ทริสเป็นเจ้าภาพจัดประชุมอาฟคราประจำปี 2543
สมาชิกอาฟครากังวลปัญหา "ช้อปปิ้งอันดับเครดิต" เมื่อมีคู่แข่งเพิ่มขึ้น
ทริสรับบทเลขาธิการสมาคมจัดอันดับเครดิตอาเซียน จัดประชุมประจำปี 2543 ปลายปีนี้ที่กรุงเทพฯ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้สถาบันจัดอันดับเครดิตอาเซียน พร้อมเตรียมรับสมาชิกเพิ่มจากฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เผยที่ประชุมสมาชิกถกปัญหาเรื่องการจัดตั้งสถาบันจัดอันดับเครดิตแห่งใหม่มักจะนำไปสู่การแข่งขันที่รุนแรงจนลูกค้าใช้วิธี "ช้อปปิ้ง" เพื่อหาอันดับเครดิตที่ดีที่สุด ซึ่งไม่เป็นผลดีแก่นักลงทุน
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2543 ดร. วรภัทร โตธนะเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเรทติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่นเซอร์วิส จำกัด (ทริส) แถลงว่า จากการประชุมประจำปี 2542 ของสมาคมจัดอันดับเครดิตอาเซียน หรือ อาฟครา (ASEAN Forum of Credit Rating Agencies - AFCRA) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมาที่ประเทศฟิลิปปินส์นั้น ที่ประชุมได้มอบหมายให้ทริสทำหน้าที่เลขาธิการอาฟคราเพื่อเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปี 2543 ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่กรุงเทพฯ และเนื่องจากในปัจจุบันสมาชิก 3 ประเทศ คือ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ต่างก็มีสถาบันจัดอันดับเครดิตแห่งที่สองเกิดขึ้น ทริสจึงจะทำหน้าที่เชิญชวนสถาบันเหล่านั้นเข้าเป็นสมาชิกอาฟคราและร่วมประชุมที่กรุงเทพฯ ด้วย
ในการประชุมที่กรุงมะนิลา สมาชิกก่อตั้งอาฟคราซึ่งได้แก่ ทริสจากประเทศไทย PEFINDO จากอินโดนีเซีย RAM จากมาเลเซีย และ PhilRating จากฟิลิปปินส์ ได้หารือประเด็นต่างๆ ที่จะก่อให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพสถาบันจัดอันดับเครดิตของประเทศสมาชิกอาเซียน อาทิ การทบทวนภารกิจและเป้าหมายของอาฟครา การพิจารณาภาวะการแข่งขันในประเทศสมาชิก และได้กำหนดจัดการอบรมทักษะนักวิเคราะห์ของประเทศสมาชิกประจำปี 2543 ในเรื่องเกี่ยวกับการจัดอันดับตราสาร Securitization ระยะเวลา 3 วัน ที่ประเทศมาเลเซียในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยวิทยากรจะเป็นผู้เชี่ยวชาญจากประเทศออสเตรเลีย นอกจากนี้ อาฟคราจะหารืออีกครั้งที่กรุงเทพฯ ในการสร้าง Website ร่วมกันเพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศของสมาชิก อันจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการ
กรรมการผู้จัดการทริสกล่าวว่าที่ประชุมอาฟราได้แสดงความกังวลจากการที่สถาบันจัดอันดับเครดิตที่เปิดใหม่บางแห่งทั้งในประเทศสมาชิกอาฟคราและประเทศอื่นในเอเซียพยายามแข่งขันกับสถาบันจัดอันดับเครดิตที่มีอยู่เดิมโดยการแย่งตัวบุคลากร การตัดราคาค่าบริการ ตลอดจนการให้อันดับเครดิตที่ดีกว่า ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และได้นำไปสู่การ "ช้อปปิ้งอันดับเครดิต" (Rating Shopping) ของผู้ออกตราสาร ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อนักลงทุนและการพัฒนาตลาดทุน ดร. วรภัทรกล่าวว่า ตนเองเห็นด้วยกับการมีสถาบันจัดอันดับเครดิตแห่งที่สองในประเทศไทยและต้องการให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อจะได้เกิดการแข่งขันในด้านคุณภาพและเป็นทางเลือกแก่ผู้ออกตราสาร แต่ก็มีความกังวลใจในเรื่องการ "ช้อปปิ้งอันดับเครดิต" อยู่บ้าง เพราะได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวมาแล้วในหลายประเทศ อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่า ตนเองมีความตั้งใจที่จะรักษามาตรฐานการจัดอันดับเครดิตของทริสให้มีคุณภาพสูงสุด และจะไม่ยอมหย่อนมาตรฐานเพียงเพื่อให้ได้ธุรกิจเป็นอันขาด ซึ่งแม้นโยบายนี้จะเป็นผลดีต่อนักลงทุน แต่ก็มีความเสี่ยงอย่างยิ่งต่อการสูญเสียธุรกิจของทริสเพราะผู้ออกตราสารย่อมประสงค์อันดับเครดิตที่ดีกว่า และเลือกใช้บริการของสถาบันที่ให้อันดับที่ดีกว่า ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง ทริสก็อาจต้องยอมสูญเสียลูกค้าเพื่อดำรงไว้ซึ่งหลักการขององค์กรซึ่งตนเรียกว่า "Integrity Without Compromise"
ทริสเป็นสถาบันจัดอันดับเพียงแห่งเดียวของไทย จัดตั้งเมื่อปี 2536 โดยมีกระทรวงการคลังและกลุ่มธุรกิจต่างๆ ถือหุ้นรายละไม่เกิน 5% และปัจจุบันกำลังมีลูกค้าขอจัดอันดับเครดิตเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากตลาดตราสารหนี้ของประเทศกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว