ทริสประเมินผลกระทบจากวินาศกรรมในสหรัฐอเมริกา และการรบในอาฟกานิสถานต่อภาวะเศรษฐกิจไทยโดยรวม และต่อธุรกิจที่ทริสจัดอันดับเครดิตบางส่วน พบว่าในระยะสั้น ปัจจัยทางเศรษฐกิจของไทยได้รับผลกระทบรุนแรงน้อยกว่าสหรัฐอเมริกาและบางประเทศ แต่คาดว่าจะเห็นผลชัดเจนขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้และต้นปีหน้า ส่วนผลต่ออันดับเครดิตนั้นในปัจจุบันยังไม่มีการปรับเปลี่ยน แต่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดต่อไปเพราะหากการสู้รบยืดเยื้อและภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกถดถอยต่อเนื่อง ก็อาจมีผลต่อธุรกิจในประเทศมากขึ้น ซึ่งจะต้องดูจากผลประกอบการ ณ สิ้นปีต่อไป
ดร. วรภัทร โตธนะเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเรทติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่นเซอร์วิส จำกัด (ทริส) แถลงผลกระทบในรอบ 2 เดือนจากการก่อวินาศกรรมในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 จนส่งผลให้เกิดการรบในประเทศอาฟกานิสถาน โดยได้ประเมินผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจไทยในภาพรวมและอันดับเครดิตของธุรกิจที่จัดอันดับเครดิตกับทริสและเห็นว่า ผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจไทยโดยตรงยังไม่รุนแรงเมื่อเปรียบเทียบกับบางประเทศในเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก การขนส่งระหว่างประเทศ และการท่องเที่ยว โดยทริสคาดว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้อาจจะไม่มีการขยายตัวหรืออาจหดตัวลง และมีความเป็นไปได้ว่าอัตราการเติบโตโดยรวมของประเทศในปีนี้จะขยายตัวไม่เกิน 1.3% ในขณะที่การส่งออกจะลดลงจากปีที่แล้วประมาณ 8% ส่วนภาคสถาบันการเงินนั้นยังไม่เห็นผลกระทบในระยะสั้น แต่เชื่อว่าในระยะต่อไปสถาบันการเงินจะได้รับผลกระทบมากขึ้นเนื่องจากความล่าช้าในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และความถดถอยของภาคส่งออกที่อาจส่งผลให้สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นและทำให้มูลค่าหลักประกันลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุที่อาจทำให้สถาบันการเงินบางแห่งจำเป็นต้องเพิ่มทุนในปีหน้าเพื่อรองรับความเสี่ยง ทั้งนี้ ทริสคาดว่าสถาบันการเงินไทยจะมีสัดส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในปีนี้ระหว่าง 10%-13% ของยอดเงินกู้ของสถาบันการเงินทั้งหมด
ในส่วนของธุรกิจที่ทริสจัดอันดับเครดิตนั้น กรรมการผู้จัดการทริสกล่าวว่าทริสได้แบ่งกลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์วันที่ 11 กันยายน 2544 และการรบในอาฟกานิสถานไว้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ ดังนี้
1) กลุ่มที่ได้รับผลกระทบทันที ได้แก่ กลุ่มปิโตรเคมี เช่น พีวีซี เนื่องจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบนำเข้า และราคาพีวีซีที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ตั้งแต่ต้นปี เหตุวินาศกรรมที่เกิดขึ้นและความไม่สงบระหว่างประเทศทำให้วัตถุดิบที่ใช้ผลิตพีวีซีขาดแคลน กลุ่มธุรกิจที่เน้นการส่งออก เช่น กุ้ง ที่ได้รับผลกระทบจากความต้องการจากต่างประเทศที่ลดลง และ กลุ่มบริการด้านการบิน ที่จะได้รับผลกระทบจากความต้องการเดินทางและขนส่งทางอากาศที่ลดลง
2) กลุ่มที่ได้รับผลกระทบในระดับปานกลาง ได้แก่ บริษัทเงินทุน และธนาคาร ซึ่งมีปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่แล้ว และผลจากการก่อวินาศกรรมจะกระทบต่อลูกหนี้ที่เป็นผู้ส่งออกและลูกหนี้ที่พึ่งพิงรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งอาจมีผลในระยะปานกลางที่จะทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มยิ่งขึ้น กลุ่มเช่าซื้อรถยนต์ อาจได้รับผลกระทบจากความต้องการรถยนต์ของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง จากเดิมที่มีทิศทางการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงอยู่แล้ว กลุ่มพัฒนาพื้นที่ค้าปลีก ที่มีผลประกอบการดีมาโดยตลอดตั้งแต่ต้นปี แต่เหตุวินาศกรรมและความตกต่ำของเศรษฐกิจอาจทำให้ความสามารถในการใช้จ่ายของประชาชนลดลง และ กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ ที่มีรายได้จากการขายโฆษณาที่ต่ำกว่าคาดตั้งแต่ต้นปี แม้ว่ายอดจำหน่ายสื่อและสิ่งพิมพ์จะเพิ่มสูงขึ้น จากความต้องการบริโภคข่าวสารที่มากขึ้นของประชาชน แต่การชะลอตัวทางเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยลบต่อความต้องการลงโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลลบต่อบริษัทในอุตสาหกรรมนี้
3) กลุ่มที่ได้รับผลกระทบน้อย เป็นบริษัทที่ได้รับการปกป้องความเสี่ยงจากความผันผวนของความต้องการและราคาสินค้า ได้แก่ กลุ่มพลังงาน เนื่องจากลูกค้าทริสในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะมีสัญญาซื้อขายระยะยาวกับรัฐวิสาหกิจโดยสัญญาระบุราคาซื้อขายไว้ล่วงหน้า กลุ่มโทรคมนาคม ลูกค้าของทริสในกลุ่มนี้มีผลประกอบการดีอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะบริษัทที่จำหน่ายโทรศัพท์มือถือเนื่องจากทิศทางราคาที่ลดลงและตลาดในประเทศที่ยังไม่อิ่มตัว อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าคาดว่าการแข่งขันจะรุนแรงขึ้นจากการมีผู้ประกอบการรายใหม่ และ กลุ่มสินค้าอาหารพื้นฐาน ที่มีราคาถูกและบริโภคภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ ไก่เนื้อและผลผลิตจากไก่ เป็นต้น
ทั้งนี้ กรรมการผู้จัดการทริสกล่าวว่าการประเมินผลกระทบดังกล่าวพิจารณาจากกลุ่มลูกค้าที่จัดอันดับเครดิตกับทริสเท่านั้น ส่วนผลกระทบที่อาจจะมีต่อผู้ประกอบการรายอื่นในธุรกิจเดียวกันนั้น อาจแตกต่างออกไป เนื่องจากลักษณะของการประกอบการและคุณภาพการบริหารที่ต่างกันกรรมการผู้จัดการทริสกล่าวย้ำว่าแม้ในขณะนี้ทริสยังไม่มีการปรับอันดับเครดิตของลูกค้า แต่การติดตามสถานการณ์ยังต้องดำเนินต่อไปหากการสู้รบยังคงยืดเยื้อและมีความรุนแรงมากกว่าที่คาดไว้ และหากมีผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทที่ทริสจัดอันดับเครดิต ก็จะต้องมีการทบทวนอันดับเครดิตต่อไป- จบ