บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทหลักทรัพย์ เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด เป็น "A" จาก "A-" และจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ "A-" พร้อมแนวโน้ม "Stable" หรือ "คงที่" อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนความสามารถของคณะผู้บริหารและความสามารถของบริษัทในการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดตลอดจนสินเชื่อสำหรับนักลงทุนเพื่อซื้อหลักทรัพย์ภายใต้ระบบเครดิตบาลานซ์ การบริหารสินทรัพย์ที่ดี และสภาพคล่องของบริษัทที่เพียงพอ รวมทั้งยังสะท้อนแนวโน้มที่ดีของตลาดหลักทรัพย์ในระยะปานกลางซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตของบริษัท อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนลงบางส่วนจากความผันผวนในระดับสูงของตลาดหลักทรัพย์และการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ซึ่งทำให้โครงสร้างเงินทุนของบริษัทอ่อนแอลงในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่บริษัทจะสามารถดำรงความเป็นผู้นำในธุรกิจการให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เอาไว้ได้ และยังคาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาโครงสร้างเงินทุนให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ในขณะที่ยังคงขยายสินเชื่อต่อไป และประการสำคัญที่สุด คาดว่าสินทรัพย์ของบริษัทจะมีคุณภาพดีต่อไปด้วยการคงนโยบายด้านสินเชื่อและการลงทุนที่ระมัดระวัง นอกจากนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตยังอยู่บนสมมติฐานที่ภาวะตลาดหลักทรัพย์ยังคงมีแนวโน้มที่ดีในระยะปานกลางแม้จะมีความผันผวนก็ตาม
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บล. เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์เป็นผู้ประกอบการรายเดียวที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการให้สินเชื่อเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ และเป็นผู้นำในธุรกิจการให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากความต้องการสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 22% ในปี 2546 และเพิ่มเป็น 32% ในปี 2547 จากการขยายเงินให้กู้ยืมในระดับสูง ทั้งนี้ แม้จะมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่บริษัทก็ยังคงมีสินทรัพย์ที่มีคุณภาพดีอันเป็นผลมาจากการบริหารสินทรัพย์ที่ดี เงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทได้รับการจัดชั้นปกติ ในขณะที่เงินลงทุนของบริษัทส่วนใหญ่อยู่ในรูปของตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนที่มีอันดับเครดิตในระดับลงทุนได้
บริษัทมีสภาพคล่องที่เพียงพอ โดยได้รับวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินหลายแห่ง นอกจากนี้ บริษัทยังพิจารณาที่จะออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิระยะยาวในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาทเพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ด้วย บริษัทมีผลกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2541 อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรได้ลดลงในปี 2547 จากการที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิและอัตราส่วนผลตอบแทนจากสินทรัพย์ลดลง บริษัทได้เริ่มดำเนินธุรกิจอื่นซึ่งรวมถึงการค้ำประกันกองทุนรวม ตลอดจนการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการสร้างรายได้ที่มากพอจากธุรกิจใหม่เหล่านี้ยังต้องพิสูจน์ต่อไป บริษัทมีเงินทุนที่ยังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้และเพียงพอสำหรับการขยายธุรกิจในระดับปกติต่อไปแม้ว่าโครงสร้างเงินทุนจะอ่อนแอลงจากการขยายตัวของสินทรัพย์ในระดับสูงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หากสินทรัพย์ยังคงขยายตัวอย่างรวดเร็วต่อไปก็อาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทได้ ทริสเรทติ้งกล่าว -- จบ
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บล. เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์เป็นผู้ประกอบการรายเดียวที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการให้สินเชื่อเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ และเป็นผู้นำในธุรกิจการให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากความต้องการสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 22% ในปี 2546 และเพิ่มเป็น 32% ในปี 2547 จากการขยายเงินให้กู้ยืมในระดับสูง ทั้งนี้ แม้จะมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่บริษัทก็ยังคงมีสินทรัพย์ที่มีคุณภาพดีอันเป็นผลมาจากการบริหารสินทรัพย์ที่ดี เงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทได้รับการจัดชั้นปกติ ในขณะที่เงินลงทุนของบริษัทส่วนใหญ่อยู่ในรูปของตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนที่มีอันดับเครดิตในระดับลงทุนได้
บริษัทมีสภาพคล่องที่เพียงพอ โดยได้รับวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินหลายแห่ง นอกจากนี้ บริษัทยังพิจารณาที่จะออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิระยะยาวในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาทเพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ด้วย บริษัทมีผลกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2541 อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรได้ลดลงในปี 2547 จากการที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิและอัตราส่วนผลตอบแทนจากสินทรัพย์ลดลง บริษัทได้เริ่มดำเนินธุรกิจอื่นซึ่งรวมถึงการค้ำประกันกองทุนรวม ตลอดจนการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการสร้างรายได้ที่มากพอจากธุรกิจใหม่เหล่านี้ยังต้องพิสูจน์ต่อไป บริษัทมีเงินทุนที่ยังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้และเพียงพอสำหรับการขยายธุรกิจในระดับปกติต่อไปแม้ว่าโครงสร้างเงินทุนจะอ่อนแอลงจากการขยายตัวของสินทรัพย์ในระดับสูงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หากสินทรัพย์ยังคงขยายตัวอย่างรวดเร็วต่อไปก็อาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทได้ ทริสเรทติ้งกล่าว -- จบ