ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A” ด้วยเช่นกัน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปลงทุนตามแผน
อันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานที่ได้รับการยอมรับของบริษัทในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ตลอดจนการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรในกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์และการจำหน่ายสินค้าภายใต้ตราสินค้าของบริษัท อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากราคาที่ไม่แน่นอนของสินค้าโภคภัณฑ์ของบริษัท ตลอดจนความผันผวนของธัญพืชที่เป็นวัตถุดิบหลักของอาหารสัตว์ ความเสี่ยงจากโรคระบาด และการเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีนำเข้าของประเทศผู้นำเข้าสินค้า
ผลประกอบการของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 ได้รับผลจากราคาสุกรที่อ่อนตัวลงมาก จากภาวะอุปทานส่วนเกิน อัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.4% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 เทียบกับ 4.1% ในปี 2558 และ 5.1% ในปี 2559 กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายของบริษัทลดลงมาอยู่ที่ 1,412 ล้านบาท เทียบกับ 4,000-4,400 ล้านบาทในปี 2558-2559 จากราคาผลิตภัณฑ์ที่อ่อนแอ และการลงทุนที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ภาระหนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้น โดยเงินกู้รวมเพิ่มขึ้นจาก 11,911 ล้านบาทในปี 2559 มาอยู่ที่ 16,425 ล้านบาท ณ เดือนกันยายน 2560 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัท ณ เดือนกันยายน 2560 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 51.1% จาก 42.8% ณ สิ้นปี 2559 กระแสเงินสดส่วนเกินเพื่อรองรับการชำระหนี้ก็ลดลงแต่ยังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ในช่วงวงจรราคาสัตว์บกที่ตกต่ำ โดยอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายอยู่ที่ระดับ 4.9 เท่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 เทียบกับระดับ 12.5 เท่าในปี 2559
การลดลงของราคาสัตว์บกจะยังคงส่งผลลบต่อระดับกำไรของบริษัทในระยะสั้น ทั้งนี้ คาดว่าอัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของราคาสัตว์บกตามวงจรธุรกิจ ภายใต้สมมติฐานของทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโตจาก 83,732 ล้านบาทในปี 2559 เป็นระดับประมาณ 100,000 ล้านบาทในปี 2563 กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายน่าจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4,000-7,000 ล้านบาทในปี 2561-2563 ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีแผนการลงทุนจำนวนมากเป็นประมาณ 6,000-8,000 ล้านบาทต่อปีในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าจากเดิมที่ประมาณ 2,500-3,500 ล้านบาทต่อปีระหว่างปี 2557-2559 แผนลงทุนที่เพิ่มขึ้นเป็นการลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจฟาร์ม ตลอดจนขยายโรงงานผลิตอาหารสัตว์และโรงงานแปรรูปเพื่อผลิตอาหารสำเร็จรูป ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงบริหารจัดการอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมถึงแม้จะอยู่ในช่วงการลงทุนจำนวนมากก็ตาม โดยอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายคาดว่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 7-8 เท่า และอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมจะอยู่ที่ประมาณ 18%-21% ในระยะปานกลาง
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทเบทาโกรจะยังคงสามารถดำรงสถานะผู้ผลิตรายใหญ่ในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารของไทยต่อไป โดยบริษัทจะสามารถรักษาอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่ระดับประมาณ 50% ในขณะที่มีการขยายงาน
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
โอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทมีค่อนข้างจำกัดในระยะสั้นเนื่องจากอยู่ในช่วงการลงทุนจำนวนมาก กอปรกับเป็นช่วงวงจรขาลงของธุรกิจสัตว์บก ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากการแข่งขันทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นจนส่งผลทำให้ความสามารถในการทำกำไรและกระแสเงินสดเพื่อรองรับการชำระหนี้ของบริษัทลดลงอย่างต่อเนื่อง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 ? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2561 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html