ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และอันดับเครดิตพันธบัตรเดิมที่ออกโดย สปป.ลาว ที่ระดับ “BBB+” และแนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” โดยอันดับเครดิตสะท้อนสถานะเครดิตของ สปป.ลาว ซึ่งเป็นประเทศขนาดเล็กกำลังพัฒนาขนาดเศรษฐกิจเล็กและเติบโตอย่างรวดเร็ว อันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของภาระหนี้ต่างประเทศของรัฐบาล สปป.ลาว ตลอดจนการเพิ่มขึ้นของการขาดดุลการคลัง และขนาดของทุนสำรองระหว่างประเทศที่ยังอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่ารัฐบาล สปป.ลาว ยังต้องพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากต่างประเทศต่อไป เพื่อใช้ในการลงทุนของภาครัฐในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ในขณะที่การขาดแคลนข้อมูลที่ทันสมัย ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการคลังก็เป็นอีกข้อจำกัดต่ออันดับเครดิตของ สปป.ลาว
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
เศรษฐกิจที่ขยายตัว
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product -- GDP) ของ สปป.ลาว คาดว่าจะขยายตัวด้วยอัตราการเติบโตที่แท้จริงที่ระดับ 6.9% ในปี 2560 ตามข้อมูลของธนาคารแห่ง สปป.ลาว โดยเศรษฐกิจของ สปป.ลาว ในปี 2561 เมื่อพิจารณาจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ คาดว่าจะขยายตัวอยู่ในช่วงระหว่าง 6.5%-7.0% ทั้งนี้ การเติบโตของเศรษฐกิจของ สปป.ลาว แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการฟื้นตัวในปี 2561 เนื่องมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ตลอดจนการขยายตัวของกิจกรรมการก่อสร้างและการส่งออก
การขาดดุลการคลังเพิ่มขึ้น
ดุลการคลังของรัฐบาล สปป.ลาว ขาดดุลเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2558 โดยในปี 2560 รัฐบาลมียอดการขาดดุลการคลังเท่ากับ 941.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 46.86% จาก 641 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2558 การเพิ่มขึ้นของการขาดดุลการคลังมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายจ่ายภาครัฐที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในขณะที่รายได้ขยายตัวในอัตราที่ช้ากว่า อันเนื่องมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาล สปป.ลาว ประมาณการว่ารายได้ของรัฐบาลในปี 2561 จะขยายตัว 9.49% เปรียบเทียบกับอัตราการขยายตัว 3.86% ในปี 2560 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายรัฐบาลคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 8.9% ในปี 2561 เปรียบเทียบกับอัตราการขยายตัว 7.1% ในปี 2560
เงินทุนสำรองระหว่างประเทศปรับตัวดีขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับต่ำ
จากข้อมูลของธนาคารแห่ง สปป.ลาว ระบุว่าเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของ สปป.ลาว ณ สิ้นปี 2560 อยู่ที่ระดับ 1,015.83 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 24.66% จาก 814.83 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นปี 2559 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สปป.ลาว มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ระดับโดยเฉลี่ย 859 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้อัตราส่วนของภาระหนี้ต่างประเทศที่ต้องชำระต่อเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมีอัตราเฉลี่ยเท่ากับ 33.47% ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนดังกล่าวของ สปป.ลาว จะเท่ากับ 45.66% ในปี 2560 และเท่ากับ 47.31% ในปี 2561 ภายใต้สมมติฐานขั้นพื้นฐานของทริสเรทติ้ง
ภาระหนี้จะยังคงเพิ่มสูงขึ้นในระยะปานกลาง
หนี้ต่างประเทศของ สปป.ลาว คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับสูงกว่า 8,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นปี 2560 ซึ่งอยู่ในระดับเท่ากับประมาณ 50% ของ GDP ในปีเดียวกัน ทั้งนี้ หนี้ต่างประเทศทั้งหมดใช้เพื่อการชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนด และเพื่อการลงทุนของภาครัฐในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ รวมทั้งโครงการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ ทริสเรทติ้งคาดว่ารัฐบาลของ สปป.ลาว จะยังคงต้องพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากต่างประเทศทั้งในรูปของเงินกู้ยืมทวิภาคีและการออกหุ้นกู้ในตลาด
ตราสารหนี้ในประเทศไทยต่อไปเพื่อนำเงินที่ได้มาใช้ชดเชยการขาดดุลงบประมาณในระยะปานกลาง
เงินกู้พหุภาคีและทวิภาคีเป็นสัดส่วนใหญ่ของหนี้ต่างประเทศของรัฐบาล
พันธบัตรรัฐบาลของ สปป.ลาว ที่ออกในประเทศไทยมีมูลค่าคงเหลือ ณ สิ้นปี 2560 เท่ากับ 1,436.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 16.74% ของมูลค่าหนี้ต่างประเทศทั้งหมดของรัฐบาล เงินกู้ทวิภาคีซึ่งส่วนมากเป็นเงินกู้โครงการ (Project Loans) ระยะยาวแบบทยอยชำระคืนเงินต้นเพื่อใช้ในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลคิดเป็นสัดส่วนที่มากที่สุด (64.82% ณ สิ้นปี 2560) ของหนี้ต่างประเทศทั้งหมดของรัฐบาล ทั้งนี้ มากกว่า 50.0% ของหนี้เงินกู้จากต่างประเทศคงเหลือซึ่งรวมเงินกู้ทวิภาคีและพหุภาคีนั้นเป็นหนี้ของเจ้าหนี้จากประเทศจีน
เสถียรภาพทางการเมืองทำให้เกิดความต่อเนื่อง
สปป. ลาว มีเสถียรภาพทางการเมืองมาเป็นเวลานานกว่า 40 ปีนับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองและสถาปนาประเทศใหม่เป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอย่างเป็นทางการในปี 2518 ระบบการปกครองประเทศของ สปป. ลาว ประกอบด้วยพรรคการเมืองเดียวคือพรรคประชาชนปฏิวัติลาว (Lao People’s Revolutionary Party) โดยมีสภาแห่งชาติแห่ง สปป. ลาว (National Assembly of the Lao PDR) เป็นคณะผู้มีอำนาจบริหารประเทศซึ่งจะเป็นผู้แต่งตั้งประธานาธิบดีแล้วให้ประธานาธิบดีเลือกนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอื่น ๆ โดยได้รับความเห็นชอบจากสภาแห่งชาติแห่ง
สปป. ลาว การเมืองที่มีเสถียรภาพสูงทำให้รัฐบาล สปป. ลาว สามารถดำเนินนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” สะท้อนความกังวลของทริสเรทติ้งในเรื่องภาระหนี้ของรัฐบาล สปป.ลาว ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะที่เงินทุนสำรองระหว่างประเทศยังอยู่ในระดับต่ำ หนี้ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นจะเพิ่มภาระในการชำระคืนหนี้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศของรัฐบาลในระยะปานกลางถึงระยะยาวและยังเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อเงินทุนสำรองระหว่างประเทศด้วย นอกจากนี้ หนี้ต่างประเทศจำนวนมากยังทำให้รัฐบาล สปป. ลาว มีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอีกด้วย
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิต/แนวโน้มเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Stable” หรือ “คงที่” ขึ้นอยู่กับการลดลงของหนี้ต่างประเทศของรัฐบาล สปป.ลาว รวมถึงการเพิ่มขึ้นของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ และการลดลงของการขาดดุลการคลังอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ในขณะที่การขยายฐานภาษีให้กว้างขึ้น ตลอดจนความสำเร็จของการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำและโครงการก่อสร้างอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศของรัฐบาล สปป.ลาว จะเพิ่มรายได้ให้แก่รัฐบาลและลดระดับการพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากต่างประเทศลง
ในทางกลับกัน การลดลงอย่างมีนัยสำคัญของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศและการเพิ่มขึ้นของหนี้ต่างประเทศของรัฐบาลอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เป็นลบต่ออันดับเครดิตของ สปป.ลาว
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว)
อันดับเครดิตประเทศ: BBB+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
MOFL186A: พันธบัตรรัฐบาล 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 BBB+
MOFL19NA: พันธบัตรรัฐบาล 4,802.90 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 BBB+
MOFL206A: พันธบัตรรัฐบาล 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 BBB+
MOFL20OA: พันธบัตรรัฐบาล 2,791.30 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 BBB+
MOFL21NA: พันธบัตรรัฐบาล 1,870.50 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 BBB+
MOFL22OA: พันธบัตรรัฐบาล 1,019.80 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 BBB+
MOFL23NA: พันธบัตรรัฐบาล 1,063.80 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 BBB+
MOFL24OA: พันธบัตรรัฐบาล 340.90 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 BBB+
MOFL256A: พันธบัตรรัฐบาล 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 BBB+
MOFL26NA: พันธบัตรรัฐบาล 1,371.50 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 BBB+
MOFL27OA: พันธบัตรรัฐบาล 2,967.00 ล้านบาท ไถ่ถอน 2570 BBB+
MOFL28NA: พันธบัตรรัฐบาล 1,891.30 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 BBB+
MOFL29OA: พันธบัตรรัฐบาล 1,505.50 ล้านบาท ไถ่ถอน 2572 BBB+
MOFL32OA: พันธบัตรรัฐบาล 5,375.50 ล้านบาท ไถ่ถอน 2575 BBB+
MOFL25DA: พันธบัตรรัฐบาล 162 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไถ่ถอนปี 2568 BBB+
MOFL27DA: พันธบัตรรัฐบาล 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไถ่ถอนปี 2570 BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative