ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและแนวโน้ม “กรุงเทพมหานคร” ที่ “AA+/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 10, 2016 16:30 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของกรุงเทพมหานครที่ระดับ “AA+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงสถานภาพของเขตกรุงเทพมหานครในฐานะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย ทั้งนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงแหล่งรายได้ที่แน่นอนของกรุงเทพมหานครที่มาจากภาษีอากร รวมทั้งการบริหารงบประมาณภายใต้นโยบายงบประมาณแบบสมดุล และฐานะการเงินที่แข็งแกร่งจากการมีภาระหนี้สินในระดับต่ำและการดำรงเงินสะสมในระดับสูงด้วย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสนับสนุนดังกล่าวลดทอนลงจากความต้องการในการลงทุนเป็นอย่างมากในโครงการด้านสาธารณูปโภคและระบบขนส่งมวลชน ตลอดจนภาระค่าใช้จ่ายในระดับสูงจากการดำเนินงานของกรุงเทพมหานครเองและจากภารกิจที่รับโอนจากรัฐบาลในขณะที่กรุงเทพมหานครมีข้อจำกัดในการจัดหาแหล่งรายได้เพิ่ม นอกจากนี้ ยังมีประเด็นอื่น ๆ ที่อาจกระทบต่อสถานะอันดับเครดิตของกรุงเทพมหานครซึ่งจะต้องติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดด้วย ได้แก่ การนำเสนองบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบภายในกรอบเวลาที่เหมาะสม แผนการลงทุนและการจัดหาเงินทุน และการพัฒนากรอบวินัยในการบริหารหนี้ให้เป็นรูปธรรม เป็นต้น

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการมีแหล่งรายได้ที่แน่นอนและนโยบายการบริหารงบประมาณแบบสมดุลของกรุงเทพมหานคร ทริสเรทติ้งคาดว่ากรุงเทพมหานครจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกลางอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ อันดับเครดิตของกรุงเทพมหานครอาจได้รับการปรับเพิ่มหากกรุงเทพมหานครมีแผนการลงทุนและการบริหารการเงินที่ชัดเจน รวมทั้งมีสภาพคล่องที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และมีการเปิดเผยงบการเงินที่ตรวจสอบแล้วภายในเวลาที่เหมาะสม ในทางตรงข้าม การปรับลดอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นหากกรุงเทพมหานครมีดุลการคลังขาดดุลอย่างต่อเนื่อง หรือมีการลงทุนที่ก่อให้เกิดภาระการชำระหนี้ที่เกินกำลังความสามารถ

กรุงเทพมหานครมีฐานะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งมีหน้าที่บริหารราชการและบริหารจัดการกิจการสาธารณูปโภคเพื่อให้บริการแก่ผู้อยู่อาศัยและผู้ประกอบกิจการในเขตกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของประเทศไทย ในปี 2557 กรุงเทพมหานครมีผลิตภัณฑ์มวลรวมรายจังหวัด (Gross Provincial Product – GPP) สูงที่สุดในประเทศ ด้วยมูลค่า 4.13 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 31.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product – GDP) ในด้านการเงินการคลังนั้น กรุงเทพมหานครมีรายได้หลักมาจากภาษีอากร โดยเป็นภาษีอากรที่กรุงเทพมหานครจัดเก็บเองและภาษีอากรที่ส่วนราชการอื่นจัดเก็บให้ ทั้งนี้ ภาษีอากรนับว่าเป็นแหล่งรายได้ที่มีความแน่นอนสูงแม้จะมีความผันผวนอยู่บ้างตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศและนโยบายของรัฐบาลกลาง

ในปีงบประมาณ 2558 กรุงเทพมหานครจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น 4% ที่ระดับ 69,248 ล้านบาท ตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ ทั้งนี้ รายได้ภาษีอากรที่กรุงเทพมหานครจัดเก็บเองคิดเป็น 18% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่ง 92% มาจากภาษีโรงเรือนและที่ดิน ในขณะที่ภาษีที่ส่วนราชการอื่นจัดเก็บให้คิดเป็น 77% ของรายได้ทั้งหมด โดยมีสัดส่วนที่มาจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีหรือค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และภาษีและค่าธรรมเนียมรถยนต์หรือล้อเลื่อนคิดเป็นประมาณ 46% 22% และ 20% ตามลำดับ ในขณะที่ปีงบประมาณ 2558 กรุงเทพมหานครมีค่าใช้จ่ายรวม 64,509 ล้านบาท หรือลดลง 6.5% จากปีที่ผ่านมา ส่งผลให้กรุงเทพมหานครมีดุลการคลังเกินดุลจำนวน 4,739 ล้านบาท และมีอัตราส่วนดุลการคลังต่อรายได้อยู่ที่ 6.84% ในปีงบประมาณ 2558 ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากระดับ -3.65% ในปีงบประมาณ 2557 กรุงเทพมหานครมีค่าใช้จ่ายดำเนินการคิดเป็นสัดส่วน 77% ของรายจ่ายรวมทั้งหมดในปีงบประมาณ 2558 ส่วนที่เหลือเป็นงบลงทุน ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายดำเนินการของกรุงเทพมหานครลดลง 7.1% หรือที่ระดับ 49,682 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายดำเนินการที่ลดลงจะทำให้กรุงเทพมหานครมีงบลงทุนเพิ่มมากขึ้นและเพิ่มความสามารถในการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคอื่น ๆ ทั้งนี้ ณ สิ้นปีงบประมาณ 2558 เงินสะสมของกรุงเทพมหานครอยู่ที่ระดับ 13,040 ล้านบาทซึ่งจะช่วยเสริมสภาพคล่องในการดำเนินงาน เนื่องจากกรุงเทพมหานครไม่ได้บันทึกรายได้และรายจ่ายทั้งหมดของโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร (BTS) ส่วนต่อขยายไว้ในรายงานการรับ-จ่ายเงินประจำปีของกรุงเทพมหานครที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้น รายงานการรับ-จ่ายเงินของกรุงเทพมหานครจึงต่ำกว่าความเป็นจริง

สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 กรุงเทพมหานครสามารถจัดเก็บรายได้จำนวน 53,184 ล้านบาท หรือลดลง 1.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเนื่องจากการลดลงของภาษีหรือค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งนี้ เมื่อถึงสิ้นปีงบประมาณ กรุงเทพมหานครคาดว่าจะมีรายได้ทั้งหมดประมาณ 70,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้กรุงเทพมหานครมีดุลการคลังสมดุลเมื่อเทียบกับงบประมาณรายจ่ายประมาณ 70,000 ล้านบาท ในช่วงปีงบประมาณ 3 ปีข้างหน้าทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของกรุงเทพมหานครจะเพิ่มขึ้นในระดับปานกลางตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ

ภาระหนี้ของกรุงเทพมหานครลดลงเล็กน้อยจากระดับ 12,176 ล้านบาท ณ สิ้นปีงบประมาณ 2557 เป็น 12,090 ล้านบาท ณ สิ้นปีงบประมาณ 2558 ภาระหนี้สินส่วนใหญ่ของกรุงเทพมหานครประกอบไปด้วย (1) เงินกู้ของบริษัทลูกคือ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เพื่อใช้ในการลงทุนก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายสีลม (ตากสิน-เพชรเกษม) (2) มูลค่าปัจจุบันของค่าจัดหาขบวนรถไฟฟ้าภายใต้สัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงของโครงการรถไฟฟ้า BTS และ (3) มูลค่าปัจจุบันของค่าเช่ารายปีจากสัญญาเช่ารถยนต์และรถเก็บขยะมูลฝอย ทั้งนี้ ในระหว่างปีงบประมาณ 2556-2558 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อรายได้ของกรุงเทพมหานครอยู่ที่ระดับประมาณ 18%

ในปี 2559 กรุงเทพมหานครได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในการมอบหมายให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้ให้บริหารจัดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ โดยปัจจุบัน รฟม. เป็นผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างทั้ง 2 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 60,000 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี 2560 และ 2563 ตามลำดับ ซึ่งกรุงเทพมหานครจะรับโอนโครงการเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครยังต้องลงทุนในการติดตั้งระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) สำหรับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายทั้ง 2 โครงการอีกคิดเป็นมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยกรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้บริษัทกรุงเทพธนาคมเป็นผู้บริหารจัดการเดินรถสำหรับโครงการดังกล่าว นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังอยู่ในระหว่างการศึกษาแนวทางการก่อสร้างรถไฟฟ้าต่าง ๆ ซึ่งเป็นโครงการที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากด้วย ทริสเรทติ้งจะติดตามความคืบหน้าของโครงการต่าง ๆ และแนวทางการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อประเมินผลกระทบต่ออันดับเครดิตของกรุงเทพมหานครอย่างใกล้ชิดต่อไป ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดหวังว่ากรุงเทพมหานครจะพิจารณาการลงทุนต่าง ๆ อย่างรอบคอบและมีการจัดทำกรอบวินัยในการบริหารหนี้ รวมถึงการชำระคืนเงินกู้อย่างเหมาะสม

ในการพิจารณาภาระการชำระหนี้รายปีของกรุงเทพมหานครนั้น ทริสเรทติ้งจะพิจารณาถึงภาระหนี้ที่ต้องจ่ายของกรุงเทพมหานครรวมทั้งภาระหนี้จากสัญญาจัดจ้างระยะยาวต่าง ๆ เช่น ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายและรถเมล์ BRT ค่าเช่ารถยนต์และรถเก็บขยะมูลฝอย และการชำระคืนเงินกู้ยืมของบริษัทกรุงเทพธนาคม โดยอัตราส่วนภาระการชำระหนี้ต่อรายได้ของกรุงเทพมหานครอยู่ที่ระดับ 6.3% ในระหว่างปีงบประมาณ 2557-2558 ทั้งนี้ คาดว่าอัตราส่วนภาระการชำระหนี้ต่อรายได้ของกรุงเทพมหานครจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 3 ปีข้างหน้าหากบริษัทกรุงเทพธนาคมมีการกู้เงินเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการลงทุน

กรุงเทพมหานคร (BMA)
อันดับเครดิตองค์กร: AA+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2559 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ