได้ให้การสนับสนุนความพยายามในการพัฒนาระบบการจัดการความเสี่ยงของบริษัท ทั้งนี้ ระบบการจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวดมีส่วนช่วยให้บริษัทสามารถควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ได้เมื่อมีการขยายธุรกิจไปสู่สินทรัพย์ประเภทอื่นซึ่งมีความเสี่ยงมากกว่าสินทรัพย์ประเภทรถยนต์ ความพยายามดังกล่าวสะท้อนจากความสามารถในการรักษาระดับอัตราส่วนสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (ค้างชำระเกิน 90 วัน) ต่อสินเชื่อรวมให้อยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ดี จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง คุณภาพของสินทรัพย์เริ่มถดถอยลงในครึ่งแรกของปี 2559 ทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองเผื่อหนี้ที่มีปัญหาจำนวน 77 ล้านบาท เพื่อรองรับปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ดังกล่าว
ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปี 2558 ผลการดำเนินงานของบริษัทได้รับผลกระทบจากการลดลงของราคารถยนต์มือสอง ทั้งนี้ บริษัทมีผลกำไรน้อยลงจากการขายสินทรัพย์ให้เช่า ความต้องการรถยนต์มือสองในปี 2556 ลดต่ำลงมากเนื่องจากนโยบายด้านภาษีสำหรับผู้ซื้อรถยนต์คันแรกของรัฐบาลได้กระตุ้นยอดขายรถยนต์ใหม่ในช่วงปี 2555-2556 ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ราคารถยนต์มือสองตกต่ำลงตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา ราคารถยนต์มือสองตกต่ำที่สุดในปี 2557 แต่การที่ราคาจะฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับปกตินั้นยังไม่แน่นอนและอาจต้องใช้เวลานาน
บริษัทต้องการลดผลกระทบจากราคารถยนต์มือสองที่ลดลงโดยพยายามเลื่อนการจำหน่ายรถยนต์ที่หมดอายุสัญญาเช่าบางส่วนออกไปด้วยการต่ออายุสัญญาเช่า รวมทั้งการนำรถยนต์ที่หมดอายุเช่าดังกล่าวกลับมาให้เช่าระยะสั้นเพื่อเลื่อนเวลาในการจำหน่ายรถยนต์ออกไป นอกจากนี้ บริษัทยังพยายามจำหน่ายรถยนต์ที่หมดอายุสัญญาเช่าโดยผ่านช่องทางการขายปลีกไปสู่ผู้ซื้อโดยตรงด้วย ซึ่งจะได้ราคาที่สูงกว่าช่องทางปกติของบริษัทคือการประมูลขายรถจำนวนมากในคราวเดียว แม้ว่าบริษัทจะพยายามลดผลกระทบดังกล่าวด้วยวิธีต่าง ๆ แล้ว แต่บริษัทก็ยังมีกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้เช่าเพียง 49 ล้านบาทในปี 2556 และมีผลขาดทุนจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้เช่าจำนวน 21 ล้านบาทในปี 2557 และ 16 ล้านบาทในปี 2558 อย่างไรก็ตาม ผลของราคารถยนต์มือสองที่เริ่มดีขึ้น ส่งผลให้บริษัทกลับมามีกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้เช่าอีกครั้งจำนวน 24 ล้านบาทในครึ่งแรกของปี 2559
บริษัทมีกำไรสุทธิลดลงจาก 205 ล้านบาท ในปี 2556 มาอยู่ที่ 140 ล้านบาทในปี 2557 เป็นผลมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง และขาดทุนจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้เช่าที่หมดอายุสัญญาเช่า ในปี 2558 บริษัทยังคงขาดทุนจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้เช่าที่หมดอายุสัญญาเช่า แต่จากต้นทุนทางการเงินที่ลดลงและการเพิ่มทุนช่วยลดต้นทุนดอกเบี้ยจ่าย ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 171 ล้านบาท สำหรับครึ่งแรกของปี 2559 บริษัทมีกำไรสุทธิ 92 ล้านบาท ใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 93 ล้านบาท แม้ว่าในงวดครึ่งปีแรกนี้จะมีการตั้งสำรองเผื่อหนี้ที่มีปัญหาในจำนวนมาก แต่กำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้เช่า และสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากที่บริษัทได้รับจากการลงทุนซื้อสินทรัพย์ให้เช่าใหม่ช่วยทำให้กำไรในงวดครึ่งแรกของ ปี 2559 ดีขึ้น
ในเดือนมิถุนายน 2558 บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนใหม่อีกจำนวน 447 ล้านบาทโดยการขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิม การเพิ่มทุนดังกล่าวส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทอยู่ต่ำกว่าระดับ 4 เท่า โดยลดลงจากระดับ 5 เท่า ณ สิ้นปี 2557 เงินทุนใหม่ดังกล่าวช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจของบริษัทต่อไป
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 ? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2559 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html