ทริสเรทติ้งมองว่าอันดับเครดิตของ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) (SPALI) และ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) (MK) ไม่ได้รับผลกระทบจากการที่ SPALI ประกาศทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ MK โดยสมัครใจ ทริสเรทติ้งเชื่อว่าระดับการก่อหนี้ของ SPALI จะไม่เพิ่มขึ้นมากนัก และธุรกิจของ SPALI เองก็ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจาก MK มีขนาดธุรกิจค่อนข้างเล็ก ในอีกด้านหนึ่ง เราเชื่อว่าการทำคำเสนอซื้อดังกล่าวจะส่งผลค่อนไปทางบวกต่อ MK โดยสถานะทางธุรกิจและการเงินที่แข็งแกร่งกว่าของ SPALI อาจช่วยเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันให้แก่ MK
คณะกรรมการบริษัทของ SPALI เพิ่งมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ บริษัท ศุภาลัย พรอพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SPM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ MK โดยสมัครใจที่ราคา 4.10 บาทต่อหุ้นหรือคิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 4,067.24 ล้านบาท
ในมุมมองของทริสเรทติ้ง สถานะทางธุรกิจและการเงินของ SPALI จะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญหลังการซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าว โดยหากซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดที่ 4,067.24 ล้านบาท อัตราส่วนเงินกู้ต่อโครงสร้างเงินทุนของ SPALI อาจเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 50% จากประมาณ 39% ณ เดือนมีนาคม 2561 ซึ่งระดับดังกล่าวยังคงสอดคล้องกับอันดับเครดิตของ SPALI ทริสเรทติ้งเชื่อว่าการซื้อในครั้งนี้จะไม่ทำให้รายได้และกำไรของ SPALI เพิ่มขึ้นมากนัก โดยในปี 2560 รายได้ของ MK คิดเป็น 12% ของรายได้ของ SPALI ในขณะที่กำไรสุทธิของ MK คิดเป็น 4% ของกำไรของ SPALI ผลประโยชน์จากการกระจายความเสี่ยงที่ SPALI อาจได้รับก็ยังไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากทั้ง SPALI และ MK ต่างมีฐานลูกค้าหลักเหมือนกันคือกลุ่มระดับรายได้ปานกลาง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าในปัจจุบันของ MK ก็ยังค่อนข้างเล็ก
ในทางตรงกันข้าม หากการทำคำเสนอซื้อโดยสมัครใจดังกล่าวประสบผลสำเร็จ MK อาจได้รับการช่วยเหลือทางธุรกิจและการเงินจาก SPALI ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันแก่ MK อย่างไรก็ตาม ผลประโยชน์ที่ได้รับจะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ของทั้ง 2 บริษัทในภายหลัง