ผู้ประกอบการที่อยู่อาศัย

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 8, 2017 13:00 —ทริส เรตติ้ง

ความต้องการที่อยู่อาศัยเติบโตเล็กน้อยท่ามกลางปัจจัยลบที่ยังคงอยู่ โดยผู้ประกอบการน่าจะปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาดได้

ทริสเรทติ้งยังคงแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” สำหรับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ แม้ว่าปัจจัยลบเดิมๆจะยังคงอยู่ แต่ทริสเรทติ้งก็คาดว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะสามารถปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอยู่ในปัจจุบันได้ ความต้องการที่อยู่อาศัยในปี 2560 คาดว่าจะทรงตัวหรือเติบโตเล็กน้อยจากปี 2559 ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อให้แก่กลุ่มลูกค้าผู้ซื้อบ้าน เนื่องจากยังมีความกังวลเกี่ยวกับภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าสัดส่วนของหนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product --GDP) น่าจะไม่ปรับเพิ่มมากขึ้นไปกว่านี้ ส่วนอัตราดอกเบี้ยนั้นก็ไม่น่าปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ สำหรับสิ่งที่น่าเป็นกังวลสำหรับปีนี้คือ จำนวนที่อยู่อาศัยพร้อมขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียมราคาต่ำ
ณ สิ้นปี 2559 จากข้อมูลของ Agency for Real Estate Affairs (AREA) ระบุว่า จำนวนที่อยู่อาศัยพร้อมขายในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลอยู่ที่ 184,329 ยูนิต โดยเป็นสัดส่วนของบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์เฮ้าส์อย่างละเท่ากันที่ 30% และคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 38% คอนโดมิเนียมพร้อมขายอยู่ที่ประมาณ 70,000 ยูนิต ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนสูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 โดยประมาณ 70% ของคอนโดมิเนียมที่ยังเหลือขายอยู่ในกลุ่มราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทต่อยูนิต ทั้งนี้ จากอัตราการขายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปีถึงจะระบายจำนวนที่อยู่อาศัยที่เหลืออยู่ได้ทั้งหมด กลุ่มผู้ประกอบการอาจต้องลดราคาขายหรือให้สิทธิประโยชน์มากขึ้นแก่กลุ่มลูกค้า ซึ่งมาตรการกระตุ้นยอดขายเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรของผู้ประกอบการที่เน้นลูกค้ากลุ่มนี้
ปัจจุบันผู้ประกอบการหลายรายเริ่มตระหนักถึงจำนวนอุปทานส่วนเกินในกลุ่มคอนโดมิเนียมระดับราคาต่ำ และได้มีการปรับปรุงสินค้าของตนโดยหันไปเน้นขายบ้านหรือที่อยู่อาศัยที่มีราคาสูงขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากอุปทานที่อยู่อาศัยในตลาดระดับบนมีความอ่อนไหวต่อผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่น้อยกว่า ผู้ประกอบการบางรายยังมีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าที่สร้างรายได้สม่ำเสมออีกด้วย นอกจากนี้ ผู้ประกอบการหลายรายยังหันไปเน้นกลุ่มลูกค้าและนักลงทุนต่างชาติเพื่อชดเชยกับความต้องการในประเทศที่ชะลอตัว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ยังคงมีการเติบโตของรายได้ที่สม่ำเสมอต่อไปได้
ปัจจุบัน ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตให้แก่ผู้ประกอบการในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งสิ้น 20 ราย โดยรายได้รวมของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น 4% ในปี 2559 เนื่องจากมาตรการกระตุ้นภาษีของภาครัฐที่ออกมาในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 และสิ้นสุดมาตรการในเดือนเมษายน 2559 ในปี 2559 ยอดขายของผู้ประกอบการที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตทั้ง 20 รายอยู่ที่ประมาณ 246,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2558 แม้ว่ามูลค่าโครงการเปิดใหม่จะลดลงประมาณ 12% เมื่อเทียบกับปี 2558 ก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรของผู้ประกอบการดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนโดยเฉลี่ยปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย มูลค่าโครงการเปิดใหม่ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีโครงการใหม่หลายโครงการที่เลื่อนการเปิดตัวมาจากปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม จำนวนหน่วยของที่อยู่อาศัยที่เปิดใหม่อาจจะไม่เพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้ประกอบการน่าจะเน้นขายสินค้าที่มีราคาสูงกว่าเพราะอุปสงค์ของสินค้าในกลุ่มนี้ยังคงดีอยู่

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ