ทริสทบทวนอันดับเครดิตหุ้นกู้ บริษัทผลิตไฟฟ้าขนอม "A+"

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 1, 2000 09:28 —ทริส เรตติ้ง

ทริสทบทวนอันดับเครดิตหุ้นกู้ บริษัทผลิตไฟฟ้าขนอม "A+"
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2543 บริษัท ไทยเรทติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่นเซอร์วิส จำกัด (ทริส) ได้ประกาศผลทบทวนอันดับเครดิตหุ้นกู้มีประกัน 7,500 ล้านบาท กำหนดไถ่ถอนปี 2554 ของบริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด หรือ เค็กโก้ ที่ระดับ "A+" ภายใต้ระบบ National Scale ซึ่งทริสนำมาใช้ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2543 เป็นต้นไป โดยเครดิตสูงสุดขององค์กรและตราสารหนี้ที่เป็นสกุลเงินบาทภายในประเทศของระบบการจัดอันดับเครดิตดังกล่าวจะอยู่ที่ระดับ "AAA "
ทริสกล่าวว่าผลอันดับเครดิตของเค็กโก้สืบเนื่องมาจากปัจจัยพื้นฐานของโครงการที่แข็งแกร่ง ความสำคัญของบริษัทในฐานะที่เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าหลักสำหรับภาคใต้ และผู้บริหารที่มีความเป็นมืออาชีพ ทว่าจุดเด่นเหล่านี้ถูกลดทอนด้วยความเสี่ยงทางการเงินจากการใช้เงินกู้ยืมในระดับสูง และความไม่แน่นอนเรื่องการแปรรูปอุตสาหกรรมไฟฟ้าในอนาคต นอกจากนี้ ทริสยังระบุว่าสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และเค็กโก้มีการออกแบบที่ดี อายุสัญญาที่นานถึง 15-20 ปีช่วยลดความเสี่ยงทางการตลาดของเค็กโก้ ทั้งในแง่ของความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงราคาค่าไฟฟ้าและความต้องการใช้ไฟที่ลดลง รายได้ค่าไฟฟ้าส่วนใหญ่ซึ่งมาจากการดำรงความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าเป็นสิ่งช่วยลดความเสี่ยงจากความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ลดลง ในขณะที่โครงสร้างราคาค่าไฟฟ้าที่ประกอบด้วยต้นทุนบวกกำไรช่วยลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงราคาค่าไฟ อันดับเครดิตยังแสดงถึงความเกื้อหนุนจาก กฟผ. ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเค็กโก้ เนื่องจาก กฟผ. เป็นผู้ซื้อไฟฟ้าเพียงรายเดียวของเค็กโก้ ดังนั้นฐานะทางการเงินและเครดิตของ กฟผ. จึงมีผลกระทบอย่างมากต่อความสามารถในการชำระหนี้ของเค็กโก้ ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างกิจการไฟฟ้าและการจัดตั้งตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนต่อสถานภาพของ กฟผ. ในอนาคต รวมทั้งต่อการสนับสนุนของภาครัฐในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่ กฟผ. ทำไว้กับผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน
โครงการโรงไฟฟ้าขนอมมูลค่า 20,413 ล้านบาท ได้ถูกซื้อต่อจาก กฟผ. ในปี 2539 โดยมีโครงสร้างเงินทุนที่มาจากหนี้สินประมาณ 76% ของเงินลงทุนทั้งหมด โรงไฟฟ้าขนอมมีกำลังการผลิตติดตั้งทั้งสิ้น 824 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังความร้อนบนเรือ 2 ชุด (ชุดที่ 1 และ 2) และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (ชุดที่ 3) ความได้เปรียบทางการแข่งขันของโครงการมาจากที่ตั้งของโรงไฟฟ้าที่อยู่ในพื้นที่ที่มีการเติบโตในการใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง และการเป็นแหล่งผลิตหลักซึ่งครอบคลุมประมาณ 72% ของความต้องการไฟฟ้าในเขตภาคใต้ การเดินเครื่องโรงไฟฟ้าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาสามารถบรรลุเป้าหมายที่ระบุไว้ในสัญญาการซื้อขายไฟฟ้าทั้งในแง่ของความพร้อมจ่ายและอัตราความร้อน เทคโนโลยีที่ทันสมัยประกอบกับบุคคลากรที่มีความเชี่ยวชาญช่วยลดความเสี่ยงทางด้านเทคโนโลยีและความเสี่ยงจากการดำเนินงาน ภาระความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาเชื้อเพลิงจะถูกส่งผ่านไปยังผู้ซื้อไฟฟ้าผ่านทางค่าพลังงานไฟฟ้า
เนื่องจากเป็นโครงการที่ไม่สามารถไล่เบี้ยกับบริษัทแม่ได้ ดังนั้นความสามารถในการชำระหนี้ของเค็กโก้จึงขึ้นอยู่กับกระแสเงินสดของโครงการเท่านั้น สัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่เอื้อประโยชน์ระหว่างเค็กโก้และ กฟผ. ก่อให้เกิดกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอและแน่นอน ส่งผลให้โครงการมีความสามารถในการชำระหนี้ในระดับที่น่าพอใจ กฎเกณฑ์ที่รัดกุมในเรื่องการกันสำรองเงินเพื่อใช้ชำระหนี้ช่วยปกป้องการใช้จ่ายเงินที่ไม่เหมาะสมจากกระแสเงินสดของโครงการ การแก้ไขสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้มีโครงสร้างการชดเชยในค่าพร้อมจ่ายพลังไฟฟ้าในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศส่วนที่เกิน 28 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ ตลอดจนโครงสร้างการให้ส่วนเพิ่ม 2.61% สำหรับเงินกู้สกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐที่มิได้ป้องกันความเสี่ยงเอาไว้ ช่วยลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของบริษัท ณ เดือนธันวาคม 2542 อัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ (ไม่รวมบัญชีสำรองและเงินสด) ของเค็กโก้อยู่ที่ 1.27 เท่า ต่ำกว่าในปี 2540 และ 2541 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.33 และ 1.49 เท่าตามลำดับ ทั้งนี้เป็นเพราะเค็กโก้ได้เร่งกันสำรองบัญชีสำรองสำหรับอัตราแลกเปลี่ยนอีก 688 ล้านบาทจนเต็มจำนวนตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเงินกู้ อย่างไรก็ดี หากรวมบัญชีสำรองต่างๆ เข้าด้วยแล้ว อัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ในปี 2542 ของเค็กโก้จะอยู่ที่ 2.43 เท่า ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2541 ที่มีค่า 2.39 เท่า
**********************

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ